1
“จะให้หนูไป...บ้านปลายฟ้าเหรอคะ ทำไมคะ ทำไม”
กิ่งดาว ผู้เพิ่งส่งเสียงกรี๊ด ทำเอาคนดูแลที่คอยเป็นกระโถนรองรับอารมณ์ถึงกับหน้าเจื่อน ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
“ผม...ไม่ทราบ”
“ลุงไม่รู้เรื่องได้ไงคะ ในเมื่อลุงเป็นคนรับคำสั่งจากคุณพ่อ”
“ท่านไม่ได้บอกอะไร แค่บอกว่าให้ผมขับรถพาคุณไปนั่น และยังสั่งว่า... ให้เตรียมชุดสำหรับไปพัก 1 อาทิตย์”
“หนึ่งอาทิตย์ ฆ่ากันเสียเลยยังดีกว่าซะอีก”
หล่อนกระฟัดกระเฟียด แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเป็นคำสั่ง... พ่อคือคนเดียวที่หญิงสาวพอจะยำเกรงอยู่บ้าง
กิ่งดาว... กำพร้าแม่ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสักเท่าไรนัก พ่อ...เจ้าของกิจการขนส่งขนาดใหญ่ในภาคเหนือ เงินทองมีเหลือเฟือ เธอเรียนจนไฮสคูลจากเมืองนอก เพิ่งกลับมาเมืองไทย เพราะตั้งใจจะเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอินเตอร์
กิ่งดาวอาจจะวีน ๆ อยู่ตามประสา หล่อนมีบางอย่างที่ได้ทางพ่อมา เช่นคิดอะไรค่อนข้างนอกกรอบ มีความมุ่งมั่นอยู่ในระดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นหล่อนคงเหลวแหลก
หล่อนอุตส่าห์วางโปรแกรม เพื่อเจอเพื่อน ๆ จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ และขอเมาให้สุดเหวี่ยงสักครั้ง คำสั่งของพ่อทำเอาเซ็ง
บ้านปลายฟ้า...
ความจริงแล้วเป็นรีสอร์ตหรูเชียวละ สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนไทยระดับวีไอพี ไม่มีเงินหนาพอ ย่อมไม่สามารถเข้าพักได้อยู่แล้ว
ลุงพร คนรับใช้รุ่นราวคราวพ่อ ซึ่งทำงานรับใช้พ่อเลี้ยงกำธรมาตั้งแต่กิ่งดาวจำความได้ จะว่าไป หล่อนสนิทกับลุงพรมากกว่าพ่อเสียอีก ไม่เพียงเป็นที่ปรึกษา แต่ลุงพรยังสามารถเป็นกระโถงรองรับอารมณ์วีน ๆ ของหล่อนได้ทุกครั้งไป
บางครั้งได้อาละวาดกับลุงจนเสร็จ หลังจากนั้นหล่อนจะรู้สึกผิด เข้ามาขอโทษขอโพยด้วยวิธีการของหล่อน ไม่ใช่การพูดคำว่าขอโทษตรง ๆ
อย่างคราวนี้ สุดท้ายแล้ว ต่อให้ฉุนเฉียวแค่ไหน หล่อนก็จำต้องนั่งปั้นหน้าตึง ๆมากับลุงพรและคนขับรถไปส่งที่สนามบิน
“ถามจริง ๆ เถอะค่ะลุง”
“อะไรหรือครับ”
กิ่งดาวเป็นคนทำลายความเงียบเสียเอง หล่อนนั่งอยู่เบาะหลังเพียงลำพัง ลุงพรนั่งคู่กับคนขับ
“ลุงไม่เคยมีครอบครัวบ้างเหรอคะ”
ลุงพรถึงกับหัวเราะ “ทำไมเพิ่งมาถามล่ะครับ”
“โหย ลุง หนูรู้สึกผิดนะคะที่ไม่ได้สนใจลุงเท่าไหร่”
“ผมมันแก่แล้ว”
“หนูไม่ได้หมายถึงตอนนี้ไงคะลุง หมายถึงว่าเมื่อตอนที่ลุงยังหนุ่ม ๆ ไม่เคยมีบ้างเหรอคะ”
“ก็พอมีบ้างครับ แต่จบลงที่โสด ผมไม่เหมาะกับการมีครอบครัว ว่าแต่คุณหนูเหอะ สวยน่ารักขนาดนี้ มีใครมาจีบหรือยัง”
“โหย ไม่มีใครกล้าหรอกค่ะ ยิ่งถ้ารู้ว่าหนูเป็นลูกของพ่อเลี้ยงกำธร...” หญิงสาวเน้นเสียงชื่อของบิดา
“ก็จริงนะครับ”
“คงขึ้นคานแน่ ๆ เลย”
“ไม่หรอกครับ อย่ารีบร้อนเลย คุณหนูเพิ่งจะสิบเก้า”
“เพื่อน ๆ หนูมีแฟนกันหมดแล้วนะคะ ตั้งแต่สิบห้าสิบหก”
“เด็กเดี๋ยวนี้ใจแตกเร็ว”
“ไม่ค่ะ ไม่ใช่ใจแตก แค่เป็นไปตามยุคสมัยเองค่ะ”
ลุงพรพยักหน้าหงึกหงัก พอจะเข้าใจได้ถึงความเปลี่ยนแปลง แกเองผ่านช่วงเวลานั้นมานานเกินไป ไม่ได้นึกอยากจะมีบ่วงพันคอ
สมัยหนุ่ม ทำงานรับใช้ใกล้ชิดพ่อเลี้ยงกำธร พ่อเลี้ยงเคยพาเข้าไปนวดบ้างอะไรบ้าง ก็ไม่ได้นึกชื่นชอบอะไร
“นาย... ฉันเรียกนายไม่ได้ยินเหรอ”
ร่างสูง เหงื่อชุ่มแผ่นหลัง ชะงักเท้าหยุด ก่อนจะค่อย ๆหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงวางอำนาจ
กิ่งดาวชะงักนิดหนึ่ง เพราะ...ใบหน้าคมสัน ดวงตาคมกริบ ตอหนวดเขียวครึ้มกับทรงผมปล่อยยาวจนดูกระเซอะกระเซิง
หล่อเซอร์ในแบบที่หล่อนไม่เคยเห็นมาก่อน
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดวางอำนาจของหญิงสาวจึงเปลี่ยนไปชนิดที่หล่อนเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
กิ่งดาวเห็นผู้ชายหล่อ ๆ มาก็ไม่น้อยเลย ชาติอื่น ๆ หล่อนก็เห็นเสียจนชินตา คนสมัยนี้ดูดีทั้งนั้นแหละ ทั้งรูปร่างหน้าตาและเมื่อบวกเข้ากับการแต่งเนื้อแต่งตัว ถ้าหน้าตาเลวร้ายนักก็พึ่งมีดหมอศัลยกรรม
ในสังคมของหญิงสาว จึงยังไม่เคยเจอคนหน้าตาไม่ดี
แต่ต่างจากผู้ชายตรงหน้าของหล่อน
หล่อ เซอร์ มีความเป็นธรรมชาติ ดิบ ๆ เถื่อน ๆ ไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน
“ผมไม่ได้ชื่อนาย ผมชื่อ...”
“เฮ้ย เสือ” ก่อนชายหนุ่มจะทันได้พูดชื่อของเขา เสียงของลุงพรแทรกเข้ามา “อยู่นี่เอง ตามหาตั้งนาน อ้าว...คุณหนู...”
ลุงพรเพิ่งเห็นกิ่งดาว “คุณหนูก็อยู่นี่รึครับ นี่รู้จักไอ้เสือหรือยัง”
“เสือ นี่คุณหนูกิ่งดาว เจ้านายคนที่จ่ายเงินเดือนให้เอ็ง... คุณหนู ไอ้เสือหลานชายผม มันเป็นคนบ้านป่า มันเพิ่งพ้นเกณฑ์ทหาร มันให้ผมหางานให้ ผมเลยให้มาทำสวนอยู่ที่นี่ มันดูโง่ ๆ หน่อยนะ แต่ซื่อ ๆ ดี”
“เหมือนลุง”
กิ่งดาวอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง เมื่อได้รับคำยืนยันจากลุงพร อย่างน้อยที่สุดโปรไฟล์ของเขาก็น่าสนใจดีไม่น้อย
เป็นอดีตทหารเกณฑ์ มีความซื่อจนดูบื้อ ๆ แต่อะไรไม่ว่า หล่อล่ำดิบเถื่อนจนหล่อนรู้สึกได้
“นายทึ่ม!”
หล่อนโพล่งออกมา แล้วรอยยิ้มของหล่อนก็กระจายเต็มหน้า
เขามอง ดวงตาสนิมเหล็กไม่สามารถคาดเดาได้ว่ากำลังรู้สึกอะไร
“ไอ้เสือ มันคนเงียบ ๆ วัน ๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจาหรอกครับ”
ลุงพรพูดอีก “มีอะไรก็เรียกใช้มันละกันนะครับ ผมให้มันพักท้ายรีสอร์ตโน่น”