สองปีต่อมา @บริษัท Aria Studio
“ทางทีมงานจะรีบหาผู้จัดการวงคนใหม่ให้กับทางวงแบดกายให้เร็วที่สุดครับ” หนึ่งในทีมงานฝ่ายบริหารรายงานให้คุณพิศิษฐ์ ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายเพลงดังที่นั่งฟังรายงานประจำเดือนจากทีมงานแต่ละฝ่าย
“อืมม แล้วช่วงที่ขาดผู้จัดการวงล่ะ ใครจะมาดูแลวงแบดกาย” คุณพิศิษฐ์เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับมองหน้าทีมงานแต่ละคนในที่ประชุมอย่างขอความคิดเห็นกับปัญหาที่เจอตอนนี้
“เอ่อ / เอ่อ / เอ่อ...คือว่า” เหล่าทีมงานพากันมองหน้ากันอย่างใช้ความคิดกันว่าใครจะเป็นตัวแทนของทุกคนเป็นหน่วยกล้าตายดูแลวงดนตรีชื่อดังระดับเอเชียนี้แทนผู้จัดการวงคนเก่าที่ขอลาออกไปอย่างกะทันหันจนไม่มีใครตั้งตัวได้
วงแบดการ (Bad Guys) หรือ BG วงดนตรีที่ดังไปทั่วเอเชีย ไม่มีใครที่ไม่รู้จักวงนี้ ซึ่งสมาชิกในวงมuด้วยกัน 5 คน คือ
เริ่มต้นจาก ชิน หรือ ชนา เป็น หัวหน้าวง และเล่นตำแหน่ง มือเบส พี่ใหญ่ของวงแบดกาย เรียนจบจากประเทศอังกฤษ ด้วยวุฒิปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ ลูกชายคนโตของเจ้าสัวชนก เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของประเทศ นิสัยส่วนตัวของชินนั้นจะเป็นคนนิ่งๆจะเรียกว่า นิ่งที่สุดในวงก็ว่าได้ สุขุม รอบคอบ พูดน้อย และเป็นที่พึ่งให้กับน้องๆในวงได้เป็นอย่างดี
คนที่สอง ตุลย์ หรือ ตุลา ตำแหน่ง มือกลอง แต่ฝีมือการตีกลองเป็นที่หนึ่งของประเทศก็ว่าได้ ก่อนที่จะมาเป็นสมาชิกในวงแบดกาย เขาได้ผ่านการประกวดการตีกลองมามากมาย จนถึงขั้นเป็นตัวแทนของประเทศไปแข่งระดับโลกมาแล้ว นิสัยส่วนตัวของเขานั้น ใจดีจนเหมือนเจ้าชู้ แต่จะว่าเจ้าชู้ก็ไม่ได้เพราะซุปตาร์หนุ่มนั้นยังไม่มีคนพิเศษที่เรียกว่าคนรักเลยตั้งแต่ออกจากท้องแม่มา ดีกรีการศึกษาก็ไม่ขี้เหล่ จบคณะบริหารธุรกิจ และเป็นทายาทคนเล็กของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆเช่นเดียวกับชนา
คนที่สาม ควินน์ หรือ กวินทร์ ตำแหน่ง มือคีย์บอร์ด หนุ่มเย็นชาจนได้ฉายา เจ้าชายน้ำแข็ง เพื่อนรักของ ตุลย์ เพื่อนในวงที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม นิสัยก็ตามฉายา และบวกอีกหนึ่งนิสัยคือ โกรธยาก แต่ถ้าใครที่ทำให้เขาโกรธได้นี่คือสุดยอดโคตรพ่อโคตรแม่กวนตีนแล้วล่ะ ส่วนด้านการศึกษาก็ใช่ย่อย เขาจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาลัยเดียวกันกับเพื่อนรัก ทายาทคนเดียวของนักธุรกิจด้านอัญมณี ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องมาสืบทอดธุรกิจแทนพ่อแม่หลังจากที่เรียนจบ
คนที่สี่ คิง หรือ ราชันย์ ตำแหน่ง มือกีตาร์ หนุ่มหัวร้อนที่สุดในวง อะไรที่ไม่ทันใจหรือไม่ได้ดั่งใจ เป็นอันพังพินาศที่นั่น แค่ชื่อก็สื่อถึงความยิ่งใหญ่ จะไม่ยิ่งใหญ่ได้ไง เป็นถึงทายาทห้างดังที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย เห็นหัวร้อนแบบนี้ ดีกรีการศึกษาก็ไม่ด้อยเลย จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาลัยเดียวกันกับเพื่อนรัก
คนสุดท้าย ลม หรือ พายุ ตำแหน่ง นักร้องนำ สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในวง จบจากคณะแพทยศาสตร์ของมหาลัยชื่อดัง และสาวๆให้ฉายาว่า หมอสายลม นอกจากดีกรีว่าที่คุณหมออายุน้อยแล้ว ยังเป็นถึงทายาทคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง ที่มีสาขาตามจังหวัดใหญ่ๆ นิสัยส่วนตัวอบอุ่น มองโลกในแง่บวกมาก ใจดี ทำให้สาวๆหลายคนอยากเป็นเมียมโนของหมอสายลม
จากความหล่อและคุณสมบัติของแต่ละคนที่ไม่ได้ดีทางด้านดนตรีกันอย่างเดียวนั้น ทำให้สมาชิกทุกคนในวงมักจะเป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน ฝีมือด้านดนตรีและร้องเพลงก็ดีเยี่ยมที่สุดในวงดนตรีที่มีทั้งหมดในประเทศไทย จึงทำให้พวกเขาทั้งห้าคนใช้เวลาสร้างความโด่งดังเพียงข้ามปีเท่านั้น
แต่ด้วยความอินดี้ของสมาชิกแต่ละคนที่ไม่ใช่งานไหนพวกเขาก็รับหมด ยิ่งเข้าสู่ปีที่สองที่งานเข้ามาหาสมาชิกแต่ละคนวันหนึ่งเรียกได้ว่าไม่ต้องหลับต้องนอนกันเลยทีเดียว ซึ่งกฎการรับงานของสมาชิกในวงแบดกาย คือ งานอะไรก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานเพลง พวกเขาทั้งห้าคนจะไม่รับงานโดยเด็ดขาด ทำให้สร้างความลำบากใจและเป็นปัญหาของผู้จัดการวงเป็นอย่างมากที่ต้องคอยปฏิเสธงานให้สมาชิกแต่ละคนในวงแบดกาย จึงทำให้มีการเปลี่ยนผู้จัดการวงถึงห้าคนในรอบสองปี
“ว่าไง ช่วงหาผู้จัดการวงคนใหม่ ใครจะมาดูแลพวกเขาก่อน ว่าไงครับ” คุณพิศิษฐ์มองหน้าทีมงานแต่ละคนอีกครั้ง คราวนี้ทีมงานที่นั่งอยู่นั้นพากันก้มหน้าหลบสายตาไม่ยอมสบตาเจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่กันเลยทีเดียว
“เฮ้อ ทำไงนะ” คุณพิศิษฐ์เริ่มพูดพึมพำกับตัวเองอย่างใช้ความคิดว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
“คุณพิศิษฐ์คะ ถ้าหากวาวจะขอเสนอน้องสาวตัวเองมาช่วยดูแลวงแบดกายชั่วคราวในช่วงที่หาผู้จัดการคนใหม่ของวงแบดกาย คุณพิศิษฐ์จะว่ายังไงคะ” แววดาวที่เห็นทุกคนหลบสายตาและไม่มีใครตอบคำถามของเจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่กันเลย ทำให้เธอตัดสินใจลองเสนอไอเดียของตัวเองดู
“คุณวาวมีน้องสาวด้วยเหรอ”
“เอ่อ รุ่นน้องที่สนิทค่ะ เธอจบคณะนิเทศศาสตร์ เคยมาช่วยงานวาวอยู่หลายครั้งเกี่ยวกับการดูแลศิลปินในค่ายเรา ตอนนี้ทีมงานของเราทุกคนก็งานล้นมือกันไปหมด คุณพิศิษฐ์จะลองให้โอกาสน้องสาววาวพิสูจน์ความสามารถดูไหมคะ”
“เฮ้อ อืมม เฮ้อ แต่การดูแลวงแบดกายไม่ใช่เรื่องง่ายน่ะสิ น้องสาวคุณวาวจะทำได้แค่ไหน”
“วาวมั่นใจในความอดทนและการแก้ปัญหาของน้องสาววาวค่ะ อย่างน้อยวาวคิดว่าเธอน่าจะทำได้นานจนกว่าเราจะได้ผู้จัดการวงคนใหม่ให้กับวงแบดกาย”
“ถ้าในที่ประชุมนี้ไม่มีใครเสนอตัวเองดูแลวงดังระดับเอเชียกันเลย ผมคงต้องรับข้อเสนอของคุณวาวแล้วล่ะ” พิศิษฐ์เอ่ยออกไปปกึ่งประชดประชันพร้อมกับสอดสายตามองไปยังเหล่าทีมงานที่นั่งหน้าสลอนโดยไม่ยอมเสนอตัวเองช่วยเรื่องนี้เขาเลยสักคน
“ขอบคุณค่ะ คุณพิศิษฐ์ที่ให้โอกาสน้องสาวของวาว วาวจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ” แววดาวเอ่ยออกมาอย่างดีใจ พร้อมกับเสียงลอบถอนหายใจของทีมงานทุกคนที่รอดพ้นจากสถานการณ์อันตรายเฉียดตายไปได้
“เอาล่ะ วันนี้จบการประชุม แยกย้ายไปทำงานต่อกันได้” คุณพิศิษฐ์พูดปิดการประชุมก่อนจะเดินออกไปจากห้องประชุมเป็นคนแรก
“ขอบคุณมากนะครับคุณวาว / ขอบคุณมากนะคะคุณวาว / ขอบคุณมากนะวาว / ขอบคุณจริงๆนะวาว” เสียงขอบคุณจากทีมงานทุกคนที่ทยอยเดินออกไปจากห้องประชุม โดยที่บุคคลที่ถูกขอบคุณไม่มีโอกาสได้เอ่ยตอบกลับเพราะไม่มีช่วงจังหวะให้เธอได้พูดออกมาเลย
เวลา 16.00 น. @ร้านคาเฟ่
“ห๊ะ! พี่วาวว่ายังไงนะคะ” ฉันร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อได้ฟังประโยคที่พี่วาว พี่รหัสที่ฉันสนิทที่สุดบอกข่าวดีสำหรับพี่เขานะ ไม่ใช่สำหรับฉันเลยสักนิดที่ได้ยินประโยคที่เพิ่งได้ยินไปนั้น
“เอาล่ะ ฟังดีๆ ชัดๆ นะจ๊ะ น้องรักของพี่ ฉันเสนอแกให้ไปดูแลวงแบดกายในช่วงที่รอผู้จัดการวงคนใหม่กับคุณพิศิษฐ์ เจ้าของบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ที่ฉันทำงานอยู่”
“แบบนี้มันไม่ได้เรียกว่าข่าวดีสำหรับโรสเลยนะคะพี่วาว” ฉันตอบกลับออกไปด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินก็รู้ว่าคนพูดกำลังหดหู่ในขณะที่พูด
“หนึ่งก็คือตอนนี้แกตกงานอยู่ สองแกต้องการใช้เงินเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลลุงของแก แบบนี้ไม่เรียกว่าข่าวดียังไง”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ เริ่มงานอาทิตย์หน้า นี่ประวัติของพวกเขาทั้งห้าคน รวมถึงลักษณะนิสัย แกจะได้รับมือได้เวลาที่แกต้องไปดูแลพวกเขา”
“อาทิตย์หน้า แค่สามวันเองนะคะพี่วาว”
“ฉันถึงได้เอาเอกสารพวกนี้มาให้แกรีบศึกษาก่อนที่จะได้ไปเจอกับสถานการณ์จริงไง เอกสารพวกนี้ก็ช่วยแกได้เยอะอยู่นะ อย่างน้อยแกจะได้ทำตัวถูกว่าควรปฏิบัติกับแต่ละคนยังไง อ้อ ข้อควรระวังอย่างหนึ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น อย่าไปวุ่นวายกับควินน์ สมาชิกในวงที่เป็นมือคีย์บอร์ดมาก เพราะรายนี้ถึงจะเงียบๆ ไม่ค่อยพูดแล้ว ยังไม่ค่อยสุงสิงกับใครด้วย ฉันไม่อยากให้แกมีปัญหาขึ้น เพราะผู้จัดการวงที่ผ่านมาลาออกไปก็เพราะควินน์นี่ล่ะ”
“ควินน์...” ภาพผู้ชายเมื่อสองปีก่อนผุดขึ้นมาในหัวของฉันทันที เมื่อฉันเห็นหนึ่งในสมาชิกวงแบดกายที่พี่วาวเปิดให้ดู
“ทำไม แกรู้จักควินน์มากก่อนเหรอ”
“เปล่าค่ะ”
“อ๋อ ตกตะลึงในความหล่อของเขาล่ะสิ สมาชิกในวงนี้หล่อกันทุกคน ถึงดังไปทั่วเอเชียไง”
“ค่ะ หล่อจริงด้วย”
“พี่ต้องไปทำงานแล้ว แวะมาคุยกับแกแค่นี้ล่ะ อาทิตย์หน้าห้ามเรทนะ”
“ค่ะ พี่วาว” เมื่อพี่วาวเดินออกไปแล้ว ฉันยังคงนั่งมองเอกสารในมือที่พี่วาวเอามาให้อย่างเป็นกังวล
ภาพผู้ชายที่ชื่อ ควินน์ ทำเอาฉันกลัวและเป็นกังวลมาก แม้ว่าจะผ่านมาสองปีแล้ว แต่ฉันไม่เคยลืมคืนนั้นได้เลย