-สองอาทิตย์ต่อมา-
“โอ้โหมาด้วยเหรอครับ หายหน้าหายตาไปนานกูนึกว่าเข้าวัดเข้าวาไปแล้วพ่อคนดี”
“เข้าวัดพ่อง!” ผมนั่งลงข้างไอ้ซีเจย์แล้วก็ตอบมันนิดหน่อย กัดเก่งเป็นบ้าเลยไอ้พวกนี้แค่ผมไม่มาดูแข่งรถที่สนามไอ้ชัตเตอร์แค่อาทิตย์เดียว
“หึๆๆ เป็นไงมึงไปกินปลาดิบมา”
“ใครกินปลาดิบ?”
“มึงไงไอ้ห่า”
“กูไม่ได้ไปกินปลาดิบว่ะ...กูไปกินตับมา” ผมยกแก้วเหล้าที่ไอ้ฟลุ๊คเด็กเสิร์ฟของสนามไอ้ชัตเตอร์รีบเอามาเสิร์ฟให้ทันทีที่ก้นผมถึงเก้าอี้จนหมดแก้วแล้วตอบมันไป
“ไอ้ห่าหมั่นไส้ฉิบ เด็ดล่ะสิมึงถึงทำให้คนดีแอ๊บแตกได้”
“หึๆๆ เรื่องของกูกับเจนนี่ไม่เสือกสิวะ” ผมไม่ตอบมันหรอกว่าเจนนี่เด็ดแค่ไหน เอาเป็นว่า 9 วันที่ญี่ปุ่นผมได้ออกจากโรงแรมไปเดินเที่ยวแค่ 2 วันเท่านั้นเอง ที่เหลือก็เป็นช่วงเวลาของการเดินทางไปเช็คอินเข้าพักตามโรงแรมต่างๆ ในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโตเกียวแล้วก็รอบๆ โตเกียวเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศของเราสองคนแค่นั้น
“แสดงว่าเด็ดไม่งั้นพี่มิกซ์เทพบุตรของสาวๆ คงไม่เปย์ทั้ง chanel hermes ให้ชุดใหญ่ขนาดนี้”
“ก็...ไม่ต้องเสือก” ผมยิ้มให้มันแล้วหันไปสนใจพริตตี้ในสนามทิ้งให้ไอ้ซีเจย์ทำเสียงจิ๊จ๊ะหงุดหงิดที่ผมไปกวนตีนมัน
เจนนี่เด็ดแค่ไหนน่ะเหรอครับ ก็เด็ดขนาดที่ว่าผมยอมเปย์ของแบรนด์เนมให้สุดตัว ให้เยอะจนกลับมาถึงไทยผมก็ยังได้จัดการเก็บค่าภาษีที่โดนเรียกเก็บเพราะบรรดากระเป๋ารองเท้าของเธอที่สนามบินอีกหลายแสน เจนนี่โดนผมเรียกเก็บค่าภาษีคืนจนเมื่อเช้าเธอลุกไม่ไหวเลยล่ะครับ ผู้หญิงเปรี้ยวๆ แสดงออกชัดเจนมันดีแบบนี้นี่เอง ดีกว่าพวกผู้หญิงเรียบร้อยแอ๊บเก่งตั้งเยอะ อยากได้อะไรต้องการอะไรก็บอกชัดเจนไม่ต้องให้เสียเวลาถามเซ้าซี้ ยิ่งเรื่องบนเตียงพอต้องการขึ้นมาก็กระโดดคร่อมผมเองเลย ผมว่าแบบนี้ก็ไม่เลวนะครับ ไม่น่าเบื่อดี
อ้อเจนนี่คือผู้หญิงที่ผมถูกใจตั้งแต่เมื่อเกือบ 3-4 อาทิตย์ก่อนมั้งครับ ผมเจอเธอที่นี่นั่นแหละแต่ไม่ได้ทำความรู้จักกัน แต่เราไปบังเอิญเจอกันที่ผับที่หนึ่งจนสานสัมพันธ์กันตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ น่ารักดีครับอ้อนเก่ง เอา...ใจเก่ง ไม่งอแง ไม่ทำตัวน่ารำคาญ
“ไอ้ฟลุ๊ค” ผมเรียกไอ้ฟลุ๊คที่มาคอยยืนรับออเดอร์อยู่ไม่ไกลจากโต๊ะเท่าไหร่หลังจากที่นั่งได้ไม่ถึง 5 นาที
“ครับเฮีย”
“...” ผมมองหน้ามันแล้วก็คิดไม่ออกว่าจะถามอะไรมัน อยู่ดีๆ ผมมองซ้ายมองขวาแล้วก็เรียกมันซะงั้น
“มีอะไรรึเปล่าครับเฮีย” มันคงงงที่ผมนิ่งมั้งครับก็เลยถาม
“เปล่า...เอาเหล้ามาให้กูหน่อย ขอเตกีล่าเข้มๆ” ผมคิดไม่ออกว่าเรียกมันทำไมก็เลยสั่งเหล้ากลบเกลื่อน งงตัวเองเหมือนกันครับที่อยู่ดีๆ ก็เรียกมัน
“ครับเฮีย”
“เป็นไรวะ มึงดูเหม่อๆ” ไอ้เวกัสที่นั่งถัดจากผมหันมาถามผมก็เลยส่ายหน้าตอบมัน
“เปล่า กูนอนน้อยเลยเบลอมั้ง”
“หึๆๆ สงสัยเด็ดจริง พอเปลี่ยนแนวแล้วเจอคนที่คิดจะจริงจังเลยเหรอวะ?”
“ไม่รู้ว่ะ อาจจะจริงจังมั้งถ้าเข้ากันได้ดี” ผมก็ตอบไปงั้นแหละครับก็บอกแล้วไงว่าเรื่องความรักผมขอพักใจยาวๆ กับเจนนี่ตอนนี้เราสองคนเป็นเหมือนคนที่รู้ใจกันที่สุดแต่ยังไม่ได้ถึงขั้นคบกันเป็นคนรัก เรื่องอื่นให้มันเป็นเรื่องของอนาคตเถอะวันนี้อาจจะแค่คู่นอนแต่บางทีผมอาจจะติดเจนนี่จนไปไหนไม่ได้เลยก็ได้ใครจะไปรู้
“แล้วเข้าดีแค่ไหนล่ะ” มันถามแล้วเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น
“หึๆๆ แล้วมึงคิดว่าเข้าได้ดีไหมล่ะ” ผมกระตุกยิ้มถามมันกลับบ้าง เรื่องแบบนี้ไม่ได้อยากพูดหรอกครับเดี๋ยวผู้หญิงเสียหาย แต่กับเพื่อนสนิทบางครั้งผมก็มีพูดบ้างเหมือนกัน แต่ก็พูดในระดับหนึ่งไม่ได้ถึงขั้นไปวิจารณ์ว่าใครหุ่นยังไง ลีลาดีแค่ไหน
“กูว่าเข้ากันได้ดีสุดๆ เพราะมึงกับเจนนี่เล่นไม่ลงรูปไปเที่ยวเลย คนไปเที่ยวเมืองนอกมีเหรอวะจะไม่ลงรูปสถานที่เที่ยว นอกจะจากจะเอาเวลาทั้งหมดไปไว้ที่โรงแรม” หึๆๆ เกลียดความรู้ทันของมันที่สุดเลยครับ
“หึๆๆ”
“หึๆๆ พ่อง เข้ากันได้ดีเรื่องบนเตียงก็ไม่ได้แปลว่าจะเข้ากันได้ดีในทุกๆ เรื่องนะไอ้ห่า สำหรับกูๆ ยังคงเชียร์น้องเจ้าขาของกูอยู่นะครับ คนอะไรเรียบร้อยน่ารักน่าทะนุถนอมเหมาะกับคนดีแต่เปลือกอย่างมึงสัสๆ”
“เจ้าขา? ใครวะ?” ผมขมวดคิ้วใส่มันเพราะอยู่ๆ มันก็พูดชื่อของใครก็ไม่รู้ขึ้นมา แถมยังมาบอกว่าเหมาะกับผมอีกทั้งที่ผมไม่ได้รู้จัก แม้แต่ชื่อก็ไม่เคยได้ยิน แต่ว่าชื่อโคตรเลยครับ “เจ้าขา”
“ก็น้องคนสวยที่เรียบร้อยๆ หน้าตาสวยๆ หวานๆ ที่เป็นเด็กเสิร์ฟคนนั้นไงวะ” ไอ้เวกัสขยายความสงสัยของผมให้ชัดเจนจนผมถึงบางอ้อ คนที่มันพูดถึงคงเป็นใครไปได้เพราะพนักงานเสิร์ฟที่นี่ไม่มีใครแอ๊บเรียบร้อยยกเว้นผู้หญิงคนนั้นคนเดียว ยัยหน้าหวานที่ท่าทางโคตรรกหูรกตาผม
“หึ! เสียดายชื่อว่ะ”
ชื่อเจ้าขางั้นเหรอ ชื่อเหมือนเกิดมาเพื่อเป็นกุลสตรีเลยนะ แต่เห็นเธอแล้วผมเสียดายชื่อเพราะๆ แถมยังโคตรน่ารักชื่อนี้จริงๆ ไม่น่ามาอยู่กับพวกผู้หญิงขี้แอ๊บ คนเรียบร้อยที่ไหนจะมาเดินเสิร์ฟเหล้าจนดึกดื่น แถมยังคอยชงเหล้าให้ผู้ชายไม่มีหยุด ลูกค้าคนไหนชวนคุยผมก็เห็นผู้หญิงคนนั้นยิ้มหวานตอบจนผู้ชายเคลิ้มกันซะทุกคน อ่อยเก่งแถมยังอ่อยเนียนต้องยกให้ผู้หญิงคนนั้นเลย
“น้องเขาก็เหมาะกับชื่อเจ้าขาออก เจ้าขา~ แม่งโคตรน่ารักเลย ยิ่งเวลาน้องเขาแทนตัวว่าเจ้าขาด้วยเสียงหวานๆ ของเขานะมึงกูยังแทบใจละลาย”
“หึๆๆ มึงไม่จัดเลยล่ะ” ผมหัวเราะในลำคอแล้วถามมันก่อนที่จะยกแก้วเตกีล่าขึ้นมากระดกทีเดียวจนหมดแก้วอีกครั้ง
“ไม่ว่ะกูเห็นแล้วรู้สึกเอ็นดูเหมือนน้องสาวมากกว่า น้องเขาน่าจะไม่ได้เกิดมาเพื่อกู แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเกิดมาเพื่อมึงก็ไม่แน่” มันยิ้มมีเลสนัยใส่ผมเหมือนจะทำตัวเป็นหมอดูที่ดูยังไงก็รู้ว่าเดาตามความพอใจของปากล้วนๆ
“ก็ไม่แน่ถ้าได้แล้วจากน้องสาวมึงอาจจะยกให้เป็นเมียเลยก็ได้”
“มึง...เป็นคนเหี้ยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะมิกซ์” มันมองผมนิ่งๆ แต่สายตาที่เย็นยะเยือกของมันทำให้ผมรู้ว่ามันกำลังไม่พอใจคำพูดของผม
“กูรู้จักผู้หญิงประเภทนี้ดีว่ะ” ผมกระตุกยิ้มตอบมัน ไม่ได้สนใจสายตาของมันหหรอกครับ สายตาเย็นยะเยือกที่มันใช้เวลาอยากจะฆ่าใครสักคน
“ไม่ทุกคนหรอกไอ้มิกซ์กูเคยบอกมึงแล้ว มึงมันตาต่ำมองกรวดเป็นเพชรจนกูชินแล้วกูเข้าใจ แต่ถ้ามึงไม่รู้จักเขาเลยสักนิดมึงก็อย่าเหมารวม” มันเสียงเย็นมากจนผมรู้ว่ามันกำลังข่มอารมณ์ ยิ่งเห็นมันโกรธผมอย่างที่ไม่เคยโกรธมาก่อนผมก็ยิ่งคิดไปไกลอยากรู้ว่ามันกับผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกันถึงได้ออกตัวปกป้องขนาดนี้
“มึงปกป้องผู้หญิงคนนั้นเกินไปแล้วนะไอ้กัส มึงเป็นอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเหรอวะ” ผมยิ้มให้มันแล้วก็บอกมันพร้อมกับถามเผื่อว่ามันจะแค่ลืมตัวปกป้องคนอื่นมากไปมันจะได้ดึงตัวเองกลับมา
“ไม่ได้เป็นอะไรแล้วกูจะปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งจากคำดูถูกของเพื่อนรักของกูที่ดูถูกเขาทั้งที่ไม่เคยรู้จักเขาไม่ได้เหรอวะ”
“หึๆๆ มึงคอยดูวันที่ผู้หญิงคนนั้นเผยธาตุแท้ก็แล้วกัน ไอ้เรื่องที่มึงเคยท้าพนันกูๆ ยอมรับคำท้า 1 ล้านต่อ 5 ล้านเลย ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใสมึงจ่าย 1 ล้าน แต่ถ้าใสกูยอมจ่าย 5 ล้าน เอาไง?” ผมหมั่นไส้มันอย่างที่ไม่เคยหมั่นไส้มาก่อน ถ้ามันไม่ยืนยันว่าเอ็นดูผู้หญิงคนนั้นเหมือนเป็นน้องสาวผมคงคิดว่าเป็นเด็กของมันไปแล้ว
“ไม่เอาว่ะ กูไม่เอาน้องเขามาท้าพนันหรอก” ไอ้เวกัสเลือกที่จะปฏิเสธทั้งที่ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาผมไม่เคยเห็นมันปฏิเสธการท้าพนันเลยสักครั้ง มีแต่มันท้าเองหรือไม่ก็กระโจนเข้ารับคำท้า
“ทำไม?”
“น้องเขาใสซื่อเกินกว่าที่กูจะดึงมาเป็นหมากในการพนันเพื่อความสนุกว่ะ”
“แต่ตอนที่มึงเห็นผู้หญิงคนนั้นครั้งแรกมึงเป็นคนท้าพนันกูเองนะไอ้กัสถ้ามึงยังพอจำได้ เมื่อกี้มึงก็เพิ่งชงให้กู”
“กูจำได้ แต่ตอนนั้นกูไม่เคยรู้จักเขานี่หว่ากูก็ท้าพนันไปเรื่อย แต่พอได้รู้จักกูก็ไม่เล่นแล้วว่ะ แล้วที่กูชงเพราะกูคิดว่าน้องเขาเหมาะกับมึงจริงๆ กูหมายถึงถ้ามึงคิดจะจริงจังไม่ใช่เล่นๆ”
“หึๆๆ แต่กูจะเล่นว่ะ เงินมึงกูไม่เอา แต่ถ้ากูแพ้กูจะเอาเงิน 5 ล้านใส่พานมาให้มึงถึงที่เลย” ผมยกเหล้าเข้าปากแล้วมองมันด้วยสายตาท้าทาย ส่วนไอ้เวกัสพอได้ยินผมพูดมันก็มองผมด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกอีกครั้ง
...หมั่นไส้ว่ะ อ่อนหวาน เรียบร้อย ใสซื่องั้นเหรอ ออกตัวปกป้องแรงฉิบหาย เดี๋ยวผมจะพิสูจน์ให้เองว่าสมราคาคุยไหม พิสูจน์มันคืนนี้เลย