“คุณพันคิดมากไปหรือเปล่าคะ ช่วงนี้คุณแสนยุ่งๆ น่ะค่ะ เลยอาจไม่ได้สนใจเรื่องยิบย่อยในบ้านเท่าไร” “ทีแรกผมก็คิดว่าแบบนั้นครับ แต่หลายๆ ครั้งก็บังเอิญเห็นพี่แสนมายืนมองห้องผมบ่อยๆ มองแล้วก็ยิ้ม” เขาขอโทษพี่ชายอยู่ในใจ ที่ยืมใช้ชื่อโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน “บางทีก็เหมือนมารอจะคุยกับเด็กคนนั้น แล้วถึงเดินกลับห้องไป ตอนไปก็ยิ้มหน้าบานเลยนะครับ” ถ้าชาวบ้านเรียกการแยกเขี้ยวบ่นเจ้าเติ้ลบ้าง เจ้ายุ่งบ้าง หรือแม้แต่เจ้าสิบกับลูกชายตัวอ้วนอย่างเจ้าเหนือ ที่ชอบมาสร้างความวุ่นวายหน้าห้องช่ออัญชัน ว่ายิ้มได้ เขาก็คิดว่าพี่แสนคงยิ้มบ่อยๆ นั่นละ “ก็อย่างว่านะครับ ห้องผมอยู่ใกล้ห้องครีมด้วย คงใกล้หูใกล้ตาดี พี่แสนเลยไม่อยากให้เด็กคนนั้นย้าย” “ครีมว่าคุณพันเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ” เธอต้องเชื่อมั่นในตัวสามีสิ “ครับๆ ผมคงเข้าใจผิดจริงๆ นั่นแหละ เด็กคนนั้นก็แค่หน้าตาดี อ่อนวัย บอบบางแบบที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบกัน