ตอนที่ 5

1322 Words
มื้อค่ำของไร่ภูพนาเต็มไปด้วยความวุ่นวายสุดขีด เมื่อฟ้าลดาที่แสนจะเจ้ายศเจ้าอย่าง กินอาหารพื้นบ้านบนโต๊ะไม่ได้สักอย่างเดียว “นี่แกงอะไรคะ ฟ้ากินไม่เป็นค่ะ” “อ่อมไก่จ้ะ อร่อยนะ หนูฟ้าลองชิมดูสิ” อังกาบตักอ่อมไก่ใส่จานให้กับฟ้าลดาแต่หญิงสาวปัดทิ้งทันที จนหกเปื้อนเปรอะ “ฟ้ากินไม่ลงค่ะ ไม่ชอบ” หล่อนตอบตามนิสัยเอาแต่ใจ ก่อนจะหันไปหาแววคนใช้ของตนเอง “แวว โทรไปสั่งอาหารที่ภัตตาคารให้หน่อย ฉันกินอาหารตรงหน้าไม่ลง” แววหน้าตาเจื่อนลง เมื่อสบสายตาอ่อนใจของอังกาบ “คือว่า... เราไม่มีเงิน...” “เธอไม่มีเงิน ก็เอาบัตรฉันไปรูดสิ” “เอ่อ... คุณหนูลืมไปแล้วเหรอคะว่าคุณท่านอายัดบัตรเครดิตทุกใบไปแล้ว” ดวงตาของฟ้าลดาเบิกโพลง นั่นสิ หล่อนลืมไปเสียสนิทเลย “เงินในกระเป๋าฉันมีเกือบหมื่น เอาไปสั่งอาหารมา เร็วเข้าฉันหิว” อังกาบถอนอกถอนใจยาวเหยียด ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ผ่านการควบคุมมาอย่างดี “ที่นี่ไม่มีภัตตาคารหรูๆ อย่างที่กรุงเทพฯ หรอกนะหนูฟ้า” ฟ้าลดาหันไปมองอังกาบ “ไม่มีภัตตาคารหรูๆ แต่ยังไงซะก็ต้องมีร้านอาหารบ้างใช่ไหมคะ” “ก็มีน่ะจ้ะ แต่ไม่รู้ว่าหนูฟ้าจะกินได้หรือเปล่า” ฟ้าลดาลุกขึ้นยืน หน้าตาบูดบึ้ง “ก็คงจะพอกินได้มากกว่าอาหารบนโต๊ะนี้มั้งคะ” อังกาบแทบเป็นลมกับคำตอบไร้มารยาทของฟ้าลดา แต่หญิงสาวหาสนใจไม่ “แววไปจัดการมาให้ด้วยนะ คุณป้าคะ ฟ้าขอตัวก่อนนะคะ ขอให้เอ็นจอยกับอาหารค่ำค่ะ” แล้วหล่อนก็สะบัดหน้าเดินกลับขึ้นไปห้องพักอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ อีก แววมองตามร่างของนายสาวไป ก่อนจะหันมาขอโทษขอโพยอังกาบ “หนูต้องกราบขออภัยแทนคุณหนูด้วยนะคะ คุณหนูเธอถูกตามใจมาตั้งแต่เล็ก นิสัยก็เลยไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่” “ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็พอจะรู้จากปากของคุณปฐพีมาบ้างแล้วล่ะ” แม้จะรู้มาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะหนักหนาสาหัสขนาดนี้ นี่ไม่รู้ว่าเอกกวีจะรับมือฟ้าลดาไหวหรือเปล่า หล่อนถอนใจออกมาอย่างหนักอก “งั้นแววก็ไปทำตามที่หนูฟ้าบอกเถอะ เดี๋ยวไม่ทันใจแล้วจะโมโหเอา” “แววขอตัวค่ะคุณอังกาบ” แววเดินจากไปแล้ว อังกาบได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ “คุณแม่ขา ช่อมาแล้วค่ะ” ช่อผกาลูกสาวคนเล็กเพิ่งกลับมาถึงบ้าน และรีบตรงดิ่งมาที่โต๊ะอาหารทันที “อ้าว มากินข้าวกันช่อ” “ค่ะแม่” หญิงสาววัยสิบแปดเดินมานั่งข้างๆ มารดา ก่อนจะสูดกลิ่นอาหารเข้าไปในปอด “หอมจังเลยค่ะแม่ มีแกงอ่อมด้วย ของโปรดช่อเลยล่ะ” “ชอบก็กินเสียสิ” ช่อผกาจัดการโดยทันที ตักข้าวตักแกงอ่อมใส่ปาก ก่อนจะหันมาถามมารดาเมื่อนึกขึ้นได้ “แล้วพี่เอกไม่มากินข้าวด้วยกันเหรอคะ หรือว่ากินอิ่มไปแล้ว” “พี่เขาออกไปในเมืองน่ะ นี่ก็ยังไม่เห็นกลับมาเลย สงสัยนัดสาวเอาไว้ล่ะมั้ง” “อ้าว แต่เมื่อกี้ช่อเห็นไฟในห้องของพี่เอกเปิดนี่คะ นึกว่ากลับมาแล้วเสีย” อังกาบไม่รู้จะแสดงสีหน้าอะไรออกมาดี “นั่นไม่ใช่พี่เอกหรอกช่อ แต่เป็น...” “ใครคะ?” “หนูฟ้าลดาไง ที่แม่บอกช่อไปเมื่อวันก่อนว่าจะมาค้างที่ไร่หนึ่งเดือนน่ะ” “ผู้หญิงกรุงเทพฯ เหรอแม่ สวยไหมคะ” ช่อผกาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “สวยมาก แต่...” อังกาบหยุดพูดเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “ว่าแต่ทำไมวันนี้กลับค่ำนักล่ะ แอบไปเถลไถลที่ไหนมาหรือเปล่า” “ไม่ได้ไปเถลไถลที่ไหนสักหน่อยค่ะ” คนเป็นลูกตอบเสียงอ่อย มีพิรุธ อังกาบจึงพอจะเดาได้ทันทีว่าสถานที่พักพิงหลังเลิกเรียนของช่อผกาคือที่ไหน “ไปกวนพี่นลมาอีกล่ะสิ” “เปล่านะแม่” “ช่อ...” “คะแม่?” อังกาบมองลูกสาว และพูดเสียงจริงจัง “ฟังแม่นะช่อ พี่นลน่ะโตแล้ว ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแบบเดียวกับช่อ ดังนั้นการไปนั่งเฝ้าพี่เขาที่ทำงานแบบนี้ มันไม่งามนะลูก ไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงดีๆ ควรจะทำ” “แต่ช่อ... รักพี่นลแม่ก็รู้นี่คะ” “รักแล้วไง รักแล้วไปนั่งเฝ้าพี่เขาได้ทั้งวันเหรอ ช่อ แม่ขอร้องนะ อย่าไปกวนพี่เขาเลย” “ก็พี่นลไม่เห็นว่าอะไรเลยนี่คะ” หญิงสาวยังอดที่จะเข้าข้างตัวเองไม่ได้ “ที่ไม่ว่าอาจจะเพราะพี่นลเกรงใจพี่เอกก็ได้นะ ช่อต้องวางตัวดีๆ เข้าใจไหม” “แต่ว่า...” “รับปากกับแม่สิว่าจะไม่ไปกวนพี่นลอีก นี่ถ้าไม่รับปาก แม่จะไม่ทำแกงอ่อมให้กินแล้วนะ” “แม่น่ะ อย่าต่อรองแบบนี้สิคะ ช่อก็แพ้พอดี” อังกาบหัวเราะกับความเห็นแก่กินของบุตรสาว “นี่แม่พูดจริงทำจริงนะ” “ก็ได้ๆ ค่ะ ช่อจะพยายาม” “ดีมาก เดี๋ยวแม่จัดแกงอ่อมให้กินทั้งสามมื้อเลย” “แม่น่ะ ชอบแซ็วช่อจัง” สองแม่ลูกหัวเราะขบขันและกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย เอกกวีก้าวลงจากรถกระบะสี่ประตูยกสูงของตัวเองเมื่อจอดนิ่งเอาไว้ในโรงจอดรถ เขาเดินจะเข้าบ้าน และก็ต้องเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งกำลังจ่ายเงินให้กับเจ้าของรถยนต์คันไม่คุ้นตา ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นรถบรรทุกอาหารจากร้านดังๆ สักที่ในภูเรือ “อาหารของใครเหรอครับ” แววหันมาก็เจอเจ้าของเสียงที่หล่อล่ำก็อดที่จะระบายยิ้มอย่างเอียงอายไม่ได้ “เอ่อ คุณเอกกวีใช่ไหมคะ” “ครับ แล้วคุณ...” “อ๋อ หนูชื่อแววค่ะ เป็นคนใช้ของคุณหนู” “คุณหนู?” เมื่อเห็นคิ้วเข้มเลิกสูงอย่างแคลงใจ จึงรีบอธิบายออกไป “คุณหนูฟ้าลดาไงคะ ลูกสาวของคุณปฐพีน่ะค่ะ” “อ๋อ” เอกกวีพยักหน้ารับน้อยๆ “แล้วนี่ก็คงเป็นอาหารของคุณหนูฟ้าลดา” “ใช่ค่ะ คุณหนูอยากกิน” “อืม” เขาพยักหน้ารับน้อยๆ พลางคิดในใจว่านี้จะเป็นมื้อสุดท้ายของคุณหนูนั่น เพราะหลังจากนี้ไปเขาจะอบรมบ่มนิสัยให้กินง่ายอยู่ง่าย “งั้นก็ตามสบายเถอะ ผมไปล่ะ” ร่างสูงใหญ่ปานนายแบบโฆษณาเดินดุ่มๆ จากไป แววรีบวิ่งตามไปทันที “เอ่อ แล้วคุณเอกจะไปไหนคะ” เอกกวีระบายยิ้มน้อยๆ “ผมก็จะกลับห้องพักสิครับ ขอตัวนะครับ ไว้คุยกันพรุ่งนี้” ห้องพัก?! ตายแล้ว งั้นก็จะเจอกับฟ้าลดาในเวลาอันใกล้นี่น่ะสิ! แววตาเหลือก ตกใจหน้าซีดเป็นสีขาว รีบซอยเท้าวิ่งตามร่างของเอกกวีไปติดๆ “คุณเอกคะ คุณเอก...” “ครับ” เขาหยุดเดิน และหันมามอง “มีอะไรหรือครับ หรือว่าต้องการอะไร” “เอ่อ คือว่า...” “ครับ?” “คือ...” เขาไม่ใช่คนที่ใจเย็นและรอคอยอะไรได้นานสักเท่าไหร่ “ผมขอตัวนะครับ” และคราวนี้ไม่ว่าหล่อนจะร้องเรียกยังไง เอกกวีก็ไม่คิดจะหันกลับไปอีก “แย่แล้วคุณหนู...” แววได้แต่หน้าซีดเผือด และยืนนิ่งขาตายราวกับถูกมนต์ดำเล่นงาน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD