10. หนึ่งหญิงสองชาย
"ว้าว วันนี้แต่งตัวสวยเชียวนะเรา"พี่ปิงเป็นฝ่ายเอ่ยชมฉันตั้งแต่ฉันเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อเดินไปยังโต๊ะอาหารที่พี่ปิงกับไอ้เป้กำลังนั่งอยู่
วันนี้ฉันใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสั้นสีกรมท่า ผมที่สั้นประบ่าถูกรวบมัดไว้เพียงบางส่วน ในขณะที่หน้าตาแทบจะไม่ได้แต่งเติมอะไรนอกเสียจากทาเซรั่มบำรุงและก็เติมปากนิดหน่อย ซึ่งจะว่าไปมันก็เป็นการแต่งแบบสบายๆตามปกติของฉันนี่แหล่ะ แต่พอได้ยินพี่ปิงเอ่ยชมแถมยังมองฉันตาค้างแบบนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกดีจนแทบเนื้อเต้นขึ้นมาเลย
เขินชิบ!!
"นินมานั่งตรงนี้เร็ว"พี่ปิงลุกมาจูงแขนฉันที่ยังคงเดินด้วยท่าแปลกๆไปนั่งลงยังเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับไอ้เป้แล้วพี่ปิงก็นั่งลงข้างๆ
"อาหารนี่พี่ปิงทำเองหมดเลยเหรอคะ"ฉันหันไปถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
อาหารที่จัดวางบนโต๊ะมีสี่ถึงห้าอย่าง แต่ละอย่างมีสีสันน่ากินและหอมกรุ่นติดจมูกทั้งนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าพี่ปิงจะเป็นคนทำอาหารทั้งหมดนี้ คนอะไรนอกจากจะหน้าตาดีน่ากินแล้วยังทำอาหารได้น่ากินพอๆกับหน้าอีก
แบบนี้ได้มาเป็นพ่อของลูกก็คงจะดีนะ ฮิฮิ^^
"จ้องกันเป็นปลากัดอยู่นั่นแหล่ะ"เสียงแข็งกระด้างของไอ้เป้บวกกับเสียงกระแทกช้อนลงบนจานกระเบื้อง ดังๆทำให้ฉันซึ่งกำลังเผลอจ้องตากับพี่ปิงดั่งต้องมนต์เป็นต้องหลุดออกจากภวังค์แล้วหันไปขมวดคิ้วนิ่วหน้าใส่มัน
"อะไร อยากกินพริกเหรอ"ไอ้เป้ถามฉันเสียงแข็งกร้าวแล้วก็จับไม้ตะเกียบไปคีบเอาพริกหยวกมายัดใส่ปากฉัน
"อะไรเนี่ยไอ้เป้"ฉันโวยวายพร้อมยกมือขึ้นปัดตะเกียบที่มันถือพริกจ่ออยู่ที่ปากฉันออกไป แต่โชคร้ายเมื่อพริกนั้นมันปลิวไปติดเข้ากับเบ้าตาของพี่ปิงได้อย่างพอดิบพอดี
"เชี้ย นี่สองคนเล่นอะไรกันวะเนี่ย"พี่ปิงสบถทั้งยังซี้ดปากด้วยความปวดแสบปวดร้อน ส่วนฉันทำอะไรแทบไม่ถูก ทั้งวิ่งวุ่นหาทิชชู่ ทั้งจะหาน้ำมาช่วยให้พี่ปิงล้างหน้า แต่สุดท้ายดันเป็นไอ้เป้ที่ช่วยจูงพี่ปิงไปล้างหน้าที่อ่างล้างหน้าแทน
นับว่าไอ้เป้มันยังมีสติดีกว่าฉันมาก...
"พี่ปิง นินขอโทษนะคะ นินไม่ได้ตั้งใจจะปัดพริกไปโดนพี่"ฉันขอโทษพี่ปิงด้วยความรู้สึกผิดพลางช่วยเอาผ้าขนหนูช่วยซับตามขอบตาที่แดงก่ำให้กับเขา
"อ๊า ไม่เป็นไรแล้วนิน พี่ค่อยยังชั่วละ"พี่ปิงยิ้มตอบ แต่ตาข้างที่โดนก็ยังคงลืมขึ้นมาไม่ได้
"ขอบตาแดงหมดเลยค่ะ"
"แดงเหรอ งั้นนินเป่าให้พี่ได้ม้ะ"ขอร้องด้วยน้ำเสียงออดอ้อนและเว้าวอนน่าฟังขนาดนี้ ฉันจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะ....
แต่ทันทีที่ฉันกำลังจะเข้าไปช่วยเป่าตา อยู่ๆแขนฉันกลับถูกมือนุ่มหนาของไอ้เป้ดึงกลับไป
"อะไรของมึงอีกแล้ว"ฉันเงยขึ้นไปชักสีหน้าใส่ไอ้เป้อย่างไม่ชอบใจ
"ไปได้และ สายแล้ว"มันบอกแล้วก็ดึงฉันออกมาจากห้องกับมันทันที
"แล้วพี่ปิงล่ะ"
"มันโตเป็นควายขนาดนั้น พริกเข้าตาแค่นี้ไม่ทำให้มันใจวายตายหรอก"
ไอ้เพื่อนบ้านี่มันแค่หวงแต่กลับไม่เป็นห่วงพี่ชายมันเลยหรือไง??
"ก็กูเป็นห่วง..."
"มันเป็นผัวมึงเหรอ..."
"ตอนนี้ไม่ แต่อนาคตก็ไม่แน่"ฉันเงยขึ้นว่าแล้วย่นจมูกใส่ไอ้เป้ก่อนที่มันจะดึงผมฉันอย่างแรงจนผมส่วนที่มัดไว้หลุดลุ่ยไปหมด
"ทำอะไรของมึงอีกแล้ววะเนี่ย พูดแค่นี้ถึงกับต้องดึงผมกูเลยเหรอ หา?"ฉันขึ้นเสียงใส่มันแล้วก็กระโดดขึ้นเกาะเอวแล้วดึงผมของมันคืนบ้าง
เกลียดนักเวลาที่มันนึกจะทำอะไรกับฉันก็ทำแบบนี้
"กูเตือนแล้วว่าอย่ายุ่งกับไอ้ปิง อ้ะ อีนิน หยุด ผมกูจะหลุดทั้งหัวแล้วเนี่ย โอ้ย"ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งดึง ต่างฝ่ายต่างจิกหัวกันจนคนที่เดินผ่านไปมาคงจะคิดว่าฉันกับมันกำลังจะตบกันเพื่อแย่งผู้ชายแน่ๆ
"โอ้ย นิน กูยอมแล้วๆ"ไอ้เป้ยอมปล่อยผมฉัน ดังนั้นฉันถึงได้ปล่อยมือจากผมมันแล้วก็กระโดดลงมายืนที่พื้นด้วยสภาพผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงด้วยกันทั้งคู่ หลังจากนั้นฉันก็สาวผมให้กลับคืนทรงลวกๆก่อนที่จะเดินเงียบๆนำไอ้เป้ไปขึ้นรถก่อน
"ไม่เจ็บแล้วหรือไง"ไอ้เป้ถามเสียงเรียบหลังจากขับรถออกจากคอนโดมาได้สักพัก ในขณะที่สายตาของมันทอดมองอยู่ที่ถนน ไม่ได้หันกลับมามองหน้าฉันคนที่ถูกถามแต่อย่างใด
"หมายถึงผมเหรอ..."
"ไม่ หมายถึงตรงนั้นอ่ะ"มันว่าพร้อมทั้งละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยรถลงมาแตะที่เป้ากางเกงขาสั้นของฉันจนฉันสะดุ้ง
"แล้วมึงจะเอามาแตะทำไม"ฉันหันไปเอะใส่มันพร้อมทั้งจับมือของมันออกด้วย
"กูกลัวมึงไม่รู้ไง เดี๋ยวกูเข้าไปซื้อยาที่ร้านขายยาแป๊ป นั่งรอก่อนละกัน"พูดจบพร้อมกับรถที่ขับมาจอดหน้าร้านขายยา หลังจากนั้นไอ้เป้มันก็วิ่งลงจากรถหายเข้าไปในร้านเกือบๆห้านาทีมันก็ถือถุงยาเดินกลับออกมา
"อ่ะ..."ไอ้เป้ขึ้นมาในรถแล้วก็ยื่นถุงยาให้ฉัน ในถุงยามียาคุมฉุกเฉิน ยาแก้ปวดและก็ยาแก้อักเสบอยู่ด้วย
"ยาคุมเม็ดแรกให้กินไม่เกินเจ็ดสิบสองชั่วโมงหลังมีเซ็กส์ ส่วนเม็ดที่สองให้กินไม่เกินสิบสองชั่วโมงหลังจากกินเม็ดแรก"ไอ้เป้อธิบายแล้วก็โน้มตัวไปหยิบขวดน้ำที่เบาะด้านหลังมายื่นให้ฉัน
"รีบกินแล้วก็ตั้งเวลาไว้กินเม็ดที่สองด้วย"
"อืม ขอบใจ"ฉันขอบใจมันแล้วก็แกะเอาเม็ดยาคุมเม็ดแรกมากิน
ไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตนี้ฉันจะได้มีโอกาสกินยาคุมกำเนิดเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆเขาด้วย
นี่คงเป็นประสบการณ์อีกอย่างหนึ่งที่ฉันควรจะได้รู้ด้วยตัวเองสินะ
หลังจากฉันกินยาเสร็จสรรพเรียบร้อยไอ้เป้มันก็ขับรถมาถึงร้าน ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงกว่าๆและพนักงานในร้านสองคนก็พากันมาถึงแล้วก็เปิดร้านก่อนล่วงหน้าแล้ว
"พี่เป้ พี่นิน อรุณสวัสดิ์ครับพี่"เสียงของไอ้โกกับไอ้กานพนักงานคู่แฝดนรกกล่าวทักทายทันทีที่ฉันกับไอ้เป้เดินเข้าในร้าน แต่แล้วจู่ๆ
"พี่นินเป็นไรพี่ ทำไมวันนี้เดินแปลกๆ"กูว่าแล้วไง!!
ความผิดปกติของฉันไม่เคยรอดพ้นจากสายตาของไอ้แฝดสองคนนี้ไปได้เลย
ทำไมนะทำไม ทำไมไอ้เป้มันจะหาลูกน้องมาทำร้านทั้งที ทำไมมันต้องหาคนที่นิสัยคล้ายๆกับมันมาทำด้วย
"เจ้ หรือว่าเจ้โดนเปิด..."
"มึงหุบปากไปเลยไอ้กาน ปากพวกมึงนี่นะ"
"ฮั่นแน่ พูดแบบนี้แปลว่าไอ้กานเดาถูกอะดิ กับใครอ่ะ ใช่เด็กหน้าตี๋ที่มาเฝ้าพี่ทุกวันป้ะ"ไอ้โกวิ่งเข้ามาถามฉันด้วยความอยากรู้อีกคน
"แล้วมันเรื่องอะไรของแกสองคน หา?"
"ก็เจ้อุตส่าห์ยอมมีอะไรกับผู้ชายทั้งที่ปฏิเสธมาทั้งชีวิตทั้งที พวกผมก็แค่ตื่นเต้นและดีใจไปด้วย"ไอ้กานตอบ
พวกมันสองคนน่าหมั่นไส้เหมือนกับลูกพี่ของมันไม่มีผิด สองปีตั้งแต่ไอ้เป้เปิดร้านนี้และรับพวกมันเข้ามาตั้งแต่ตอนนั้นทำให้เรากลายเป็นคนสนิทกันเหมือนกับเป็นพี่เป็นน้อง แต่ฉันไม่อยากนับพี่นับน้องกับพวกมันเท่าไหร่หรอก ไอ้เด็กพวกนี้อายุน้อยกว่าฉันสี่ปีแต่พวกมันก็กวนประสาทฉันมากเกินไป
เฮ้อ!!
"ไอ้เป้ มึงเรียกไอ้เด็กกวนประสาทสองตัวนี้ไปที"ฉันตะโกนบอกกับไอ้เป้ซึ่งกำลังเดินออกมาจากตรวจดูของที่ห้องเก็บของทางด้านหลังร้าน
"พี่เป้ พี่รู้ป้ะว่าใครคือคนแรกของพี่นิน"คราวนี้ไอ้สองตัววิ่งไปถามเอาความจากไอ้เป้ แล้วไอ้เป้มันก็มองมาที่ฉันด้วยสายตาฉายแววรำคาญ
"ไม่รู้ ไม่ใช่เรื่องของกู พวกมึงอ่ะรีบไปทำงานได้แล้วไป ของที่หลังร้านยังจัดไม่เรียบร้อยเลย"
พอไล่เด็กสองคนนั้นไปได้ ไอ้เป้มันก็เดินเอาถุงน้ำร้อนมายื่นให้ฉัน
"อะไร"ฉันเงยหน้าขึ้นถามอย่างสงสัย
"ขนมหวานมั้ง"มันพูดจาประชดแล้วก็เอาถุงน้ำร้อนนั่นมาประคบเข้าที่หน้าท้องของฉัน ในขณะที่ฉันก็ยังคงมองใบหน้ามันแล้วทำตาปริบๆไปด้วย
...ทีจะใส่ใจมันก็ใส่ใจเกินใส่ใจ ทีจะร้ายมันก็ทำให้ฉันแทบอยากจะไล่ฆา...
แต่ถึงยังไง มันก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กับฉันนั่นแหล่ะนะ เพื่อนที่ฉันเคยมี แม้จะไม่มีใครเคยใจร้ายและก้าวร้าวกับฉันแบบมัน แต่ในทางกลับกันก็ไม่เคยมีใครตามใจและใส่ใจดูแลฉันดีเหมือนมันเช่นกัน...