แดนดินเดินหน้ายุ่งมาหยุดหลบแดดตรงใต้หลังคาเปิดโล่งยาวตลอดทั้งแนว เบื้องหน้าเขาเป็นลานกว้างมีไว้สำหรับจอดรถทุกชนิดที่แล่นเข้ามาใช้บริการสถานที่แห่งนี้ ชายหนุ่มถอนหายใจหนักตอนปรายตามองดูรถรถสปอร์ตคันสีแดงเพลิง อารมณ์ภายในฉุนกึก มีอย่างที่ไหนเล่นมาจอดรถขวางทางเข้าออกรถของคนอื่นเขาแบบนั้น ทั้งที่ยังมีบริเวณอื่นให้จอดอีกถมเถ แดนดินกวาดตามองทั่วบริเวณนั้น พานทำเอาเขายิ่งรู้สึกหงุดหงิด ที่วางก็ยังเหลืออีกเพียบ ดันมาจอดท้ายรถเขาทำไม...
ชายหนุ่มมีสีหน้าเคร่งจัด นึกคำก่นด่าเจ้าของรถคันดังกล่าวในใจ...มักง่าย ไร้ระเบียบวินัย ไม่รู้จักเรียนรู้มารยาทการจอดรถ อย่าให้เจอตัวเชียวว่าเป็นใคร พ่อจะแพ่นกบาลให้สักที...
เมื่อสักครู่เขาจำต้องเดินย้อนกลับเข้าไปในตัวอาคารสูงเฉียดฟ้าใหม่อีกครั้ง ไปบอกให้ทางเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ประกาศตามหาตัวเจ้าของรถหรูคันเจ้าปัญหาให้ที บอกเสร็จก็เดินออกมารอกลางแดดร้อนเปรี้ยง หูเขายังได้ยินเสียงประกาศ หวังว่าไม่นานเจ้าของรถคันดังกล่าวจะวิ่งกระหืดกระหอบออกตามมา พร้อมกับคำพูดขอโทษขอโพยให้เขารู้สึกดีขึ้นมาสักหน่อย หากทว่าผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง แดนดินยังไม่เห็นใครสักคน จนต้องเดินระงับอารมณ์เดือดจัด ย้อนกลับเข้าไปให้เจ้าหน้าที่ประกาศตามหาตัวใหม่อีกรอบ หวังว่าหนนี้ เขาจะได้เห็นหน้าเจ้าของรถมักง่ายคันนั้นสักทีนะ...
แต่นี่ผ่านไปราวสิบนาทีกว่า แดนดินก็ยังไม่เจอตัวเจ้าของรถสปอร์ตอีกเช่นเคย แดดก็ร้อนเปรี้ยง บวกกับอากาศอบอ้าวจนเหงื่อซึมทั่วแผ่นหลัง เปียกชื้นเสื้อเชิ้ตที่เขาสวมเป็นวงกว้าง มันเลยยิ่งทำให้ความรู้สึกภายในเขาเดือดจัด จากที่คิดเพียงแค่แพ่นกบาลให้สักที ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจอยากลุกขึ้นมาฆ่าใครสักคนขึ้นมาติดหมัดซะแล้วสิ...
“ค่ะแม่...รุ้งทราบแล้วค่ะ แล้วรุ้งจะรีบกลับเข้าออฟฟิศเดี๋ยวนี้”
เสียงสนทนาของหญิงสาวกับปลายสายเรียกสายตาคมกริบให้ต้องเอี้ยวตัวมองตาม แดนดินแทบสะดุดลมหายใจ หัวใจเขาเต้นระรัวอย่างไม่เคยเกิดขึ้นสักครั้ง ลืมเลือนแม้กระทั่งอารมณ์คุกรุ่นเมื่อสักครู่ของตัวเองเป็นปลิดทิ้ง ความสวยของผู้หญิงคนนั้นราวกับมีเวทมนตร์แปลกประหลาด ครอบงำความรู้สึกของเขาเอาไว้อีกที...
คนหรือว่านางฟ้าวะนั่น...
แดนดินเกือบยกมือขึ้นขยี้ตาหากเขาจะไม่ได้ยินสัญญาณปลดล็อคดังขึ้นตรงรถสปอร์ตเจ้าปัญหาเสียก่อน พร้อมกันนั้นร่างงดงามราวกับถูกปั้นแต่งมาจากสรวงสวรรค์ กลับโน้มทั้งร่างหายลับเข้าไปนั่งภายในรถอย่างหน้าตาเฉย แดนดินถึงกับอ้าปากค้าง กะพริบตามองทั้งรถทั้งคนด้วยความรู้สึกปั่นป่วนหัวใจ...
ในวัยหนุ่มฉกรรจ์แดนดินไม่เคยเกิดความรู้สึกพิเศษเช่นนี้กับหญิงสาวใดมาก่อน ไม่แม้แต่จะสะดุดในความสวยของผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้นด้วยซ้ำ แต่ในเวลานี้...คนตกอยู่ในภวังค์กลับแยกความรู้สึกระหว่างโมโห กับ ถูกตาต้องใจไม่ออก แต่ที่แน่ชัดเลยคือ...
เขาอยากทำความรู้จักกับเจ้าหล่อนผู้นี้ขึ้นมาเสียแล้วสิ...
ในเสี้ยววินาทีสั้นๆแดนดินตัดสิใจพุ่งทะยานร่างสูงไปหารถยนต์ส่วนตัว เขาใช้เวลาสตาร์ทเครื่องเพียงนิดเดียว ก่อนจะเบนหัวรถยนต์ขับตามรถสปอร์ตคันโก้ที่แม้จะอยู่ห่างไกลจากสายตาสักแค่ไหน เขากลับจดจำมันได้เป็นอย่างดี แดนดินขับตามรถของนางฟ้าในความคิดมาจนกระทั่งถึงตัวอาคารสูงสุดหรูหรา ป้ายทางเข้าโชว์ตัวอักษรเคลือบสีทองโดดเด่นเป็นชื่อของบริษัทแห่งหนึ่ง
แดนดินคุ้นตากับชื่อนี้มาพอสมควร อาจด้วยเคยผ่านตาจากงานประกาศรางวัลเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจหรือนักธุรกิจยอดเยี่ยม มันจึงทำให้เขาต้องนึกไปถึงสาวใหญ่ที่มีดวงตาดุดันและเด็ดเดี่ยวขึ้นมาครามครันไม่ได้...
ชายผู้ถูกศรรักปักอกแบบกะทันหัน...ไม่ได้เลี้ยวรถตามเข้าไปถึงหน้าตึกทรงเก๋ไก๋ ทว่าในอีกสองวันต่อมาแดนดินกลับมาก้มๆเงยๆช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานคนใหม่หาเอกสารสำคัญอยู่หน้าบริเวณห้องธุรการ แดนดินสามารถเข้ามาทำงานใน บริษัทราฟิวกุ๊ด อินเจียร์ริ่งจำกัด อย่างสมใจได้ไม่ยากเย็น นั่นเป็นเพราะตัวเขามีเส้นสายลับทำงานอยู่ที่นี่นั่นเอง
จนตอนนี้ชายหนุ่มเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการแผนกการตลาดได้เกือบสองเดือน ...และเป็นสองเดือนที่แดนดินยังคงเป็นเพียงแค่หมาแหงนมองเครื่องบินผู้น่าสงสารอยู่เลย โอกาสยังมาไม่ถึงเขา แต่เชื่อว่าสักวันเขาต้องมีช่วงเวลาได้โน้มกิ่งฟ้าลงมาหาอย่างแน่นอน...
รุ้งแก้วแม่นางฟ้าจอมขี้วีน หนึ่งในนิสัยที่แดนดินประจักษ์ได้เพียงวันแรกที่ได้เหยียบย่างมาทำงานอยู่ที่นี่...
“กลางวันนี้ไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันนะคะ...”
คนชวนทิ้งสายตาหวานเชื่อม จงใจทิ้งสะโพกนั่งบนกล่องกระดาษเอกสาร แดนดินเงยหน้าจากตู้ ละสายตาขึ้นมองมายังคนเอ่ยปากชวนด้วยความรู้สึกอึดอัดเต็มทน ผู้หญิงสมัยนี้คงสะกดคำว่ารักนวลสงวนตัวกันไม่เป็นแล้วกระมัง ถึงต่างพากันแสดงออกถึงความต้องการโจ่งแจ้งจนลืมอายขนาดนี้ แดนดินกำลังคิดหาทางออกโดยละมุนละม่อม โดยเขาไม่ต้องการให้ความหวังกับใครทั้งนั้น การแฝงตัวเข้ามาทำงานที่นี่ เขามีจุดประสงค์สำคัญมุ่งหมายต้องการทำให้สำเร็จ เลยไม่คิดแวะพักกลางทางให้เสียเวลา หากคำที่กำลังเอ่ยปฏิเสธมีอันต้องยกเลิก เมื่อมีเสียงหวานแทรกเข้ามาเสียก่อน ...
“ขอโทษด้วยนะจ๊ะ คุณแดนดินคงกลับมาทานข้าวเที่ยงกับเธอไม่ทันแน่ เพราะเดี๋ยวต้องออกไปหาลูกค้ากับน้ำผึ้ง...คุณป้าให้เราสองคนออกไปคุยกับคุณสุวิชค่ะ...”
ท้ายประโยคธิดารัตน์หันมาพูดกับแดนดิน ดารากานรีบผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สีหน้าเจ้าตัวดูซีดเผือดลงถนัดตา เพราะพนักงานทุกคนในบริษัทนี้ต่างก็รู้ ลูกเลี้ยงท่านประธานใหญ่คิดเช่นไรกับพนักงานหนุ่มสุดหล่อผู้นี้ เจ้าหล่อนเลยรีบขอตัว เผ่นอ้าวกลับมายังโต๊ะทำงานประจำ ไม่อยากถูกเขม่นจนต้องกลายเป็นคนตกงานเสียก่อน...
-------------------------------------