“ไง! คุณเมียเจ้าของอู่”
น้ำเสียงเย็นของเขาทำเอาฉันขนลุกซู่และเผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าวใครจะไปคิดว่าผู้ชายที่เคยเจอวันนั้นจะเป็นแค่การเข้าใจผิดแล้วท่าทางของเขาเหมือนเตรียมที่จะเชือดฉันเลย
หรือฉันจะถอยไปตั้งหลักก่อนดี
หมับ!
ปึง!!
ไวเท่าความคิดคนตรงหน้ากระชากแขนเรียวเล็กเข้ามาภายในห้องอย่างรวดเร็วจนแผ่นหลังกระแทกกับผนังห้องความเจ็บร้าวแผ่ซ่านไปทั่วร่างส่วนตัวต้นเหตุไม่ได้มีความรู้สึกผิดอะไรสักนิดเขาเคลื่อนตัวมาทาบทับกักขังเธอไว้ภายใต้แขนแกร่งที่ยันมือทั้งสองข้างกับผนังเมื่อไร้หนทางหนีทำให้เธอได้แต่ยืนนิ่งเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ
“หึ ดูใจกล้าดี”
นิ้วแกร่งเกี่ยวปลายผมของเธอไปเล่นพลางมองตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณาบรรยากาศชวนอึดอัดเมื่อต่างคนต่างเงียบถ้าเป็นปกติเธอจะตอกเขาให้หน้าหงายที่มาทำเธอเจ็บแบบนี้แต่สถานะตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วเพราะฉันไม่มีอะไรไปต่อกรกับเขาได้เลย
เขาเลื่อนใบหน้าลงมาใกล้เพียงลมหายใจกั้นกลางกลิ่นหอมอ่อนจากร่างสูงทำให้จิตใจของฉันไม่สงบ แต่สายตายังเพ่งมองเขาอย่างไม่ลดละและพึ่งสังเกตว่าคนตรงหน้ามีใบหน้าที่ดูดีและสมบูรณ์แบบมากโดยเฉพาะคิ้วเข้มเฉียงขึ้นรับกับดวงตาคมที่มองไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ใบหน้าขยับเข้าหากันพร้อมกับเสียงหัวใจของคนตัวเล็กเต้นระรัวสถานการณ์แบบนี้ไม่ดีเลย เธอหลับตาลงทันทีเมื่อปลายจมูกของเขาชนกับปลายจมูกของเธอสัมผัสบางเบาจากริมฝีปากของเขาเฉียดแก้มเธอไปและ..
“เธอกำลังคิดว่าฉันจะทำอะไรหรอ”
“!!!”
ฉันลืมตาขึ้นมองเขาด้วยสายตางุนงง
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ว่าฉันจะไม่มีวันแตะต้องผู้หญิงแบบเธอเป็นอันขาด!”
“ผู้หญิงแบบฉันมันทำไม”
ร่างบางเม้มปากแน่นอย่างอดกลั้น ผู้หญิงแบบเธอมันทำไมตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอใครพูดและใช้สายตาแบบนี้มองเธอเลย
“ก็ผู้หญิงที่…ขายตัวแลกเงินน่ะสิ”
“นี่นาย!!”
ฉันสะอึกทันทีเมื่อโดนเขาพูดแทงใจดำเพราะมันคือเรื่องจริงน้ำเสียงเหยียบหยามดูถูกจากเขามันทำให้ฉันหน้าชา
“ต่อไปนี้ฉันอนุญาตให้เธออยู่ที่นี่ได้เราจะไปจดทะเบียนกันตามที่แม่ฉันต้องการ”
“.....”
“แต่เมื่อออกไปข้างนอกก็ต่างคนต่างอยู่ห้ามทำตัวรู้จักฉันหรือเป็นเจ้าของ”
“ได้!!! ฉันจะทำเป็นไม่รู้จักนายและไอ้การทำตัวเป็นเจ้าของไม่มีทางแน่นอน”
“เข้าใจง่ายๆ ก็ดี”
เขาผละตัวออกอย่างรวดเร็วราวกับขยะแขยงเมื่ออยู่ใกล้เธอก่อนจะเดินหายเข้าไปห้องหนึ่งซึ่งฉันคิดว่าเป็นห้องนอนของเขาและกลับมาพร้อมตะกร้าผ้าสีขาว
ปึง!
“งานแรกของเธอ”
ห๊ะ!!
“หมายความว่าไง”
“เธอคงไม่ได้คิดว่าฉันจะให้เธออยู่ฟรีๆ หรอกนะ”
“.....”
“แม่ฉันจ่ายให้ครอบครัวเธอไปตั้งเยอะ ดังนั้นแค่ทำหน้าที่เมียเล็กๆ น้อยคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกนะคุณหนูควีน!”
“แต่ฉะ..”
“เอาไปซักและตากให้เรียบร้อยเสร็จแล้วไปเคาะห้องเดี๋ยวมีงานให้ทำต่อฉันจะไปนอนพักผ่อนหน่อย”
เมื่อสั่งงานเสร็จเขาก็เดินตัวปลิวเข้าไปในห้องนอนของเขาทิ้งให้ฉันยืนเอ๋อไปสักพักพร้อมกับกองผ้าในตะกร้า
ฉันกัดปากแน่นอย่างหงุดหงิด ไอ้เลวว!!!
ตั้งแต่เกิดมาฉันเคยทำงานบ้านที่ไหนกันเล่า ฮือ
ผ่านไปเป็นชั่วโมงทั้งซักทั้งตากผ้าโชคดีที่มีถังซักผ้าอยู่ไม่งั้นคงเป็นงานยากของฉันแล้ว ควีนเดินไปที่ห้องนอนของเขาก่อนจะเคาะบอกเขาสักพักคนด้านในก็เปิดประตูออกมา
“เสร็จแล้ว”
“เร็วดี…นู่นห้องนอนเธอ”
ฉันมองตามนิ้วมือที่เขาชี้ไปอีกฝั่งหนึ่งเป็นประตูสีดำคล้ายกับห้องของเขาโชคดีจังนอนกันคนละห้องแบบนี้ฉันก็ได้หายใจหายคอจากเขาหน่อย ผู้ชายอะไรนิสัยไม่ดี ฉันพยักหน้าขอบคุณก่อนจะเดินไปที่ห้องฝั่งตรงข้ามทันที
แกร็ก!
แคก แคก
เมื่อเปิดเข้ามาฉันก็ต้องเจอกับฝุ่นมากมายอัดแน่นภายในห้องจะยกมือมาปิดปากและจมูกก็ไม่ทันแล้ว
ร่างบางไออย่างแรงพร้อมกับลมหายใจที่ติดขัดผิวขาวราวไข่มุกเริ่มแดงและมีผื่นขึ้นหลายจุดมือบางทั้งลูบทั้งเกาตามตัวแต่ยังไม่สามารถบรรเทาอาการได้ปกติเธอก็ไม่ได้แพ้รุนแรงขนาดนี้รอบนี้คงเป็นเพราะฝุ่นมันอัดแน่นมากจริงๆ
ตึบ!
แคก แคก แคก
แคก
เธอทรุดตัวลงกับพื้นเพราะเริ่มหายใจติดขัดรุนแรงเปลือกตาหนักอึ้งก่อนจะค่อยๆ ปิดลงพร้อมกับสติที่ดับวูบไป
“ควีน!”
ร่างสูงพุ่งตัวไปรับร่างบางของควีนทันก่อนที่ร่างจะกระแทกพื้นดวงตาคู่คมกวาดมองตามร่างกายจากผิวขาวผ่องตอนนี้กลับแดงเถือกอย่างน่ากลัว เขาจัดการช้อนร่างบางขึ้นอุ้มและพาไปโรงพยาบาลทันที!
ระหว่างทางไฟหันมามองคนป่วยตลอดทางเพื่อเช็คอาการของเธอไปด้วย ความรู้สึกผิดในใจก่อเกิดขึ้นมาแค่อยากแกล้งให้เธอทำความสะอาดห้องเล็กน้อยแต่เพราะห้องนั้นไม่เคยได้เปิดใช้งานเขาก็ไม่รู้ว่าฝุ่นมันจะเยอะจนทำให้เธอแพ้ขนาดนี้
โรงพยาบาลแอล
เปลือกตาบางขยับถี่ก่อนจะค่อยเปิดออกเมื่อรู้สึกตัวแสงไฟสีขาวแยงตาทำให้เผลอหลับตาลงสักพักก่อนจะลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อปรับโฟกัสสายตาได้
ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?
“รู้สึกตัวแล้วหรอ”
ไฟเปิดประตูเข้ามาเจอพอดีหลังจากที่เขาพาเธอมารักษาก็อยู่เฝ้าคนป่วยอยู่นานหมอให้เธอแอดมิทหนึ่งคืนเขาเลยโทรให้คนเอาของใช้ต่างๆ มาให้ที่โรงพยาบาลเพราะคืนนี้จะอยู่เฝ้าเธอเองทั้งที่จะจ้างพยายาลก็ได้ แต่ถ้าทำแบบนั้นมีหวังแม่รู้โดนแม่ด่าตายเลย!
“....”
“หมอบอกเธอแพ้ฝุ่นรุนแรงให้แอดมิทดูอาการอีกคืน”
“ก็ไม่ใช่เพราะนายหรอที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้”
ควีนกระแทกเสียงใส่พร้อมมองจ้องเขาเขม็งคิดว่าไม่รู้หรอว่าเขาตั้งใจแกล้งเธอถ้าไม่พอใจกับการแต่งงานบ้าบอหรือไม่พอใจที่เธอจะอยู่ด้วยก็บอกสิ ทำไมต้องแกล้งกันแรงแบบนี้ด้วย
“ขอโทษ”
น้ำเสียงรู้สึกผิดของเขาทำให้ฉันตกใจก็ไม่ได้คาดหวังว่าคนแบบเขาจะมาขอโทษด้วยซ้ำ
“ช่างเถอะ นายออกไปได้แล้ว”
“ไม่ไป!!”
“เอ๊ะ!แล้วจะอยู่ทำไม”
“อยู่จับตามองเธอ เผื่อเธอคิดสั้นหนีฉันขึ้นมาแม่ฉันก็เสียเงินฟรีสิ”
“นายจะบ้าหรอ ฉันเป็นคนมีความรับผิดชอบพอยะ”
ไฟไม่สนใจคนป่วยเขาล้มตัวลงนอนบนเตียงของญาติผู้ป่วยก่อนจะเอาผ้ามาห่มและนอนเล่นเกมในโทรศัพท์ปล่อยให้คนป่วยทำหน้ากระฟัดกระเฟียดอย่างไม่ค่อยพอใจ
ควีนกัดฟันแน่น ผู้ชายน่ารำคาญ!!!
2 วันต่อมา
วันเปิดภาคการเรียน
“ลงไปได้แล้ว ตอนเย็นเจอกันตรงนี้”
หลังจากไฟมาส่งฉันทิ้งไว้ไม่ไกลจากคณะนิเทศศาสตร์เขาก็ขับรถออกไปทันที หลังจากออกจากโรงพยาบาลเขาก็พาไปจดทะเบียนและถ่ายรูปส่งให้แม่เขาดูทันทีส่วนพวกอุปกรณ์การเรียนหรือชุดนักศึกษาของมหาลัยแอลเขาก็จัดการมาให้ฉันแค่รอเวลาเปิดเทอมเท่านั้น
วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเทอมฉันต้องไปรายงานตัวที่ตึกคณะก่อนเนื่องจากย้ายมาใหม่โชคดีที่ย้ายมาเทอมแรกของปี 3 ทำให้การเรียนต่างๆ ไม่ต้องเรียนใหม่ให้ยุ่งยาก
“สวัสดีครับ มีอะไรให้พี่ช่วยไหม”
น้ำเสียงนุ่มด้านหลังทำให้ฉันหันกลับไปมองเป็นผู้ชายร่างสูงใบหน้าดูดีในชุดนักศึกษากำลังยืนยิ้มละมุนให้ฉันอยู่
“ขอบคุณนะคะ แต่ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ”
ฉันยิ้มเป็นเชิงขอบคุณก่อนจะขอปลีกตัวออกมาอย่างมีมารยาทถึงเขาจะดูสุภาพแต่ว่านะสายตาเจ้าชู้แบบนั้นหลอกได้แต่สาวน้อยใสซื่อเท่านั้นแหละ
คล้อยหลังร่างบางออกไปชายหนุ่มยกยิ้มอย่างชอบใจเขาไม่เคยเจอใครสวยสะดุดตาขนาดนี้มาก่อนคิดว่าเธออาจจะเป็นเด็กปี 1 เขาจึงเข้ามาเสนอตัวช่วยเหลือแต่กลับโดนสาวสวยปฏิเสธสะงั้น
“มายืนทำอะไรตรงนี้วะ ยิม”
“เปล่า”
“งั้นขึ้นเรียนกันใกล้ได้เวลาแล้ว”
“อืม”
หลังจากนั้นสองหนุ่มคณะนิเทศศาสตร์ก็เดินขึ้นตึกเรียนไปด้วยกันหนุ่มหล่อสุดฮอตของคณะนี้คือยิม ส่วนเพื่อนอีกคนชื่อ เนม เป็นรุ่นพี่ปี 3 ที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ ในคณะ!
“ได้ยินว่าห้องเราจะมีย้ายมาใหม่”
“ย้ายมาตอนนี้เนี่ยนะ”
“ผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“ไม่รู้เหมือนกัน นั้นไงอาจารย์วรรณมาแล้ว”
อาจารย์วรรณที่นักเรียนคุยกันเป็นอาจารย์ที่ดูแลรับผิดชอบนักศึกษานิเทศศาสตร์สาขาวิชาการโฆษณาโดยจะเป็นทั้งที่ปรึกษาและอาจารย์ประจำวิชาด้วย
“สวัสดีนักศึกษา”
“สวัสดีค่ะ/สวัดีครับอาจารย์”
“วันนี้ก่อนเราจะเริ่มการเรียนการสอนอาจารย์จะแนะนำเพื่อนใหม่ให้รู้จักก่อนนะ..ลักษณ์นารา เข้ามาแนะนำตัวหน่อย”
เชี้ย โคตรสวย
สวยมากมึงงงงงงงง
โอ้โห สวยกว่าดาวคณะเราอีก
ขาวมาก สวยมาก
นี่มันนางฟ้าชัดๆ
ร่างบางในชุดนักศึกษาเสื้อพอดีตัวกับกระโปรงทรงเอเดินเข้ามายืนที่หน้าชั้นเรียนพร้อมโปรยรอยยิ้มหวานให้กับเพื่อนในชั้นทุกคนโดยไม่ได้แสดงอาการประหม่าหรือตกใจกับปฏิกิริยาของทุกคนที่เจอเธอ
ก็ชินแล้ว รู้ตัวว่าสวย
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะ ชื่อลักษณ์นารา เตชะวงศ์วรากุล เรียกเราว่า ควีน มีอะไรแนะนำได้เลยนะ”
ใบหน้าแบบนี้บุคคลิกแบบนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็สวยดูดีไปหมด สวยจนทุกคนในห้องละสายตาไม่ได้ต่างคนต่างคิดว่า เพื่อนใหม่สวยจริงๆ
ควีนเดินไปด้านหลังที่เล็งไว้ตั้งแต่หน้าชั้นแล้วว่ายังว่างและไม่มีใครจับจองอยู่ร่างแบบบางสมส่วนช่างดึงดูดสายตาผู้คน เดินไปเก้าอี้ว่างและนั่งลงก่อนที่สาวสวยคนที่ข้างกันจะหันมายิ้มให้และแนะนำตัว
“หวัดดีเธอชื่อ ควีน ใช่ไหม เราเมษา นะ”
“ใช่ ยินดีที่ได้รู้จักนะ เมษา”
“ถ้ามีไรถามเราได้ตลอดนะเราน่าจะได้เรียนด้วยกันไปอีกหลายวิชาเลย”
“อ่า ได้เลย”
ฉันยิ้มให้สาวสวยหน้าเหวี่ยงแต่อัธยาศัยดีมากๆ ตั้งแต่มหาลัยเก่าฉันก็ไม่ได้มีเพื่อนเยอะคงเพราะนิสัยของฉันด้วยแหละพอย้ายมหาลัยฉันเลยไม่ได้สนใจจะหาเพื่อนแต่เมษาดูน่ารักและจริงใจดีฉันจะลองคบเธอเป็นเพื่อนดูก็ได้
“เธอสวยมากเลยควีน!”
“ฮ่า ๆ ขอบใจนะ”
หลังจากนั้นก็เริ่มเรียนโชคดีที่ได้นั่งกับเมษาเพราะเธอเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังเยอะเลยโดยเฉพาะเพจเม้าท์มอยมหาลัยที่จะเม้าท์ข่าวคนดังของมหาลัยเยอะมากและอีกอย่างที่ต้องรู้เลยคือ ทำเนียบหนุ่มฮอต ของมหาลัยที่มี 10 อันดับ!
“เนี่ยเธอต้องเข้าไปดูนะหนุ่มฮอตของมหาลัยเราหล่อมากจริงๆ”
“ฉันไม่ค่อยสนใจอะไรแบบนี้”
“เดี๋ยววันหลังเล่าให้ฟังเอง แต่นามสกุลเธอเพราะจังยาวด้วยแถมคุ้นหู แต่ไม่รู้เคยได้ยินมาจากไหน” เมษาเล่าพร้อมทำหน้าฉงน
นามสกุลเพราะจริงเตชะวงศ์วรากุล เป็นนามสกุลของไฟ เราจดทะเบียนกันแล้วฉันเลยได้เปลี่ยนมาใช้นามสกุลเขาแต่คำนำหน้าสามารถใช้คำว่า นางสาว ได้ ฉันไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ว่ามีสามีแล้ว มันแปลก! เพราะฉันก็พึ่งจะ 20 ปี เอง!