2. ฉันมีผัวแล้ว
ตอนเย็นหลังจากปิดร้าน
วันนี้ฉันกับไอ้เป้ชวนกันไปซื้อของเข้าร้านแล้วก็แวะดูหนังในห้างต่อ
หนังที่ดูก็จะแอบมีติดเรท18+หน่อยๆตามแนวทางของฉันนั่นแหล่ะนะ ตอนแรกที่ฉันบอกว่าจะดูเรื่องนี้ไอ้เป้มันก็จะแอบมีบ่นๆใส่ฉันบ้าง ที่บ่นไม่ใช่ว่ามันไม่ชอบหนังแนวนี้นะ ไอ้นี่อ่ะตัวท็อปของความหื่นระดับ30+เวลาที่มันอยู่กับผู้ของมันเลยแหล่ะ แต่ที่มันบ่นอยู่เนี้ยเพราะว่ามันต้องมาดูกับฉันไง
"เมื่อไหร่จะจบสักทีวะ"
ไอ้เป้ซึ่งนั่งเท้าคางอยู่ตรงที่วางแขนของเก้าอี้ข้างๆฉันหันมาบ่นถามกับฉันด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายจนฉันต้องหันไปกลอกตาใส่
"มากับผู้ชายมึงเคยบ่นแบบนี้ไหม"ฉันบ่นใส่มันแล้วก็หันไปดูหนังต่อ
พระนางเริ่มถอดเสื้อกันแล้ว
ตอนนี้ฉันแอบเห็นคู่ที่นั่งข้างๆฉันเริ่มล้วงกันแล้วด้วย
แหม!!!
โรงแรมไหม?
แต่จะว่าไปฉากแบบนี้มันก็เคยมีอยู่ในนิยายฉันด้วยแหล่ะ...
"น่าเบื่อชิบ!"
"บ่นอีกครั้งกูจะเอาป๊อปคอร์นยัดปากมึงแล้วนะ"ฉันแยกเขี้ยวยิ้มพูดในขณะที่สายตายังคงมองอยู่ที่หน้าจอภาพยนต์ที่ฉายฉากพระนางกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่เบื้องหน้า และตั้งแต่นั้นมาไอ้เป้มันก็ไม่พูดไม่จาอะไรอีกเลย
จนกระทั่งตอนหนังฉายจบ
"กินไรไหมมึง เดี๋ยวกูเลี้ยง"ฉันหันกลับไปถามไอ้เป้ซึ่งเดินเงียบๆตามฉันออกมาจากโรงหนังด้วยท่าทางอืดๆเนือยๆ
"หิวอยู่"มันตอบสั้นๆด้วยใบหน้าทื่อๆแล้วก็เดินบื้อๆนำหน้าฉันไป
แม่ง
เลือกเดินเข้าร้านหรูซะด้วย!! เหมือนจะทำประชดกูงั้น?
อยากบ่นแต่เอาไว้ทีหลังละกัน...
พอเข้าไปนั่งในร้านไอ้เป้มันก็จัดการสั่งๆๆ สั่งอย่างเดียว สั่งจนฉันที่ต้องจ่ายได้แต่นั่งกระพริบตาปริบๆพอสั่งทั้งอาหารทั้งเครื่องดื่มเสร็จมันก็นั่งทำหน้าทำตาซื่อๆแต่แบบโคตรน่าหมั่นไส้มาใส่ฉัน
น่าจะหมดหลายพันอยู่นะนั่นอ่ะ...
คือแบบ
ฉันอยากตะโกนคำว่า "ไอ้เห้!!!" ใส่หน้ามันมากอ่ะ แต่ที่นี่ตอนนี้ดูจะไม่เหมาะ
เอาไว้ก่อนละกัน กลั้นไว้ๆ
ฉันพยายามบอกตัวเอง
"เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
"เออ"
ฉันตอบเสียงห้วนแล้วไอ้เป้มันก็เดินหายลับออกจากร้านไป หลังจากนั้นฉันก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไอจีส่องรูปอปป้ากดไลค์รัวๆแคปหน้าจอรัวๆเพื่อรอเวลาที่เขาเอาอาหารมาเสิร์ฟ
ความจริงของฉันอีกอย่างคือ...ถึงฉันจะดูเป็นคนห่ามๆกวนๆและไม่ค่อยจะบ้าผู้ชายในชีวิตจริงสักเท่าไหร่ แต่เรื่องมโนเพ้อฝันบ้าอปป้าเกาหลีนี่ฉันก็ว่าฉันคนหนึ่งแหล่ะนะ!!
ระหว่างที่ฉันเอาแต่ก้มเขี่ยหน้าจอ
"เอ่อ ขอโทษนะครับ"
เสียงของใครที่เหมือนจะพูดกับฉันทำให้ฉันจำต้องละสายตาจากหน้าจอแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงซึ่งตอนนี้เขากำลังยืนจ้องหน้าฉันอยู่ที่ข้างโต๊ะ
"มีอะไรเหรอคะ"
"คือ...ผมชื่อพายุนะครับ เจ้ชื่ออะไรเหรอครับ"เจ้าพายุว่าแล้วก็ถือวิสาสะนั่งลงตรงเก้าอี้ด้านหน้าฉันทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้อนุญาตด้วยซ้ำ
แล้ว
มันเรียกฉันว่าเจ้ด้วยอ่ะมึง คือแบบ
เฮอะ!!!
เจ้าเด็กนี่มึงจะกล้าเกินไปหรือเปล่า นี่ยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลย มาเรียกฉันเหมือนสนิทกันแบบนี้ทั้งๆที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกเดี๋ยวก็เจออินินจาด่ากราดซะหรอก
"อยากรู้ไปทำไม"ฉันถามเสียงห้วน ทำหน้าบ่งบอกถึงความรำคาญส่งไปถึงเด็กนั่น หวังว่ามันจะดูออกแล้วก็รีบลุกขึ้นก่อนกรูจะพูดจาไม่ไว้หน้ามึง
"ผมชอบเจ้ ผมเห็นเจ้ที่ร้านแกแฟบ่อยๆ ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้เห็นเจ้ที่นี่ด้วย สงสัยจะเป็นพรหมลิขิตของเจ้กับผมแน่ๆเลยว่าม้ะ"ไอ้เด็กพายุนั่นพูดทั้งยิ้ม
พรหมลิขิตพ่องเมิงสิ!
ไม่ได้ดูสีหน้ากูตอนนี้เลยใช่ม้ะ?
"มีเรื่องจะบอกแค่นี้เหรอ งั้นก็ไปได้และ"ฉันบอกเด็กนั่นอย่างสะกดอารมณ์ไม่ให้พูดจาร้ายแรงออกมา และในตอนนั้นอาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะพอดี
"ผมชอบเจ้จริงๆนะครับ เจ้บอกแค่ชื่อกับผมก็ไม่ได้เหรอ"
เด็กนั่นยังตอแยไม่เลิก และตอนนั้นฉันก็ดันเหลือบไปเห็นไอ้เป้เดินเข้ามาในร้านได้ถูกจังหวะพอดี
"เลิกชอบฉันเถอะฉันมีผัวละ นั่นอ่ะคนที่เดินมา"ฉันชี้นิ้วไปทางไอ้เป้ซึ่งกำลังมุ่งหน้าเดินมาที่โต๊ะเพื่อให้ไอ้เด็กพายุฝนฟ้าคะนองนี่มองตาม
"พี่อำผมป่ะครับ พี่คนนั้นเขาเป็นเจ้าของร้านกาแฟและก็เป็นเพื่อนพี่นี่นา ผมรู้ ผมไปนั่งที่ร้านบ่อยแล้วก็เห็นพี่ทะเลาะกันบ่อยๆด้วย"
"ถ้ำมองเหรอแกอ่ะ ฉันบอกว่าผัวก็คือผัวไง ผัวที่นอนด้วยกันแล้วก็เอากันทุกคืนอ่ะ เข้าใจไหม"คราวนี้ฉันขึ้นเสียงดังจนคนที่นั่งในร้านพากันหันมามอง และไอ้เด็กนั่นก็เหมือนจะหน้าเจื่อนไปด้วย
"มีอะไรกันเหรอ"ไอ้เป้ซึ่งตอนนี้เดินมาถึง มันถามฉันแล้วก็หันไปมองหน้าของไอ้เด็กบ้านั่นอย่างงงๆ
"น้องที่ไปที่ร้านพี่บ่อยๆนี่ มีอะไรหรือเปล่า มาจีบเพื่อนพี่เหรอ"
"พี่เป็นผัวเจ้แกเหรอครับ"
"หา...?"
ไอ้เป้ร้องหา?ให้กับคำถามตรงๆของเด็กเวรนั่น แล้วก็หันขวับมาจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่องในทันที
"มึงพูดบ้าอะไร"มันถามแยกเขี้ยวใส่ฉันเบาๆ
"พูดว่ามึงเป็นผัวกูไง"ฉันตอบหน้าตายใส่ไอ้เป้แล้วก็ตักอาหารตรงหน้ามากินอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก
"ไอ้หนู นั่นที่ผัวพี่ นายรีบกลับบ้านไปอ่านหนังสือตั้งใจเรียนให้จบก่อนไป"ฉันเอ่ยปากบอกแกมไล่ไอ้เด็กนั่น
"มึงจะพูดกับน้องเขาดีๆไม่ได้เลยใช่ป้ะ"ไอ้เป้หันมาตำหนิฉัน
"เพราะเจ้เป็นแบบนี้ไงผมถึงชอบเจ้อ่ะ ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่เขาเป็นผัวเจ้ เจ้แค่พูดเพราะไม่อยากให้ผมมายุ่งกับเจ้ แต่ผมไม่สนหรอก พรุ่งนี้เจอกันที่ร้านกาแฟนะครับ"ว่าแล้วเด็กพายุวายุอะไรนั่นมันก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มออกไปเลย
คือแบบ...ที่ฉันด่าๆ พูดจาไม่ถนอมน้ำใจมันเนี่ยยิ่งทำให้มันชอบฉันงั้นเหรอ? หน้ามึนเกินไปป่ะวะเด็กสมัยนี้
หลังจากเด็กนั่นเดินออกไปแล้วไอ้เป้มันก็นั่งลงจ้องหน้าฉันด้วยสายตาเหนื่อยหน่ายจนผ่านไปเกือบห้านาทีมันก็ยังคงจ้องอยู่แบบนั้น
"มองอะไรของมึง"ฉันถามเมื่อทนให้มันมองด้วยสายตาแบบนั้นต่อไปไม่ได้
"มองผู้หญิงไร้หัวใจ แถมยังไร้ความเป็นผู้หญิงอย่างมึงไง"
"แล้วไงอ่ะ มึงยังไร้ความเป็นผู้ชายได้เลย"
คำตอบของฉันทำให้ไม้ตะเกียบเหล็กที่ไอ้เป้เพิ่งจะหยิบขึ้นมา ตีโป๊ะเข้าที่หน้าผากฉันอย่างแรง
"เป็นอะไรกับหน้าผากกูป้ะ"ฉันตะคอกว่ามันหน้าหงิกแล้วยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองเบาๆ
"ถ้ายังเป็นแบบนี้ชาตินี้คงไม่มีผัวหรอกมึงอ่ะ"
"ก็ไม่ได้อยากได้อยู่แล้ว"
"แล้วนิยายของมึง..."
"มันก็แค่ช่วงนี้เท่านั้นแหล่ะ เดี๋ยวกูก็หาวิธีแก้ของกูได้เอง"
"ขอให้จริงเถอะ แล้วกูก็ขอร้องมึงอีกอย่างนะอินิน มึงช่วยเลิกอ้างว่ากูเป็นผัวมึงกับทุกคนที่เข้ามาจีบมึงสักทีได้ป้ะ"
"ทำม้ะ เป็นผัวกูแล้วมันทำไม"
"เพราะกูไม่ใช่ผัวมึงไง เข้าใจไหม ห้ะๆๆ"
ใช้ไม้ตะเกียบตีหน้าผากฉันอีกสามทีรัวๆ!!!
"ได้ใช้ความรุนแรงหลายๆครั้งต่อผู้หญิงบอบบางอย่างกู คงจะเป็นความสุขของมึงงั้นสินะ..."
"บอบบางกับผีนะสิ"
คำพูดคำจามันช่างน่าตบ!!!
"มึงเป็นเพื่อนกูนะ แถมยังเป็นเพื่อนคนเดียวที่กูสนิทที่สุดตอนนี้ด้วย"
"แล้วไง กูไม่น่าใจดีคบมึงเป็นเพื่อนมาถึงขนาดนี้เลยจริงๆ กูว่าเราเลิกเป็นเพื่อนกันเถอะว่ะ มึงรีบกลับไปขนของออกจากคอนโดกูด้วย อยู่ฟรีแถมยังใช้ไฟเปลือง น่ารำคาญชิบ"
"ไอ้เป้ มึงไม่สงสารเพื่อนตัวเล็กๆตาดำๆอย่างกูเหรอ มึงก็รู้ว่าไล่ยังไงคนอย่างกูก็จะยังหน้าด้านอยู่กับมึงต่อ แล้วแบบนี้มึงจะไล่ให้เหนื่อยปากไปทำไมวะ มึงรีบกินอาหารพวกนี้เข้าปากแล้วก็เลิกพูดว่าจะให้กูออกจากคอนโดมึงได้แล้ว เพราะยังไงกูก็จะอยู่เป็นก้างขวางคอรอขัดขวางไม่ให้มึงพาผู้ชายเข้าคอนโดแบบเดิมต่อไปเรื่อยๆ กินเข้าไปเยอะๆนะเป้นะ วันนี้กูเลี้ยงเองนะเพื่อน"ฉันว่ายิ้มๆแล้วก็ตักอาหารใส่จานให้มันจนเกือบล้น