“นายจะมารู้ดีกว่าคนที่สอนนายได้ยังไง”
เขายักไหล่ “คุณนี่...เหมือนเมื่อก่อนไม่ผิดเพี้ยนเลยนะ สมัยเรียนเป็นยังไง ตอนนี้ก็ไม่แตกต่าง ดุเหมือนนางเสือสาว”
“นี่นาย...ไหนว่านายลืมเรื่องที่เรา...”
จิณณ์ชะงักกึกเมื่อเขาก้มหน้าลงมาเกือบชิด ใบหน้าสวยหวานแดงซ่านอย่างไม่อาจปกปิด อกนุ่ม ๆ ของเธอก็แนบชิดกับอกกว้างเมื่อเขากอดรัดแผ่นหลังของเธอแน่นขึ้น ลมหายใจอุ่นของเขาสะท้อนบนใบหน้าของเธอ หญิงสาวเกือบจะหลับตาลงเมื่อรู้สึกได้ว่าริมฝีปากของเขาเลื่อนลงมาเกือบชิดเรียวปากอิ่ม แต่แล้วชายหนุ่มก็กล่าวขึ้น
“เราอย่ามาทะเลาะกันเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ เริ่มเต้นกันดีกว่านะจีน”
จิณณ์เปิดเปลือกตาที่กำลังจะปิดลงและจ้องเขานิ่ง หญิงสาวกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ พายัพอาจไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ชอบหาเรื่องให้เธอได้อาย แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไป แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เธอรู้สึกตรงข้ามโดยสิ้นเชิง
“โอเค...”
หญิงสาวตอบเสียงเนิบ ๆ ก่อนจะเริ่มสอนให้เขาก้าวเท้าแบบเต้นลีลาศอย่างถูกวิธี ซึ่งพายัพก็ทำได้ดี แต่สิ่งที่ทำให้จิณณ์เริ่มเสียสมาธิก็คือสายตาคู่คมของคู่เต้นที่จับจ้องเธอไม่วาง มันทำให้เธอรุ่มร้อนเหมือนเขากำลังค้นหาอะไรบางอย่างจากดวงตาของเธอ
เอวบางพลิ้วไหวไปตามจังหวะการเต้นซึ่งปราศจากเสียงดนตรี แต่หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีสมาธิดังเช่นที่เคยเป็น เธอกำลังถูกรบกวนจิตใจด้วยกล้ามเนื้อแกร่งของพายัพที่เสียดสีบนเนื้อตัวของเธออยู่ตลอดเวลา กว่าจะรู้ตัวอีกทีร่างบางก็สะดุดขาตัวเองและทำให้คู่เต้นของเธอพลอยล้มลงไปนอนกลิ้งอยู่บนโซฟาโดยไม่ตั้งใจ
“พายัพ!...เอ้อ...ฉันขอโทษ”
จิณณ์ละล่ำละลักบอกชายหนุ่มที่ตอนนี้ร่างกำยำใหญ่โตของเขาอยู่เหนือร่างของเธอที่ล้มลงไปนอนหราอยู่บนโซฟาตัวยาว หญิงสาวขยับตัวจะลุกนั่งแต่กลับถูกอ้อมแขนรัดแน่นและลำตัวหนาใหญ่ไม่ยอมเลื่อนออกไปให้เธอเป็นอิสระ
“จีน...คุณเจ็บหรือเปล่า”
“ไม่...ฉันไม่เป็นไร...แต่...นายปล่อยฉันก่อนได้มั้ยพายัพ”
“จีน...”
เสียงของพายัพแหบพร่าอยู่ใกล้หูของหญิงสาว แล้วจิณณ์ก็ชะงักไปเมื่อร่างสูงใหญ่ไม่ยอมเลื่อนออกจากตัวเธอแถมเขายังทำให้หญิงสาวประหลาดใจด้วยการกอดเธอแน่นและจ้องตาเธอนิ่งนาน
“พายัพ...ปล่อยฉันก่อนสิ...ฉันขอโทษที่ทำให้นายเสียจังหวะ”
“ไม่หรอกจีน...อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว”
“ว่ายังไงนะ”
คราวนี้คนที่น้ำเสียงสั่นพร่าเสียเองกลับเป็นหญิงสาว จิณณ์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เหมือนมีบางอย่างแล่นจากตัวเขาเข้าไปในตัวเธอ มันเป็นความร้อนรุ่ม เหมือนกระแสไฟอ่อน ๆ ที่ทำให้เธอต้องหยุดนิ่งและจ้องนัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกายคู่นั้น
“พายัพ...นี่นาย”
“จีน...ได้โปรดอย่าขยับตัวได้ไหม ผมอยากกอดคุณไว้แบบนี้...นาน ๆ”
“พายัพ...นายจะทำอะไร...ฉันไม่...”
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ท้วงติงปากนุ่ม ๆ ของเธอก็ถูกปิดไว้สนิทด้วยปากร้อนรุ่มของพายัพ จิณณ์ถึงกับนิ่งเพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยถูกผู้ชายจูบ รู้สึกถึงแรงดันจากลิ้นของเขาที่แทรกเข้าไปในปากของเธอ และเธอก็เปิดปากรับปลายลิ้นของเขาไว้โดยไม่ยินยอมปฏิเสธเลยสักนิด
“อือ...อือ”
เสียงทักท้วงของหญิงสาวดังได้แค่ลำคอที่สั่นระริก เป็นครั้งแรกที่เธอรับรู้รสชาติจากปากของผู้ชาย และเป็นรสจากปากของพายัพ ผู้ชายที่เธอเคยเกลียดและเคยว่าเขา ไม่อยากเข้าใกล้เขาแม้แต่น้อย
ลิ้นของเขาแทรกซอนไปทั่ว รสชาติแปลก ๆ จากปากของเขาถ่ายเทเข้าไปในปากของเธอ จิณณ์หัวใจเต้นระส่ำเหมือนกลองรัว แล้วเธอต้องทำยังไงดี ลืมตามองใบหน้าหล่อเหลาหรือหลับตาลงรับจุมพิตดูดดื่มที่เธอไม่เคยประสบพบเจอมาก่อนในชีวิต
“จีน”
พายัพครวญเบา ๆ เมื่อถอนริมฝีปากออก เขาบดเบียดหน้าอกแกร่งกับทรวงอกนุ่มที่ไหวสะท้อนด้วยความหวั่นหวาม เมื่อเขาเลื่อนใบหน้าออกหญิงสาวก็ทำสีหน้าแทบไม่ถูก เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่นี้ ทำไมเธอถึงไม่ขัดขืนเขา จิณณ์มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“พายัพ...นายทำแบบนี้ทำไม?”
“จีน...คุณคงไม่รู้ว่าผมอยากทำแบบนี้กับคุณมาตั้งนานแล้ว”
“ทำแบบนี้” หญิงสาวนิ่วหน้า
“แบบนี้ไง”
“พายัพ...”
หญิงสาวไม่ทันได้ประท้วงเขาเป็นหนที่สอง พายัพประกบปิดปากของเขาบนเรียวปากอิ่มบนดวงหน้าสวยหวานแนบแน่น คราวนี้จิณณ์ต้องหลับตาลงเพราะมันช่างเป็นประสบการณ์หวั่นหวามจากจูบครั้งแรกในชีวิต
มือไม้ของเธอก็ไม่รู้ว่าจะวางมันตรงไหน ท้ายที่สุดหญิงสาวก็วางมันลงบนสันกรามของเขา ตัวเธอเองกระตุกทุกครั้งที่ลิ้นของเขาแทรกลึกเข้าไปในปาก ดุนดันลิ้นของเธอจนหญิงสาวสั่นสะท้านในอ้อมกอดที่ไม่นึกไม่ฝันว่าจะยินยอมให้เขารัดรึงตัวเธอ
“พายัพ...พายัพ...”
“จีน”
พายัพถอนริมฝีปากจากเรียวปากอิ่มสวย จิณณ์หน้าแดงซ่าน เธอพึ่งรู้ตัวเองว่ากำลังถูกเสน่ห์ของพายัพรัดตัวเธอเข้าให้แล้ว เธอไม่ยอมปฏิเสธเขา ไม่ยอมโวยวายแถมยังเผยอปากรับลิ้นของเขาอย่างง่ายดาย
“พายัพ...นายปล่อยฉันเถอะ”
หญิงสาวขอร้องเสียงหอบเหนื่อย แต่ชายหนุ่มกลับทำในสิ่งตรงข้ามนั่นคือกอดเธอแน่นขึ้น