เวลา 18.00 น. @หน้าห้องสตูดิโอ
“ฮัลโหล” กวินทร์กดรับสายหลังจากเสียงโทรศัพท์ดังรบกวนเขาขณะที่กำลังคุยกันเรื่องงานวันพรุ่งนี้
(วันนี้คุณควินน์จะเข้ามาทานข้าวที่บ้านใหญ่หรือเปล่าครับ) เสียงปลายสายเอ่ยถามทันทีหลังจากที่กวินทร์เอ่ยออกมาแล้ว
“วันนี้เหรอครับ” กวินทร์เลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจพร้อมทั้งกำลังพยายามนึกว่าวันนี้มันคือวันอะไร ทำไมพ่อบ้านใหญ่ของคุณปู่ถึงได้โทรมาตามเขาด้วยตัวเอง
(วันนี้วันจันทร์ครับ แต่วันนี้เป็นวันที่ท่านเจ้าสัวกับคุณนายใหญ่กลับมาจากฮ่องกงครับ)
“อ๋อ คุณปู่กับคุณย่ากลับมาวันนี้เองเหรอ ผมก็ลืมไปเสียซะสนิทเลยครับ”
(ตกลงคุณควินน์จะเข้ามาบ้านใหญ่ไหมครับ)
“อืมม เดี๋ยวผมเข้าไปครับ” กวินทร์บอกปลายสายออกไปก่อนจะกดวางสายหลังพูดจบ ไม่รอให้ปลายสายได้พูดอะไรต่อ แล้วเขาก็จะหันไปยังผู้จัดการสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกลที่กำลังคุยอะไรสักอย่างกับเหล่าสมาชิกในวงของเขาอยู่
อีกด้านหนึ่ง @ด้านในห้องสตูดิโอ
“พรุ่งนี้มีซ้อมดนตรีตอนเจ็ดโมงเช้านะคะ หลังจากซ้อมดนตรีเสร็จสิบโมงเช้าจะมีอัดรายการที่สยามพารากอนชั้น 10 ตามด้วยมินิคอนเสิร์ตตอนบ่ายสอง แล้วปิดท้ายด้วยตอนหกโมงเย็นมีสัมภาษณ์สดในห้องแถลงข่าวที่บริษัทค่ะ ตารางของพรุ่งนี้ก็มีเท่านี้ค่ะ เอ่อ จะให้รถไปรับพวกคุณกันสักกี่โมงดีคะ” ฉันบอกตารางงานของวันพรุ่งนี้ให้กับเหล่าสมาชิกวงแบดกายก่อนที่จะมีบางคนขอแยกตัวไม่กลับไปพร้อมกับรถลีมูซีนของบริษัท
ซึ่งในตอนแรกก็อยู่ฟังกันครบทั้งห้าคนนั่นแหละ แต่สักพักก็ดันมีเสียงโทรศัพท์ของควินน์ดังขึ้นมาไม่หยุด จนเขาต้องขอตัวแยกไปคุยโทรศัพท์โดยบอกให้ฉันบอกงานในส่วนที่เหลือกับทุกคนต่อได้เลยแล้วเขาจะถามคนอื่นๆเอง เมื่อฉันเห็นเขาเดินไปแล้วจึงบอกรายละเอียดงานต่อ แล้วเขาก็เดินมาในช่วงท้ายที่ฉันกำลังพูดจบพอดี ทำให้ฉันได้มีจังหวะสบตากับสายตาคู่นั้นพอดีอย่างบังเอิญแล้วก็ต้องรีบหลบสายตาเบือนหน้าไปทางอื่นเมื่อเห็นสายตาคู่นั้นจ้องมาที่ฉันเหมือนกัน
“มารับพวกเราสักหกโมงเช้าก็ได้ครับ” ชินตอบออกมาซึ่งเขาเป็นเสมือนตัวแทนของทุกคนสมกับเป็นหัวหน้าวงจริงๆ เพราะหลังชินพูดจบแล้วก็มีสายตาจากทุกคนที่บอกว่าเอาตามนี้ รวมถึงเขาด้วยอีกคน
“งั้นตามนี้นะคะทุกคน” ฉันพยายามไม่สนใจสายตาคู่นั้นที่มองมาแล้วทำการจบการสนทนากับทุกคนทันที ก่อนที่พวกเราทุกคนจะแยกย้ายเดินทางกลับไปพักตามอัธยาศัย
“พี่ควินน์ไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ นี่ตกลงกันว่าจะไปกินที่ร้านประจำของพวกเรากัน” เสียงของคิงดังขึ้นมา หลังจากที่ฉันกำลังเดินหันหลังออกไปจากประตูของสตูดิโอโดยพยายามไม่สนใจในสิ่งที่ได้ยิน
“พี่ต้องเข้าไปทานข้าวที่บ้านใหญ่” กวินทร์ตอบราชันย์กลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ในขณะที่สายตาของเขาเหลือบไปมองด้านหลังของรสาที่กำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆอย่างไม่วางตาก่อนจะหันมาคุยกับราชันย์ต่อ
“อ้าว วันนี้ไม่ใช่วันศุกร์นี่พี่” แล้วเสียงของราชันย์ก็ต้องทำให้กวินทร์หันมาโฟกัสกับบทสนทนากับรุ่นน้องในวงต่อ
“พอดีว่าคุณปู่กับคุณย่ากลับมาจากฮ่องกงวันนี้” กวินทร์บอกถึงสาเหตุที่ต้องไปฉุกละหุก เพราะโดยปกติแล้วคุณปู่และคุณย่าของกวินทร์ไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทยเป็นหลัก ท่านทั้งสองมักจะไปๆมาๆระหว่างฮ่องกง สิงคโปร์ และประเทศไทย
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง เสียดายว่ะ นึกว่าวันนี้จะได้อยู่กันครบ” ราชันย์พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเซ็งๆอย่างเป็นกันเองกับคนตรงหน้า
“อืมม ไว้โอกาสหน้าแล้วกัน”
กวินทร์โบกมือลาทุกคนก่อนจะเดินแยกตัวออกไปขึ้นรถของตัวเองที่ให้คนของเขาขับรถมาไว้ให้ที่นี่ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกลับรถลีมูซีนของบริษัทแล้วขับรถย้อนไปมาอีกทีให้เสียเวลา
ในจังหวะที่กวินทร์กำลังขับรถออกจากสตูดิโอ เขาก็เหลือบไปเห็นรสาที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปยังถนนใหญ่พอดีอย่างสงสัย เพราะเขาคิดว่าเธอน่าจะกลับกับรถของบริษัทพร้อมกับพวกเพื่อนๆสมาชิกของเขาในวง
“บริ๊น!!” เสียงแตรรถหรูของกวินทร์ดังขึ้น ทำให้คนที่กำลังเดินอยู่ถึงกับแสดงอาการตกใจออกมาพร้อมกับสำรวจว่าตัวเองเดินขวางทางถนนอยู่หรือเปล่าถึงได้มีรถบีบแตรไล่ แต่พอเธอหันมามองตามเสียงแตรรถคันดังกล่าวก็พบว่าเป็นรถของกวินทร์ที่ขับมาใกล้เธอแล้วค่อยๆชะลอพร้อมกับเปิดกระจกลงมา
“ทำไมไม่กลับรถบริษัทล่ะครับ”
“อ๋อ พี่ เอ่อ ฉัน คือที่พักของฉันอยู่แถวนี้ค่ะ เลยไม่ได้กลับพร้อมรถของบริษัท”
“ที่พักอยู่ตรงไหน เดี๋ยวผมไปส่ง” กวินทร์เอ่ยอาสาทันทีเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเดินเพียงลำพังในเวลาที่ค่ำมืดซึ่งเป็นอันตรายสำหรับผู้หญิงมาก
“ไม่เป็นไรค่ะ เดินไปนิดเดียวก็ถึงแล้ว ควินน์ต้องรีบไปที่อื่นต่อไม่ใช่เหรอ ฉันไปเองได้ไม่รบกวนดีกว่า ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันตอบออกไปอย่างเกรงใจ
ซึ่งในขณะที่กำลังพูดกับควินน์อยู่นั้น ฉันก็เหลือบไปเห็นถนนที่ว่างไม่มีรถวิ่งสวนจึงรีบเดินออกมาอย่างเร็ว โดยข้ามถนนไปอีกฝั่งตรงข้ามเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายต้องลำบากไปส่ง จนฉันเห็นรถของเขาขับผ่านไป ฉันจึงเดินต่อไปเรื่อยๆเพื่อไปยังคอนโดของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลจากสตูดิโอที่สมาชิกเหล่าแบดกายมาทำงาน
เวลา 18.30 น. @บ้านใหญ่ของครอบครัวกวินทร์
“คุณควินน์” คนรับใช้ของบ้านรีบเข้ามาเปิดประตูด้านฝั่งคนขับทันทีที่รถจอดเทียบท่าที่หน้าบ้านพร้อมกับเอ่ยทักทายผู้เป็นนายอย่างกระตือรือร้น
“เจ้าสัวใหญ่ คุณนายใหญ่ และเจ้าสัวกับคุณนายอยู่ที่ห้องอาหารครับ แล้ววันนี้มีแขกมารับประทานอาหารด้วยนะครับ”
“อืมม รู้แล้ว เอารถไปเก็บให้ด้วยนะ” กวินทร์ไม่รอฟังต่อ เขาเดินเข้าไปด้านในบ้านทันที โดยไม่รอให้อีกฝ่ายที่กำลังบอกว่ามีสาวสวยมากับคุณนายด้วยอีกคน