น้ำเหนือรู้ดีว่าโรเบอร์โตเป็นห่วงเธอ เขาเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่ปรารถนาในตัวเธอ หญิงสาวภาคภูมิใจที่เกิดมาเป็นที่ต้องการของผู้ชายมากหน้าหลายตา ก่อนจะถอนใจยาวยืด
“น้ำเป็นอะไรครับ ปวดหน้าผากเหรอ”
คนปฐมพยาบาลเลิกคิ้วถามเมื่อเห็นสีหน้ายุ่งเหยิงของภรรยาสาว
“ปะ... เปล่าหรอกค่ะ” น้ำเหนือรีบตอบปฏิเสธ กลัวสามีจะหึงเธอจนหน้ามืด หากเขาหน้ามืดอาจจะงอนไม่ยอมกินข้าวกินปลาหรือหนีไปผูกคอตายบนยอดตะไคร้ เธอคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิตที่ทำให้คนดีๆ อย่างโรเบอร์โตต้องจบชีวิตอย่างอนาถด้วยวัยไม่ถึงสามสิบปีด้วยซ้ำ การเป็นสามีภรรยาต้องไว้ใจกัน ต้องคุยกันได้ทุกเรื่อง เขาและเธอไม่ควรมีความลับต่อกัน
“ไม่ไว้ใจพี่เหรอครับ”
“ไม่ใช่นะคะ น้ำไว้ใจพี่ร็อบ” น้ำเหนือรีบบอกกลัวอีกฝ่ายคิดมาก
“หากน้ำมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ บอกพี่ได้เลยนะครับ เราเป็นสามีภรรยากันแล้วก็เหมือนคนคนเดียวกัน ถ้ามีอะไรอย่าเก็บเอาไว้คนเดียว พี่อยากแบ่งเบาภาระของน้ำทุกอย่าง”
“น้ำ” น้ำเหนือยังพูดไม่ทันจบ ชายหนุ่มจึงใช้นิ้วกดปิดทับริมฝีปากเอาไว้
“ลองคิดดู หากไม่สบายใจ ไม่ต้องเล่าก็ได้ แต่ถ้าเล่าแล้วสบายใจ พี่ก็อยากให้น้ำระบายมันออกมา พี่ยินดีรับฟังน้ำตลอดชีวิต” โรเบอร์โตกุมมือนิ่มๆ ของภรรยาจุมพิต
“น้ำแค่รู้สึกสงสารและเห็นใจค่ะ” น้ำเหนือเริ่มเล่า
โรเบอร์โตนิ่งฟัง ไม่เอ่ยอันใดให้เธอต้องเสียสมาธิในการเล่า สมองอันชาญฉลาดเริ่มจับน้ำเสียง ความรู้สึก และทุกสิ่งทุกอย่างที่ภรรยาเอ่ยออกมา
หญิงสาวถอนใจหนักหน่วง ยิ่งเพิ่มความกลัดกลุ้มให้คนข้างกาย ไม่ว่าเธอจะมีปัญหาอะไร เขาพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและคอยช่วยแก้ปัญหาให้
“ไม่เอาแล้วครับ ถอนใจแบบนี้ไม่ดี ไม่สบายเรื่องอะไร ไหนเล่าให้พี่ฟังสิ เผื่อพี่จะช่วยน้ำได้บ้าง” โรเบอร์โตถามอย่างจริงจัง
“ก็ได้ค่ะ น้ำจะเล่าให้ฟัง แต่พี่ร็อบต้องสัญญานะคะว่าจะไม่เครียด” น้ำเหนือพูดกับสามีอย่างจริงจังเช่นกัน
“พี่สัญญาครับ” เพื่อต้องการให้ภรรยาบอกเล่าถึงความไม่สบายใจ โรเบอร์โตจึงกล่าวรับคำทันที การที่หญิงสาวเล่าเรื่องที่อัดอั้นออกมาจะทำให้อีกฝ่ายคลายจากความทุกข์ใจลงไปได้บ้าง
“น้ำเหนือไม่สบายใจที่ตัวเองทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ค่ะ”
“น้ำทำให้ใครเป็นทุกข์ครับ ไหนบอกพี่หน่อยสิครับ แล้วทำไมถึงคิดว่าตัวเองทำให้คนอื่นเป็นทุกข์” โรเบอร์โตพูดอย่างใจเย็น
“ความจริง ก่อนที่เราจะรู้จักกัน คุณพ่อมาพูดกับน้ำเรื่องแต่งงาน ท่านคิดว่าน้ำอายุอานามน่าจะออกเรือนได้แล้ว”
“ครับ” ชายหนุ่มพาร่างสูงขึ้นมานอนบนเตียงเมื่อภรรยามองตาปริบๆ น้ำเหนือเกร็งร่างเล็กน้อยเมื่อร่างสูงแสนอบอุ่นเบียดกายเข้ามาแนบชิด
“คุณพ่อขอให้น้ำตอบตกลงผู้ชายหลายๆ คนที่มาทาบทามน่ะค่ะ แต่น้ำไม่ชอบพวกเขาค่ะ”
น้ำเหนือส่ายหน้าไปมา เธอถอนใจอีกครั้ง รู้ดีว่าทำให้ผู้ชายเหล่านั้นต้องอกหักและเสียอกเสียใจจนไม่เป็นอันกินอันนอน
“ครับ” โรเบอร์โตตอบรับเช่นเดิม ไม่ขัดอะไรหญิงสาว ปล่อยให้เธอพูดไปจนพอใจ
“น้ำทำให้พวกเขาอกหักไปตามๆ กัน ก็เลยรู้สึกผิดนิดๆ น่ะค่ะ แต่พี่ร็อบคะ ความรักมันบังคับกันไม่ได้ใช่ไหมคะ”
น้ำเหนือเอ่ยถาม เพื่อขอความเห็นจากสามีหนุ่ม
“ใช่ครับ อย่าคิดมากเลยครับ พวกเขาอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่ของน้ำ ที่สำคัญ ถ้าน้ำตอบตกลงพวกเขาไป พี่คงไม่ได้มาอยู่กับน้ำแบบนี้นะครับ และพี่คงยอมไม่ได้ ถ้าจะเห็นน้ำตกไปเป็นของคนอื่น” ชายหนุ่มพูดจากใจจริง
“ก็จริงนะคะ ที่น้ำตอบปฏิเสธพวกเขาไป อาจเป็นเพราะโชคชะตาดลจิตดลใจให้น้ำรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่เนื้อคู่ของน้ำ หากอยู่กันไปก็คงไปกันไม่รอด สู้ทำให้พวกเขาตัดใจเสียตั้งแต่ตอนนี้ยังจะดีกว่า” น้ำเหนือพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ครับ” ชายหนุ่มรับคำสั้นๆ เช่นเดิม
“พี่ร็อบพูดน้อยจัง แต่ก็ดีแล้วค่ะ” น้ำเหนือยิ้มแป้น
“ดียังไงล่ะครับ” โรเบอร์โตคิดว่าปกติตัวเองไม่ใช่คนพูดมากอยู่แล้ว ถนัดทำเสียมากกว่า
“เราจะได้ไม่แย่งกันพูดยังไงล่ะคะ”
น้ำเหนือยิ้มแป้นเช่นเดิมเมื่อเฉลยให้ชายหนุ่มฟัง โรเบอร์โตหัวเราะเบาๆ หยิกแก้มสาวด้วยความมันเขี้ยว
“พี่ยินดีให้น้ำพูดแล้วก็เล่าอะไรต่อมิอะไรให้พี่ฟังตลอดชีวิต และพี่ยินดีเป็นผู้ฟังที่ดีตลอดชีวิตเช่นกันครับ”
น้ำเหนือตาโต ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากชายหนุ่มอีก
“พี่ร็อบไม่ต้องสัญญาหรอกค่ะ ถ้าวันไหนพี่ร็อบไม่อยากฟังน้ำขึ้นมา น้ำอาจจะเสียใจ”
โรเบอร์โตยกนิ้วขึ้นประทับปิดปากของภรรยาเอาไว้ ก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“พี่คงทนไม่ได้ถ้าน้ำจะเสียใจ” เขามองด้วยสายตาอบอุ่นอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรัก น้ำเหนือรู้สึกซาบซึ้งและสุขใจยิ่งนัก
“หายปวดหรือยัง อาการเป็นยังไงบ้าง” เขาเป่าที่หน้าผากภรรยาเบาๆ เหมือนจะช่วยคลายความเจ็บปวดนั้นให้หายไป
“ค่อนยังชั่วแล้วค่ะ พี่ร็อบดูแลน้ำดีแบบนี้ น้ำหายเจ็บหายปวดเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ”
“ดีแล้วครับ ประคบและทายาให้แผลยุบนะครับ เดี๋ยวก็หายแล้ว”
“ค่ะ ขอบคุณพี่ร็อบมากนะคะที่ดูแลน้ำเป็นอย่างดี”
“หิวหรือยัง พี่จะทำอะไรมาให้ทาน อยากทานอะไรล่ะ”
“เก่งจัง พี่ร็อบทำอาหารเป็นด้วย” ปกติโรเบอร์โตเคยพาเธอไปเที่ยวสองต่อสอง แต่เขายังไม่เคยแสดงฝีมือทำอาหารให้เธอทาน อาจเนื่องด้วยเธอกับเขามีเมนูมากมายให้ลิ้มลองทุกครั้งที่ไปเที่ยวพักผ่อน จึงไม่ได้ลงมือทำทานกันเอง
“พอทำได้ครับ ไม่รู้จะกินได้หรือเปล่า น้ำลองชิมดูแล้วกัน แต่พี่จะทำสุดฝีมือเลย”
“รอทานค่ะพี่ร็อบ รสชาติยังไงน้ำก็ทานได้ทั้งนั้นค่ะ”
“แล้วอยากทานอะไรล่ะครับ” โรเบอร์โตถามอย่างใส่ใจ
พอพูดถึงเรื่องกิน น้ำเหนือเริ่มกลืนน้ำลายลงคอหลายอึกด้วยความหิว เธอคิดเมนูอาหารรสเลิศเต็มหัวไปหมด และความคิดก็ตีกันยุ่งเหยิง ไม่แน่ใจว่าจะกินอะไรดี
“ทานสลัดผักไหม ตอนเย็นๆ ไม่ควรรับประทานอาหารหนักเพราะจะทำให้อึดอัด” ชายหนุ่มเสนอ หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย คล้ายไม่พอใจกับประโยคของสามี
“น้ำอยากกินข้าวผัดหมู แกงจืดหมูสับ ไข่เจียวหมูสับ หมูทอดกรอบ แล้วก็น้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ ค่ะ”
โรเบอร์โตถึงกับอ้าปากค้างเมื่อได้ยินเมนูอาหารที่ภรรยาเอ่ยอ้างออกมา
“เอ่อ... พี่ร็อบทำไม่เป็นเหรอคะ”
น้ำเหนือถามอย่างไม่แน่ใจ เมื่อเห็นสามีดูอึ้งๆ ไป
เหมือนโดนสบประมาทเข้าให้ โรเบอร์โตแทบพูดไม่ออก เขาคิดว่าภรรยาอวบอัดดีอยู่หรอก แต่มันก็มีไขมันส่วนเกินไปบ้าง ดังนั้น... ชายหนุ่มยิ้มอบอุ่นให้ภรรยาที่นอนหัวโนยิ้มแป้นอยู่บนเตียง ก่อนจะพยักหน้ารับและเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
น้ำเหนือยกมือลูบหน้าผากตัวเอง นึกจินตนาการถึงผู้ชายตัวสูงหุ่นล่ำที่ทำอาหารอยู่ในครัว เป็นธรรมดาที่โรเบอร์โตจะต้องเอาใจเธอ เพราะมีผู้ชายหลายคนอยากทำหน้าที่นี้ เธอรู้ดี เธอไม่ได้นึกดูถูกที่เขาไม่ได้ร่ำรวยเหมือนใครๆ แค่เขามีน้ำใจและห่วงใยเธอก็เพียงพอแล้ว
ความคิดของน้ำเหนือล่องลอยไปไกล ตั้งแต่ที่บิดาคุยเรื่องแต่งงานกับเธอครั้งแรก จนเธอได้เจอกับผู้ชายมากหน้าหลายตา และทุกคนก็ยอมล่าถอยไปเองเพราะสำนึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ
คิดมาถึงตรงนี้ น้ำเหนือก็ทอดถอนใจที่เกิดมาให้ผู้ชายเสียดายเล่น นี่ถ้าเธอไม่ระมัดระวังตัวเอง ผู้ชายที่ผูกใจเจ็บอาฆาตพยาบาท ต้องการครอบครองเป็นเจ้าของเธอ ต้องมาทำมิดีมิร้ายปู้ยี้ปู้ยำเธอเป็นแน่ แต่ดีที่เธอฉลาดหลักแหลมรู้สึกหลบหลีกภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวง ทำให้เธอรอดพ้นจากบรรดาชายหนุ่มที่หมายตาเธอไว้ทุกๆ คน ตอนนี้ บิดาเองยังไม่ประกาศเรื่องที่เธอมีคู่ครองเป็นตัวเป็นตนให้ใครรู้ เธอรู้ดีว่าท่านคงนึกเห็นใจผู้ชายเหล่านั้น
ความคิดของหญิงสาวหยุดลงเมื่อสามีโดยนิตินัยยกถาดอาหารเข้ามาในห้อง กลิ่นอาหารหอมกรุ่นที่ลอยเข้ามาปะทะจมูกทำให้เธอรีบดีดตัวขึ้นจากที่นอนนุ่ม