รุ้งแก้วเหวี่ยงกระเป๋าสะพายบนบ่าลงกับพื้นตามอารมณ์พลุกพล่าน วันนี้เธอมีเรื่องวุ่นวายพาทำให้รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจมาตั้งแต่เช้า อารมณ์ซึ่งโดยปกติมักขึ้นลงตามแต่ใจตัวเองกำหนดเป็นอาจิณ ทว่าวันนี้กลับทวีความเดือดดาลหนักขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยหลายพันเท่า...
โธ่โว้ย!...บ้าบอแท้ๆ ทำไมต้องลงเอยแบบนี้เสียทุกครั้งด้วยนะเวลาเธออยากลงมือทำอะไรดีๆสักอย่าง...แม่กลับมองไม่เห็นคุณค่า ไม่เคยเห็นลูกคนนี้อยู่ในสายตาสักครั้ง
หญิงสาวคิดฉุนเฉียวในใจ... ทั้งที่โปรเจ็คต์งานสำคัญตัวนี้ เธอเป็นคนริเริ่ม เป็นตัวตั้งตัวตีลงมือหาข้อมูลมาให้แม่เสนอต่อหน้าคณะกรรมการบริษัทตั้งแต่แรกแท้ๆ แต่พอถึงขั้นตอนสุดท้ายเธอกลับถูกผลักให้หล่นพ้นทางเดิน โดยแม่เสนอให้ธิดารัตน์ได้เป็นผู้เสนอโปรเจ็คต์ตัวนี้แทนเธอ...
ความรู้สึกไม่ต้องบรรยายก็พอจะรู้ เธอทั้งเจ็บปวด ทั้งเจ็บแค้นในใจ...
เหอะ...ถ้ารู้ว่าสุดท้ายจะลงเอยด้วยการที่แม่ยกความดีความชอบ ผลงานทั้งหมดให้เป็นฝีมือของธิดารัตน์เพียงคนเดียว จ้างให้เธอก็ไม่ทำให้เสียความรู้สึก...
พอนึกถึงตรงนี้ หัวใจคนเป็นลูกที่มักถูกมองข้ามเสมอ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น...
งานนี้เธอกะพิสูจน์ตัวเองให้แม่เห็นถึงความพยายาม ให้เห็นถึงความสามารถในตัวลูกคนนี้บ้าง ถึงขั้นลงทุนอดตาหลับขับตานอน สละเวลาพักผ่อน ตั้งใจค้นคว้าหาข้อมูลอยู่ราวสองสามสัปดาห์ คิดแล้วเสียดายเวลาชะมัด รู้แบบนี้บินไปเที่ยวสิงคโปร์กับพวกของเจตน์เสียยังจะสบายใจกว่าเป็นกอง...
“แม่นะแม่...ทำไมถึงได้ชอบเห็นขี้ดีกว่าไส้อยู่เรื่อยเลยก็ไม่รู้...”
คนอารมณ์เสียบ่นพึมพำ นึกโมโหอยู่ในใจไม่หาย พร้อมสลัดรองเท้าส้นสูงจนมันกระเด็นกระดอนตกลงพื้นไปคนละทิ้งละทาง เธออยากจะรู้นัก...มีแม่คนไหนในโลกนี้บ้างนะ...ชอบเห็นขี้ดีกว่าไส้แบบแม่ของเธอ คงไม่มีหลอก นอกจากแม่คนนี้ของเธอคนเดียว...
รุ้งแก้วคิดเองเออเองเสร็จสรรพ อดนึกสมเพชตนเองขึ้นมาตงิดเสียมิได้...
ลูกทุกคนต้องการความรัก ความเอาใจใส่ ไม่ใช่ปากบอกรักแต่การกระทำมันสวนทาง...
ใบหน้าหวานก้มต่ำมองเพียงพื้นพรมสีน้ำตาลเข้ม เพียงเพราะต้องการแอบซ่อนความขมขื่นในจิตใจเอาไว้ให้ลึกสุดเท่านั้นเอง...
“หน้าอย่างแกน่ะเหรอ...จะทำงานนี้ได้สำเร็จ แล้วถ้ามันเกิดปัญหาขึ้นมา แกจะทำอย่างไร ประเดี๋ยวก็จะวีนใส่คนอื่นเขาให้ฉันต้องมาปวดหัว ตามแก้ปัญหาให้แกอีก ปล่อยให้หนูน้ำผึ้งเขารับผิดชอบโปรเจคต์นี้ต่อจากแกนั่นแหละดีที่สุดแล้ว ส่วนแกก็อยู่เฉยๆ ไม่ต้องเข้ามาวุ่นวายอะไรทั้งนั้น...”
แม่บอกเธอว่าอย่างนั้น ก่อนเริ่มการประชุมครั้งใหญ่ เป็นการสรุปผลทั้งหมดของตัวงาน หลังจากนี้จะไปในทิศทางใด...นึกแล้วก็ตลกกับชีวิตดีเหลือเกิน...
ต่อให้เธอนึกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมากสักแค่ไหน หรืออยากเป็นลูกที่ดีของแม่มากเพียงใด ทว่าสุดท้ายในสายตาของแม่ เธอมันก็เป็นได้แค่ลูกไม่เอาถ่าน มีตัวตนเพียงแค่ใช้คำว่าลูกในอก มีหรือไม่มีก็ไม่เคยสำคัญ ไม่เคยจะดีสู้ลูกผัวใหม่ของแม่ได้ รายนั้นไม่ว่าจะหยิบจับทำหรือไม่ทำอะไร ก็ดูเหมือนจะถูกใจแม่ไปเสียหมดทุกอย่างนั่นแหละ...
ในจังหวะที่รุ้งแก้วกำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง บนเตียงนอนขนาดคิงไซส์กลางห้องชุดราคาแพงหลักแปดหลัก กลับมีการเคลื่อนไหวยวบยาบจากเจ้าของร่างสูงสมบูรณ์แบบเสียยิ่งกว่านายแบบตามปกนิตยสารชื่อดังเสียอีก
“ดูท่าแล้ววันนี้ คุณรุ้งของผม คงอารมณ์ไม่ดีมาอีกตามเคยสินะครับนั่น?...”
ความคุ้นเคยกันมาได้สักระยะ ทำให้เจ้าของเสียงทุ้มบนเตียงกว้างเอ่ยทักราวกับเข้าไปนั่งอยู่ในจิตใจของหญิงสาว เขาขยับร่างสมบูรณ์แบบให้ชิดติดกับขอบหัวเตียงนอน ท่อนร่างวาบหวิว พาดไว้ด้วยผ้าผืนน้อยหมิ่นเหม่ ลำขาเรียวยาวด้วยความสูงราวสองเมตรกว่า อุดมไปด้วยมวลเนื้อเป็นมัดกล้าม ส่วนความเป็นบุรุษเพศขึงขังแน่นขนัด ดันเนื้อผ้าบางเบาจนแลเห็นเป็นรูปทรงอวบใหญ่โดยไม่ต้องเสียเวลาจินตนาการ...
รุ้งแก้วสูดลมหายใจลึก หรี่สายตามองเครื่องระบายอารมณ์ด้วยสายตาว่างเปล่า โดยไม่ได้เอ่ยคำใดกับคนถามทั้งนั้น จับจ้องมองเจ้าของร่างเซ็กซี่ กล้ามอกของเขาแน่นขนัด ชวนให้เลือดลมสาววิ่งพล่านดีซะเหลือเกิน...
นี่สินะเครื่องระบายอารมณ์ชั้นยอดสำหรับเธอ...
รุ้งแก้วปรายตามองของเล่นที่มีเอาไว้ใช้สำหรับแก้เบื่อ ยกมุมปากสูงเมื่อภาพสีหน้าผิดหวังของใครบางคนผุดขึ้นมาให้เห็น...
ไม่สิ...ไม่ใช่แค่เฉพาะเอาไว้แก้เบื่อเท่านั้นหรอก เธอยังมีเขาไว้ใช้สำหรับยั่วประสาทธิดารัตน์ด้วยไม่ใช่หรือ?... มันเป็นความบังเอิญหรือโชคเข้าข้างเธอเสียก็ไม่รู้ หลังจากเธอดันไปล่วงรู้ความลับว่าธิดารัตน์ลูกสาวสุดที่รักของแม่ ดันแอบมีใจให้กับพนักงานชายของตัวเอง
และเวลานี้หมอนั่นก็กำลังนอนแก้ผ้ารอเธออยู่บนเตียงนี่ไง...
ความคิดนี้ทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย...
รุ้งแก้วดันกระพุ้งแก้ม พุ่งสายตาเยาะหยันไปยังเครื่องระบายอารมณ์ชั้นเยี่ยม มุมปากบางกระตุกยิ้ม ยามนึกถึงใบหน้าโกรธจัดของแม่พี่สาวนอกไส้ตัวดี... ตอนธิดารัตน์ล่วงรู้เรื่องนี้เข้า เจ้าหล่อนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเชียวแหละ ร่ำๆอยากกระโจนเข้ามาบีบคอเธอด้วยซ้ำ ก็เธอดันคว้าของดี ของหมายหัวเจ้าตัวไปครอบครองอีกตามเคยน่ะสิ...
ก็ผู้ชายที่เจ้าหล่อนถวิลหา ต้องการให้มาเป็นพ่อของลูกในอนาคต คนที่แม่นั่นลอยหน้าลอยตา เที่ยวบอกใครต่อใครไปทั่วว่าดีนักดีหนา สุดท้ายแล้วเป็นไง...เขากลับกลายเป็นได้แค่ผู้ชายหน้าเงิน ขายตัวเพื่อแลกกับความสุขสบายส่วนตัวเท่านั้นเอง...
นี่หรือพ่อคนดีของยัยธิดารัตน์ อยากจะขำให้ฟันหักนักเชียว...
มีดีเฉพาะเรื่องบนเตียงน่ะสิไม่ว่า เรื่องอื่นไม่เห็นจะมีอะไรดีสักอย่าง...รุ้งแก้วนึกปรามาสชายบนเตียง โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงนั้น แดนดินมีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดามากกว่าที่เจ้าหล่อนรู้เพียงผิวเผินเสียอีก...ซ้ำร้ายเลยคือ แดนดินไม่จำเป็นต้องขายศักดิ์ศรีให้รุ้งแก้วด้วยซ้ำ
“นี่แสดงว่าคุณรุจีคงให้คุณผึ้งเป็นคนดูแลโปรเจคต์ล่าสุดต่อจากคุณรุ้งอีกสินะครับ...”
แดนดินไม่ได้คาดเดา แต่เขารู้ดีเชียวละ รู้เพราะตัวเขาเองมักเข้าไปอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดระหว่างสองคนแม่ลูกคู่นี้มาหลายครั้ง...แน่นอนว่านักธุรกิจที่มีฝีมือเก่งฉกาจอย่างคุณรุจี ย่อมเห็นเรื่องงานสำคัญเหนือกว่าสิ่งอื่นใด เจ้าตัวคงไม่กล้าเสี่ยง ยอมยกงานซึ่งมีมูลค่านับสิบล้านให้ลูกสาวเอาแต่ใจรับผิดชอบ วัดกันด้วยฝีมือ การควบคุมอารมณ์ และความสามารถรอบด้าน ธิดารัตน์ย่อมให้คำตอบที่ชัดเจนกว่ารุ้งแก้ว และไว้วางใจได้มากกว่านั่นเอง...
“ชิ!...” รุ้งแก้วทำเสียงขึ้นจมูก ใช้เท้าเขี่ยกระเป๋าสะพายราคาเหยียบแสนให้พ้นทางเดิน กิริยาไม่น่ามองในสายตาคนทั่วไปก็จริง ทว่าสำหรับแดนดิน รุ้งแก้วกลับทำอะไรก็ดูน่าเอ็นดูไปเสียหมดนั่นแหละ...
“อย่ามาสู่รู้...นั่นไม่ใช่หน้าที่ของนาย”
คนถูกกล่าวหาว่าสู่รู้เลิกคิ้วเข้ม ส่งสายตาอ่อนมองเจ้าของเรือนร่างอรชร ดูกลมกลึงไปทุกสัดส่วน พยายามทำเป็นเพิกเฉยกับคำพูดหยาบกระด้าง จะว่าเคยชินคงไม่ใช่ แต่เป็นเพราะอะไรนั้นแดนดินย่อมรู้ดีแก่ใจกว่าใครทั้งนั้น...
ก็ใครใช่ให้เขามาตกหลุมรักผู้หญิงนิสัยเสียแบบนี้กันล่ะ...แถมหลุมนั้นยังลึกจนเขาไม่สามารถปีนขึ้นมาได้อีกแล้วในชาตินี้....ความจริง ตัวเขาเองก็ไม่ใช่ผู้ชายไร้ศักดิ์ศรี ถึงขั้นสิ้นไร้ไม้ตอกจนต้องยอมขายตัว หรือ จะยอมก้มหัวให้ใครมาดูถูกง่ายๆหรอกนะ เป็นคนอื่นคงได้เห็นดีกันไปข้าง ไอ้ที่ยอมให้รุ้งแก้วโขกสับยอมตกเป็นเบี้ยล่าง ใช้สายตาดูแคลนมองเขาอยู่ทุกวี่วันนี้ มันก็เป็นเพราะ...แดนดินคลี่ยิ้มมุมปาก ทอดสายตาอ่อนโยนรักใคร่มองผู้หญิงสวยตรงหน้าด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง
เขารักเจ้าหล่อนมากเกินไปแค่นั้นเอง...
คำตอบที่มันชัดเจนดังก้องอยู่เต็มหัวใจ ตอนรุ้งแก้วยื่นข้อเสนอซื้อตัวเขา แดนดินก็แทบกระโดดร้องไชโย รีบตอบตกลงโดยไม่เสียเวลาคิดทบทวนสักนิด ...
แดนดินยอมรับอย่างลูกผู้ชาย ยืดอกยอมรับสภาพย่ำแย่ในสายตาของคนรอบข้างได้อย่างหน้าชื่นตาบาน เขาเป็นเด็กในปกครองของรุ้งแก้ว....ก็แล้วไงเขาไม่เห็นสน ถือเป็นความสำเร็จขั้นแรกของการมีเมียด้วยซ้ำ ดูไม่เหมือนคู่ไหนดี...
แดนดินชันเข่าขึ้นสูง ยอมปล่อยให้ผ้าแพรผืนบางตกลงอยู่ข้างลำตัว ความเป็นตัวตนของเขาจึงผงาดล้ำ ประจักษ์ต่อสายตาคนมอง ใบหน้าคมคายยิ้มเจ้าเล่ห์ ส่วนรุ้งแก้วผิวแก้มร้อนฉ่า จำต้องรีบเมินสายตาออกห่างจากสิ่งยั่วยวนจิตใจ ก่อนอารมณ์ภายในจะพากันปะทุเดือดรุนแรง...
“มันเป็นหน้าที่ของผม ที่จะต้องสู่รู้ในทุกช่วงอารมณ์ของเจ้านายไม่ใช่หรือไงครับ...”
คนโต้ตอบยิ้มกว้าง เขาไม่อยากทำให้บรรยากาศตึงเครียด เป็นเหตุให้ใบหน้าครามคมดูมีชีวิตชีวาสว่างไสว เพิ่มเสน่ห์เย้ายวนใจแก่คนมองมากขึ้นกว่าเดิม หากถึงกระนั้นรุ้งแก้วกลับไม่เคยยอมรับในสิ่งที่เห็น ยิ่งหัวใจเธอเอนเอียงเข้าหาผู้ชายคนนี้มากขึ้นเท่าไหร่ เธอยิ่งต้องกดให้เขาจมอยู่ใต้ฝ่าเท้าเธอมากขึ้นเท่านั้น
ไม่ต่างกับยิ่งแม่ให้ความสำคัญกับมันมากขึ้นเท่าไหร่ เธอก็จะแย้งของรักของห่วงมันมาให้เป็นของเธอจนหมดเหมือนกัน...
หญิงสาวบิดเรียวปากสีแดงสด นี่สินะถึงจะเรียกว่าการเอาคืนอย่างสมน้ำสมเนื้อ...
และมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเสียด้วยสิ เพียงแค่มีเงินเป็นองค์ประกอบสำคัญ ทุกอย่างก็กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณหนูบ้านรวยเช่นเธอ...
“อย่ามาทำปากเก่งไปนักเลย...เพราะหน้าที่ของนายก็เป็นได้แค่เครื่องระบายอารมณ์สำหรับฉันแค่นั้น อย่าได้สำคัญตัวผิดจากนี้ก็แล้วกัน สักวันหนึ่งถ้าฉันเบื่อ นายก็หมดความหมายอยู่ดี”
“ครับ...ผมทราบดี ว่าเป็นได้แค่ไหนสำหรับคุณ ผมไม่อาจเอื้อมอยากเป็นได้มากกว่านั้น” แดนดินส่งสายตาแน่วนิ่งไปยังคนเตือนสติ ตอนนี้เขาอาจเป็นได้เพียงของเล่นชิ้นหนึ่งสำหรับเจ้าหล่อนก็จริง แต่อีกไม่นานนี้หรอก ใครจะไปรู้ล่ะ เขาอาจยกฐานะ ได้เป็นเจ้าของชีวิตรุ้งแก้วอย่างถูกต้องสมบูรณ์แบบก็ได้...และนั่นคือจุดหมายสำคัญกับการพาตัวเองเข้ามาใกล้ชิดกับเจ้าหล่อนเสียด้วยสิ
“ก็ดี...แต่นายช่วยเร่งแอร์ให้ฉันหน่อย อากาศเมืองไทยนี่ร้องชะมัด กว่าจะขับรถมาถึงที่นี่ เล่นเอาหงุดหงิดเกือบตายเหมือนกัน...อุตส่าห์คิดว่าคอนโดนี้จะสร้างห่างจากถนนนรกนั่นแล้วเชียว...”
คนบ่นร้อนเชิดปลายคางสูง เดินอ้อมมาจับเหยือกน้ำเย็นบนโต๊ะทรงกลม หวังให้น้ำเย็นช่วยผ่อนคลายความร้อนในอก แดนดินเป็นฝ่ายจัดหามาวางไว้รอ หลังจากเขาขับรถมาถึงคอนโดแห่งนี้ก่อนหญิงสาว รุ้งแก้วจัดการเทน้ำในเหยือกใส่แก้ว พร้อมยกกระดกรวดเดียวจนเกลี้ยง...
“ค่อยยังชั่วหน่อย...”
เธอผ่อนลมหายใจ ค่อยคลายอาการคอแห้งลงได้บ้าง ก่อนชะงักมือซึ่งกำลังถือแก้วไว้ตอนได้ยินประโยคถัดมาของชายหนุ่ม...
“คุณผึ้งเธอเป็นคนเก่งนะครับ...ถ้าจะทำโปร...”
“เสือก!...” รุ้งแก้วหันมาตวาดแว้ดใส่ ขึงตาเขียวปัดราวนางมารร้าย ใครเล่าจะยอมฟังคำชื่นชมศัตรูคู่อาฆาตจากปากของผู้ชายตัวเอง แม้จะมีสถานะเป็นเพียงแค่ของเล่นก็ตาม...
“ถ้านายยังไม่อยากลำบาก ก็หุบปากเสียๆลงซะ...” หลังจากพูดจบรุ้งแก้วจัดการปาแก้วในมือลงพื้นอย่างไม่ยี่หระ ตวัดนัยน์ตาขุ่นโทสะมองผู้ชายปากไม่ดี
เพล้ง!