จบคำขอแสนร้ายกาจและแฝงไปด้วยความเอาแต่ใจนั้น ฝ่ามือร้อนๆ ของชายหนุ่มก็สอดเข้าไปในเสื้อยืดตัวเล็กที่หญิงสาวสวมใส่ ได้สัมผัสหน้าท้องเรียบเนียนที่ลื่นมือเป็นครั้งแรกอย่างถนัดถนี่ หลังจากเมื่อช่วงเวลาที่อยู่ในน้ำตกชายหนุ่มได้ลูบไล้ผ่านเสื้อผ้าที่เปียกลู่กายมาบ้างแล้ว คราวนี้ความเนียนนุ่มที่ได้แตะไล้มันช่างให้ความรู้สึกพิเศษยิ่งกว่าครั้งนั้นเป็นร้อยๆ เท่า และในเวลานี้ชายหนุ่มยังเห็นเหลือเกินว่าภายใต้เสื้อผ้านี้ความงามที่ถูกซุกซ่อนไว้จะน่ายล น่ามอง และน่าฝากรอยรักนั้นจะงดงามเพียงใด
“มะ...ไม่!” นิศากรร้องค้านปฏิเสธออกมา พยายามที่จะตะครุบมือใหญ่ที่สาละวนอยู่กับช่วงรูโบ๋ของสะดือ มืออีกข้างก็ยื้อชายเสื้อตัวเล็กนั้นไม่ให้ถูกอีกฝ่ายรั้งขึ้น แต่เขาก็เอาแต่ใจเหลือเกิน ทั้งมือทั้งปากร่วมกันทำให้เธอหายใจหายคอแทบไม่ทัน
“อื้อ...ปล่อยฉันนะ อื้อ...”
ริมฝีปากอุ่นร้อนบดขยี้ลงมาต้านทานคำคัดค้านที่หญิงสาวจะเปล่งออกมา จนร่างระหงถึงกับระทวยลงอย่างเห็นได้ชัด เธอปล่อยจากมือที่ยื้อยุดฉุดอุ้งมือร้อนผ่าวนั้นไว้สุดแรง หันมาจับยึดคอเสื้อชายหนุ่มไว้แน่น แม้พยายามบ่ายเบี่ยงใบหน้าหนีการรุกรานของปากร้อนๆ ที่สุดแสนเอาแต่ใจ แต่ต่อให้หนียังไงเขาก็มุ่งมั่นที่จะตามตื๊อ มอบจูบให้เธอร้อนๆ หนาวๆ ไปทั้งตัวอยู่ร่ำไป
“ผมยังไม่ได้บอกคุณเลย ว่าผมชื่อฟิวส์...เรียกผมว่าฟิวส์รู้ไหมครับ”
เพลิงอัคนีกระซิบบอก หลังจากบดจูบหนักๆ ลงกับเรียวปากอิ่มที่เจ่อขึ้นทันตา ฝ่ามือร้อนๆ ยังคงนวดเคล้นอยู่กับช่วงสะโพกคอดกิ่วและเวลานี้เริ่มไต่ระดับขึ้นวนเวียนอยู่กับใต้ฐานดอกบัวงามอันเต่งตึง ที่ตอนนี้คับแน่นอยู่กับบราเซียตัวสวย เนื้อผ้าชิ้นน้อยที่เขาหยิบยื่นให้เธอรวมๆ กับชุดอื่นๆ นับสิบตัว
“คุณชื่ออะไรฮึ! ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยนะ” สุ้มเสียงแหบพร่ากระซิบถามใกล้ๆ ปลายคางเล็กที่ตอนนี้หนวดเคราของเขาครูดจนเป็นรอยแดง ลากไล้ไปตามลำคอขาวผ่อง เรื่อยมาจนถึงติ่งหูเล็กข้างซ้าย
“ชื่ออะไรครับ”
คำไถ่ถามนุ่มนวลน่าฟังจนหญิงสาวต้องกัดฟันไว้แน่น
“มะ...ไม่บอก ฉันไม่อยากรู้จักคุณ”
นิศากรโพล่งออกมาเสียงดัง มือน้อยๆ นั้นยกผลักใบหน้าสากระคายออกห่าง แต่ยิ่งห้ามเขาก็ทำมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า พยายามขบไล้ไปตามผิวเนื้อจนทำให้ลำคอของเธอขึ้นสีแดงเป็นจ้ำๆ ต่อไปมันคงเขียวช้ำไม่น่ามองเป็นแน่
“อย่า...ฟะ...ฟิวส์...”
ปลายจมูกโด่งคมถูไถไปตามกรอบหน้าสวยของหญิงสาว จนร่างเล็กต้องย่นคอหนี เผลอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงหวานแผ่ว
“คุณชื่ออะไร บอกผม...ได้โปรด...”
คำถามน่าฟังกระทบเข้ามาในโสตประสาท หลังจากเพลิงอัคนีปล่อยให้ปลายลิ้นของตัวเองแตะไล้ใบหูสะอาดของหญิงสาว หนำซ้ำยังใช้ฟันคมๆ นั้นขบเบาๆ จนนิศากรต้องร้องครวญครางออกมาอย่างรัญจวนใจ ตรงไหนที่ทำให้เธอร้องหอบกระเส่าเขาช่างเก่งกล้าและเฟ้นหาจนสุดความสามารถ
“เอ่อ...ฉัน...”
หญิงสาวพยายามหาทางปิดปากเงียบ เอนเอียงหนีการรุกรานที่สุดแสนเอาแต่ใจนั้น หากมือร้อนๆ ที่เคลื่อนเข้าครอบครองอกนุ่มหยุ่นซึ่งมาพร้อมกับปลายลิ้นที่ลากไล้จากใบหูนุ่ม เข้ามาครอบครองกลีบปากนุ่มละมุนของเธออย่างแผ่วเบาราวกับขนนก มันทำให้สติที่เหลือน้อยนิดของนิศากรถึงกับกระเจิดกระเจิงไปไกลจนกู่ไม่กลับ
“อา...ลูกจันทร์ ฉันชื่อลูกจันทร์...”
คำตอบน่าฟังมาพร้อมกับแรงหอบหายใจสะท้าน อกร้อนๆ ที่ตกอยู่ภายใต้อุ้งมือร้อนผ่าวไร้อาภรณ์ขวางกั้นนั้นทำให้มุมปากได้รูปยกยิ้มพอใจ เขาอยากเห็นดอกบัวตูมที่เบ่งบานเต็มอุ้งมือ ว่ามันจะงดงามขนาดไหน หากปลดปล่อยให้เจ้าหน้าอกที่คัดแน่นนั้น พ้นจากความทรมานแล้วละก็ มันคงดีดเด้งเต็มอุ้งมือของเขา
“ชื่อคุณเพราะมาก...ปากคุณก็หวานที่สุด”
เขาชมด้วยน้ำเสียงแหบพร่า คนฟังกำลังตัวลอยอย่างหนัก เธอหลงใหลเข้าไปอยู่ในภวังค์อันไม่คุ้นเคย หากช่างรัดรึงไปทั้งหัวใจ นาทีนี้คงยากยิ่งที่นิศากรจะหลุดออกจากบ่วงสวาทของมหาโจรหนุ่ม ผู้ที่มีเรือนร่างเถื่อนถ่อยราวชาวป่าชาวดง หากแท้จริงนั้นภายใต้รูปโฉมน่าสะพรึงกลัวเขาช่างหล่อเหลากระชากหัวจิตหัวใจของเธอจนขาดวิ่น
“หวาน...หอมหวานเหลือเกิน ผมอยากกินลูกจันทร์ทั้งตัว”
คำพูดของเขาช่างเอาแต่ใจยิ่งนัก ปากก็พูดออกมาโลมเล้าน่าฟัง หากมือหนานั้นค่อยๆ จัดการกับบราเซียตัวจิ๋วอย่างช้าๆ โดยที่ร่างอรชรแทบไม่รู้ตัวว่าเจ้าอาภรณ์ที่ห่อหุ้มดอกบัวคู่งามของตัวเอง มันเป็นอิสรเสรีขนาดไหน
“ผมอยากดูเรือนร่างของคุณจังเลยคนดี”
ไม่พูดเปล่ามือของเขากำลังเลิกชายเสื้อตัวน้อยๆ ของนิศากรขึ้นสูง คนที่ถูกจับจูงไปยังอีกดินแดนนั้นอยากต่อต้านแทบขาดใจ หากปากก็โดนคลุกเคล้าอย่างหนักหน่วง มือน้อยๆ นั้นทำได้แค่เพียงยึดแผงไหล่กว้างของเขาไว้
“ไม่นะ...อย่า...”
ร้องห้ามออกมาอย่างอายๆ หากคำตอบของชายหนุ่มก็คือการโน้มใบหน้าคมเข้ามาใกล้ แล้วบดจูบลงกับเรียวปากอิ่มชื้นของนิศากรอย่างหวามไหว ฉุดรั้งสติอันน้อยนิดนั้นดึงรั้งเสื้อตัวจิ๋วให้หลุดออกทางด้านศีรษะเล็กหลังจากละบทจูบเพียงเสี้ยววินาทีเดียว
ความเปลือยเปล่าด้านบนของหญิงสาวปรากฏแก่สายตา แสงไฟจากตะเกียงที่สว่างวาบห่างออกไปนับสองเมตรนั้นยังคงสะท้อนให้เกิดแสงสลัวภายในถ้ำ แสงสีนวลนั้นสาดเข้ามากระทบเรือนร่างขาวลออของหญิงสาว ที่ทำให้คนมองตื่นตะลึงอยู่พักใหญ่ ดวงตาคมเข้มสีดำทะมึนไม่สามารถละไปไหนได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาที
“สวย...สวยเหลือเกิน”
คำชมแหบพร่าดังแผ่วอยู่แถวๆ ปลายคางเล็กของนิศากร อุ้งมือร้อนผ่านนั้นกำลังเลื่อนขึ้นสำรวจหน้าท้องแบนราบที่เนียนมือ แล้วลาดไต่ไปยังสีข้างด้านซ้าย ไล้ขึ้นด้านบนวนเวียนอยู่แถวๆ ฐานอกอิ่มที่ผลิแย้มออกมาชูช่อ
“อย่า...อย่าแตะต้อง...”
คำห้ามสั่นๆ หลุดออกมาจากเรียวปากอิ่มชื้น มือน้อยๆ นั้นพยายามผลักดันอกแกร่งของชายหนุ่มซึ่งโน้มตัวลงมาหา หากคนเอาแต่ใจก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดี ฝ่ามือร้อนๆ นั้นไม่ได้ใส่ใจกับเสียงเล็กๆ ที่ร้องห้ามเลยสักนิด นาทีต่อมามือใหญ่ก็เคลื่อนเข้ากอบกุมหน้าอกสล้างอันอะร้าอร่ามที่ดีดเด้งมาปะทะมือ
มือของเพลิงอัคนียังฟอนเฟ้นอยู่กับหน้าอกอวบอิ่มของนิศากรไม่ได้ลดละ เขาจับข้างโน้นย้ายมาเคล้นข้างนี้อย่างเอาแต่ใจ ไม่ไยดีต่อคำห้ามแผ่วๆ ที่หลุดออกจากปากเลยแม้แต่น้อย ปลายนิ้วเรียวหนานั้นค่อยๆ แตะสะกิดบนยอดเชอร์รีสีแดงสดของหญิงสาว แล้วบีบมันเบาๆ จนร่างแน่งน้อยสะดุ้งเฮือก
“อื้อ...ฟิวส์”
นิศากรกัดปากข่มฟันไว้แน่นเธอพยายามเบี่ยงกายหนีการรุกรานของชายหนุ่ม มือน้อยปัดป้ายมือใหญ่ที่เคล้นทรวงงามนั้นทิ้ง
“อย่าห้ามผมเลย...ผมอยากสัมผัสคุณทั้งตัว”