บทที่ ๔ เสน่หาจอมโจร(๔)

1499 Words
“เราต้องหาคนช่วยที่ไว้ใจได้ เพราะใช้กำลังตำรวจมากเกินไป มันจะเป็นอันตรายต่อยัยหนู” สองพ่อลูกต่างช่วยกันระดมสมอง ควานหาใครบางคนที่จะช่วยเรื่องนี้ และทุกอย่างต้องเรียบร้อย เงียบเชียบ รวดเร็ว รัดกุม ไม่เช่นนั้นอาจจะกระทบต่อหลายๆ ฝ่าย ชั่วอึดใจต่อมา บุตรชายก็ร้องบอก “คุณอาไฟ อย่างน้อยหน่วยพยัคฆ์น่าจะช่วยเราได้” รอยยิ้มจางๆ กลับมาประดับบนเสี้ยวหน้าของผู้พันฤทธิ์ “พ่อจะไปคุยกับนายไฟเอง” “ไม่เป็นไรครับพ่อ ผมเป็นเพื่อนรักของนายเฟนย์และนายฟิวส์ อีกอย่างพักนี้อาไฟก็วางมือ หน่วยพยัคฆ์อยู่ในการควบคุมของสองคนนี้ ผมจะไปคุยกับเพื่อนเองครับพ่อ” ลูกชายเสนอทางออก คนเป็นพ่อพยักหน้าน้อยๆ อย่างเห็นด้วย ก่อนจะผละลุกจากเก้าอี้ตัวใหญ่ วางมือลงบนไหล่กระด้าง “ฝากด้วยนะลูก” “ผมรับรองครับ พวกนั้นต้องช่วยเราได้” เสียงห้าวเข้มยืนกรานหนักแน่น เพราะเรื่องไหนที่ถึงมือหน่วยพยัคฆ์ ไม่มีคำว่าพลาด เชื่อว่าอีกไม่นานลูกจันทร์ก็จะกลับมาสู่อ้อมอกของครอบครัวเทพฤทธิ์อีกครั้ง สีหน้าของคนทั้งคู่ดีดีขึ้น คลายกังวลไม่น้อย สักพักก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ เพราะความปลอดภัยของหนูลูกจันทร์สำคัญที่สุด หากช้าคนในบ้านคงอาการแย่ยิ่งกว่าเดิม หลังสิ้นสุดมื้อเช้า เพลิงอัคนีก็ปล่อยให้ร่างอรชรได้อยู่คนเดียวเพียงลำพัง ไม่เข้าไปก่อกวนเหมือนที่ใจคิด จนป่านนี้ไม่รู้ว่าร่างเล็กนั้นหายไปไหน คนเป็นห่วงก็เลยก้าวหาฝั่งโน้นฝั่งนี้ของถ้ำ รอบๆ บริเวณแต่ก็เงียบกริบ จำได้ว่าเมื่อสามชั่วโมงก่อน เธอไปอาบน้ำที่ลำธารและผลัดเปลี่ยนสวมใส่เสื้อผ้าที่เขาสั่งให้คนซื้อมา และไม่น่าเชื่อแค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น เธอยังดูงดงามไม่วางตา เห็นเธอเวลานั้นเขาก็แทบจะเดินเข้าไปกระชากร่างเล็กมาไว้ในอุ้งมือ แล้วขย้ำให้สาสม แต่เมื่อปล่อยให้เป็นอิสระ ได้ชมนกชมไม้ เจ้าหล่อนก็หายไปในระยะสายตา เพลิงอัคนีนำพาตัวเองไปในทิศทางที่คาดว่าจะได้เห็นร่างบอบบางนั้น และก็คิดไม่ผิด เมื่อเห็นร่างเล็กนั่งอยู่บนโขดหิน ดวงหน้าดูเหม่อเลยไปไกล คนก้าวประชิดตัวก็เลยเอ่ยล้อด้วยสีหน้ายิ้มๆ “นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ก็มานั่งมองปลาตัวผู้อยู่ที่เอง” “นี่คุณ!” และก็ได้ผล เมื่อใบหน้าสะสวยไร้เครื่องสำอางหันมาถลึงตาใส่ ชายหนุ่มไหวไหล่น้อยๆ ก่อนจะเดินไปนั่งบนโขดหินข้างๆ “ทำไมฮึ คิดถึงผมรึไง ถึงมานั่งปลีกวิเวกอยู่ตรงนี้” “ฉันคิดถึงบ้าน คุณปล่อยฉันกลับไปเถอะนะ” รอยยิ้มที่ประดับบนดวงหน้าสากระคายนั้นหดหาย ความบึ้งตึงฉาบทับโดยไม่รั้งรอ ดูเหมือนสิ่งที่หลุดออกจากอิ่มจะผิดอย่างมหันต์เมื่อถ้อยคำห้าวกระด้างดังลั่น “ถ้าไม่อยากให้ผมอารมณ์เสีย ก็อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก” “เอ๊ะ! นายจะเอายังไง จะจับตัวฉันไว้ให้มันได้อะไรขึ้นมาฮ้า! ฉันมีพ่อมีแม่นะ ป่านนี้พวกท่านจะเป็นยังไง รู้สึกยังไง นายจะรู้บ้างไหม คุณย่าฉันคงเป็นลมเป็นแล้งไปหลายรอบ เพราะว่าการหายตัวไปของฉัน” นิศากรโพล่งออกมาอย่างอัดอั้น เธอใช้เวลาที่ไร้เงาของเขาครุ่นคิดถึงความรู้สึกของทางบ้าน คนใจร้ายจะรู้บ้างไหม ว่าเธอรู้สึกแย่แค่ไหน เพียงนึกถึงใบหน้าของคนที่บ้าน เธอก็อยากจะร้องโฮออกมาให้ดังลั่นป่า ร่างบางผละลุกจากโขดหิน ก้าวมาประชันหน้าชายหนุ่ม มือน้อยๆ ทุบไปตามอกแกร่งเต็มแรง “คนบ้า! นายมันใจร้าย” ต่อว่าพร้อมออกแรงอย่างไม่ยั้งมือ เธอไม่สนใจหรอกว่าเขาจะเจ็บตรงไหนบ้าง แต่เธอสิเจ็บทั้งใจเจ็บทั้งกาย เพราะผู้ชายที่เอาแต่ใจตัวเอง นึกอยากจับใครมาขังก็จับ อุ้งมือใหญ่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็ก ไม่เจ็บหรอกกับแรงมดที่กระแทกใส่แค่นี้ แต่อดรำคาญไม่ได้ เขาเกลียดผู้หญิงฟูมฟายที่ร้องไห้เป็นเผาเต่า มันไร้สมองสิ้นดี “หยุด!” เสียงห้าวเข้มตวาดดังลั่น “อย่าพล่ามมากนักผมไม่ชอบ” นิศากรสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะพ่นหายใจฮึดฮัด ร้องด่าพร้อมออกแรงผลักเต็มกำลัง “นายบ้าเอ๊ย! ไปตายซะไป” ตูม! เสียงน้ำกระเด็นซ่าขึ้นมา เมื่อร่างสูงใหญ่ลอยละลิ่วพลาดพลั้งตกลงไป รอยยิ้มหวานประดับบนใบหน้าสะสวย เมื่อเห็นคนใจร้ายร่วงลงไปต่อหน้าต่อตา นึกค่อนขอดและสมน้ำหน้าในใจ ดีจมน้ำตายไปซะตรงนี้คงสาแก่ใจเธอนัก แววตากลมๆ มองเห็น ร่างชายหนุ่มโผล่ขึ้นมาแล้วจมลงไปใหม่ เป็นแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนเสียงห้าวทรงพลังจะร้องลั่น “โอ๊ย!” และร่างของเขาก็จมลงไปใต้น้ำต่อหน้าต่อตา รอยยิ้มแห่งชัยชนะเมื่อครู่เลือนหาย ความกังวลผุดขึ้นมาประดับบนดวงตา นิศากรมองภาพในน้ำเบื้องหน้าตาปริบๆ ก่อนจะละล่ำละลักออกมาคล้ายคนตื่นตระหนก “นะ...นาย...นี่อย่าล้อฉันเล่นได้ไหม โผล่ขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ” ตะเบ็งสั่งเสียงดัง หากแต่คนตกลงไปก็ไม่คิดจะโผล่ขึ้นมาให้เธอได้ใจชื้นสักนิด “หรือว่าอีตานี่ว่ายน้ำไม่เป็น คงไม่ใช่หรือก” รำพันแผ่วๆ กับตัวเองก่อนจะเบิกตากว้าง “หรือว่าเป็นตะคริว” คิดได้แค่นั้นเสียงแหลมเล็กก็ร้องเรียกดังลั่น “นี่ อีตาบ้า นายอยู่ไหน” ใต้น้ำยังคงเงียบจนน่าใจหาย ดวงตาหวาดหวั่นสั่นระริก เธอโกรธเขาก็จริง แต่ว่าไม่อยากเห็นเขาตายในเวลานี้นี่ “ฉันขอโทษนะ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ นี่...นะ...นายอย่าตายนะ” แทบจะปล่อยโฮอยู่แล้ว เมื่อคิดว่าชายหนุ่มต้องจบชีวิตลงจริงๆ ร่างบางก็ไม่รีรอ ที่จะกระโดดลงไป ดำผุดดำว่ายตามหา “คนบ้า! โผล่ขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ” ร้องตะโกนเรียกดังลั่น น้ำตาเม็ดเล็กเริ่มเอ่อคลอ ความเสียใจฉายชัดอยู่เต็มดวงหน้า หันซ้ายหันขวาอย่างสำรวจ ก่อนจะดำดิ่งลงใต้น้ำอีกครั้ง วาดหวังเหลือเกินให้เธอคว้าตัวเขาได้ก่อนจะสิ้นใจ แต่จู่ๆ มีผีน้ำจืดที่ไหนก็ไม่รู้โผล่พรวดขึ้นตรงหน้า พร้อมกับพันธนาการที่รัดเธอเข้าสู่อ้อมอก นิศากรถึงกับร้องลั่น “ว้าย...อุ๊บ...” แต่เสียงของเธอดูเหมือนจะขาดหาย เมื่อใบหน้าคมๆ นั้นโน้มลงมา พร้อมบดจูบกลีบปากอิ่มระริกของเธอค่อนข้างรุนแรงและจาบจ้วง แต่แล้วเพลิงอัคนีก็หยุดชะงัก เมื่อสัมผัสถึงความเค็มปร่า ที่เขานึกออกทันทีว่าคงเป็นน้ำตาเม็ดเล็กของคนที่เขาจูบเอาๆ “เป็นอะไรฮึ ร้องไห้ทำไม” ร้องถามด้วยความห่วงใย กระซิบชิดใกล้ขมับบาง “คิดว่าผมตายไปแล้วรึไง คนอย่างผมไม่ตายไปง่ายๆ หรอกนะ คุณอย่าห่วงเลย” ใครบางคนสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ผลักอกกระด้างให้ออกห่าง ยกมือบางหวังจะฟาดหน้าของคนที่ทำให้เธอหายใจหายคอไม่ทั่วท้อง แต่แล้วก็ถูกอีกฝ่ายคว้าไว้ทัน หนำซ้ำยังจูบแผ่วๆ ลงบนกลางฝ่ามือของเธอ พร้อมกับน้ำคำที่น่าปล่อยให้จมน้ำตายไปเลย “เป็นของผมเถอะทูนหัว” เข่าเล็กๆ ใต้น้ำยกกระทุ้งหน้าขาแกร่งเต็มแรง เธอพุ่งเป้าไปที่กลางลำตัวเขาต่างหาก แต่อีตานี่ยังอุตส่าห์หลบทัน “โอ๊ย! ผมแค่ล้อเล่น กะจะทำให้ผมเป็นหมันเลยรึไงคุณ แต่ถ้า...คุณเต็มใจผมก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ พร้อมเสมอทูนหัว” บอกด้วยยิ้มๆ ก่อนจะถูกสาวน้อยตะบันหมัดกระแทกลงบนเรือนกายไม่ยั้ง “อีตาบ้า! นี่แน่ะๆ ไปตายซะ!” เพลิงอัคนีได้แต่หัวเราะดังลั่น ปล่อยให้มือน้อยๆ ได้ทำโทษจนสาแก่ใจ เมื่อคิดว่าตัวเองเริ่มเกิดอาการเจ็บ ถึงได้รั้งร่างบางมาแนบชิด พันธนาการด้วยอ้อมกอดที่แข็งแกร่ง สบตาเธอไม่ได้ละไปไหน สะกดหญิงสาวให้อยู่ในมนตรา ก่อนจะก้มจูบปากอิ่มผะแผ่วเบา แทะเล็มกลีบปากนุ่มชื้นน้อยๆ ส่งปลายลิ้นล่วงล้ำเข้าไปสำรวจในโพรงปากอิ่ม ฝ่ามือร้อนๆ นั้นวาดไปตามแผ่นหลัง เคล้นเบาๆ ผ่านเนื้อผ้าเล็ก จนคนถูกปล้นจูบถึงกับยืนไม่อยู่ ต้องอาศัยร่างใหญ่เป็นที่ยึดติด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD