“อ๊ะ...ให้ตายเป็นเขา” ธัญชนกก้มมองหน้านิตยสารอีกครั้ง ทวนชื่อเขาในใจกระทั่งเผลอเปล่งเสียงออกมาแผ่วเบาราวคนละเมอ “เซบาสเตียน ฟรานเซสโช เดล ซีโมเน” ชื่อยาวเป็นบ้า แต่ธัญชนกกลับจำได้แม่น และคงไม่มีวันลืม ผู้ชายชวนฝันนัยน์ตาสีทองอล่ามคนนี้ได้ง่ายๆ “พ่อพันธุ์ชั้นดีชัดๆ” อ๊าย คิดอะไรอยู่นี่ ธัญชนกต่อว่าตัวเองดันคิดพิเลนกับผู้ชายที่ตัวเองไม่รู้จักแม้แต่ตัวตนของเขา เพียงอ่านประวัติย่อจากบทสัมภาษณ์เท่านั้นเอง
มากกว่าเห็นว่าเขาหล่อ ในสมองหญิงสาวกำลังวาดหวังบางอย่างขึ้นในใจ เวลาที่เธอกำลังประวิงเวลากับบิดา อาจจะพอเจรจากับเขาได้ หากเขายอมร่วมมือถ้าไม่ยอมเธอก็คงกลายเป็นคนสติเสียในสายตาเขา รอวันเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลศรีธัญญาเท่านั้นเอง ไม่ได้การเธอต้องการจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาหายไปจากสายตา
นั่นเขากำลังจะไปแล้ว เธอไม่ควรนั่งรอให้อะไรต่อมิอะไรหายไปกับตาโดยไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรเช่นนี้ ธัญชนกเตือนตัวเองให้รีบขยับกาย เพื่อให้ทันการก้าวเดินแบบช่วงการก้าวยาวๆ ห่างกับเธอตั้งหลายช่วงตัวเช่นนี้ คิดสิคิดหญิงสาวสั่งสมองตัวเอง บางทีสมองนี้ดันฉลาดบางทีไม่ต่างอะไรกับเด็กสามขวบคิดอะไรไม่ทันการ
มือบางวางนิตยสารลงบนโต๊ะ นิตยสารอุ้มสม ทั้งที่จริงๆมันชื่อ เอ็มแมกกาซีน ทว่าเธอแอบตั้งชื่อให้เหมาะกับความคิดของเธอในขณะนี้ เพราะมันทำให้เธอเจอกับชายในฝัน เท้าเรียวพยายามเดินกึ่งวิ่งก้าวตามร่างสูงไปติดๆ โดยทำทีหันรีหันขวาง ประมาณไม่รู้ทาง เพื่อให้เขาสนใจ ทว่าเขากลับเมิน มุ่งตรงไปยังจุดหมายของตัวเองเท่านั้น เธอไม่สะดุดตาเขาบ้างเลยหรือ
เซบาสเตียน เห็นแมลงหวี่ตัวน้อยกำลังบินวนเวียนตามเขามา ทว่าเขาทำทีไม่สนใจ เมินไปทางอื่น หากแต่กลับสะดุดตากับความน่ารัก เอ๋อนิดๆของหญิงสาว เธอน่ารักดีไม่หยอก แม้ไม่ได้สนใจตรงๆ ด้วยนิสัยช่างสังเกต สายตาว่องไว สนใจจ้องมองสิ่งใดแล้วไม่พลาด การมาเยือนเมืองไทยคราวนี้จุดประสงค์เพื่อสะสางปัญหาที่ผู้ดูแลธุรกิจในเมืองไทยปล่อยให้มันพลาด สำหรับเขาถือเป็นเรื่องใหญ่ หลังจากจัดการปัญหาคนคิดคดเสร็จ เซบาสเตียน จึงเดินทางเพื่อมาเข้าพักยังโรงแรมที่เคยพักประจำเวลาเดินทางมายังเมืองไทย แล้วเขาเหมาทั้งชั้นไว้ ห้ามผู้ใดรบกวนเวลาพักผ่อนของเขา ฉะนั้นการเหมาทั้งชั้นของโรงแรมห้าดาว จึงเป็นสิ่งที่เขาได้สั่งเลขาไว้ก่อนเดินทางมาที่นี่
มือบางคว้าแก้วน้ำติดมือไปเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง บทจะคิดว่องไว หาใครเปรียบแม่จอมซุกซน พอดีสายตาหวานซ่อนแผนการร้าย เหลือบเห็นแก้วน้ำที่แขกคนอื่นดื่มทิ้งไว้ ดื่มพร่องลงไม่ถึงครึ่งแก้วเสียด้วยซ้ำปลายเท้าก้าวเร็วรี่ กระทั่งร่างบางเดินไปดักหน้าสามชายหนุ่ม หญิงสาวตีสีหน้าเนียน ราวกับไร้จุดหมายในการเดินเหินในโรงแรมชื่อดัง แต่แล้วปลายเท้าเรียวสะดุดกับขาของตัวเองเกิดเสียหลัก เซถลาไปข้างหน้าร่างบางกระแทกกับร่างสูงใหญ่สมส่วน ชวนให้เข้าไปสี พร้อมกับน้ำในแก้วราดรดลงบนอกชายหนุ่มทั้งแก้วจดหมดไม่เหลือสักหยด
“นี่...” เซบาสเตียน อุทานออกมาได้แค่นั้น สายตาจ้องมองแม่สาวร่างเล็ก ในอ้อมอกราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ทั้งหน้าทั้งเนื้อตัวเขาเปียกปอนเพราะน้ำแก้วทรงสูงแก้วเดียว ซึ่งยังอยู่ในมือแม่ตัวเล็กหน้าหวาน
“อุ้ย...ขอโทษค่ะ” เธอได้ยินเขาสบถออกมาเป็นภาษาที่ไม่เข้า แต่เธอกล่าวขอโทษเขาด้วยภาษาสากลที่เข้าใจทั่วกันทั้งโลก มือบางปัดใบหน้าหล่อเหลา รวมทั้งเสื้อผ้าที่เปียก ทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจ ทั้งที่ทั้งหมดตั้งใจมาก
“พอๆ แม่คุณเช็ดแบบนั้นมันไม่ทำให้เสื้อผมแห้งหรือไง” เขาแหวเสียงเข้ม จ้องมองแม่จอมซนที่เดินวนเวียนเป็นแมลงวี่ผ่านหน้าเขาไป
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ได้ตั้งใจ คือฉันอยากไถ่โทษที่ทำให้คุณเปียกแบบนี้” มือบางล้วงหาผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กในกระเป๋าสะพาย ผ้าเช็ดหน้าสีชมพูหวาน ปักชื่อเต็มทั้งนามสกุลเป็นภาษาไทย ด้ายสีส้มตรงมุมล่างขวา จัดการเช็ดให้เขา ส่วนชายหนุ่มปัดมือบางอย่างหัวเสีย เกิดมาไม่เคยเจอเรื่องบ้าๆ แม่ตัวเล็กซุ่มซ่ามนี้เป็นใคร ช่างไม่รู้จักกาลเทศะเอาซะเลย
สองบอดี้การ์ดกันหญิงสาวออกห่างตัวเจ้านาย ราวกับเธอคือตัวอันตรายอย่างหนักกับผู้ชายตัวโต ทั้งมาซาเจโล และซานโดรไม่ไว้ใจใครหน้าไหนทั้งนั้น พวกเขามีหน้าที่อารักษ์ขาให้ความปลอดภัยกับเจ้านาย ไม่ว่าหญิงหรือชายที่บังอาจก้าวร้าวต่อเจ้านายต้องโดนกำจัดไปเช่นกัน ทว่าพวกเขาคงจะทำรุนแรงเกินไป
ร่างบางถึงกับเซถอยหลังเกือบก้นกระแทกพื้น เซบาสเตียน เห็นดังนั้น จำต้องห้ามสองบอดี้การ์ด เดี๋ยวอาจทำการเกินกว่าเหตุ เพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่สะดุดตาเขาตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างเท้าเข้ามาในโรงแรมหรู ไม่คิดว่าเธอจะเป็นพวกเด็กกะโปโล เดินซุ่มซ่ามน่ารำคาญ แม้จะอารมณ์เสียแต่เขาไม่เคยกระทำรุนแรงต่อสตรี และคนชรา ยกเว้นพวกนอกรีดที่คิดทรยศเขาเท่านั้น หญิงสาวมองหน้าสองร่างยักษ์ ที่ทำหน้าที่บอดี้การ์ดตัวฉกาจ
พวกนี้ทำกับผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารัก เช่นเธออย่างนี้ได้อย่างไร ไม่ไว้หน้ากันซะบ้าง เพียงแค่เธอมีจุดประสงค์บางอย่างเท่านั้น ชายผู้นี้ทำตัวน่าสนใจทำไมล่ะช่วยไม่ได้ เธอจนตรอกแล้วนี่ หญิงสาวท่องชื่อเขาไว้ในใจ แต่จะไม่ปล่อยไก่เหมือนรู้จักเขามาก่อนเป็นอันขาด
“ขอผ้าเช็ดหน้า” จู่ๆ หนุ่มหล่อร่างสูงทรงเสน่ห์ เอ่ยเสียงทุ้มขอผ้าเช็ดหน้าจากมือบาง ใบหน้าและแววตาหญิงสาวเหลอหลา ทว่ายังพอมีสติส่งผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กสีหวานให้กับเขา แต่แทนที่เขาจะนำไปเช็ดหน้าและเสื้อสูทที่เปียกปอนกลับยัดใส่ในกระเป๋าด้านในเสื้อสูทเสียอย่างนั้น
“คุณตามผมมานี่ อยู่ตรงนี้รังแต่จะเป็นเป้าสายตาคนอื่นผมไม่อยากดังมาก” เพราะทุกวันนี้ดังจนหาที่ยืนสงบไม่ได้อยู่แล้ว เขาสั่งหญิงสาวหน้าเนียนบางเบาแต่งแต้มน่ารัก พร้อมกระชากหัวใจราชสีห์ง่ายดาย ตั้งแต่เขาเห็นใบหน้าหวานเกินคำบรรยาย แต่เมื่อเธอทำให้เขาต้องเปียกมะรอกไม่ต่างกับสิงโตโดนน้ำลายหนูน้อย เธอควรรับผิดชอบบ้าง
“เจ้านายครับ” มาซาเจโลขยับปากเพื่อเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยการมาต่างที่ ไม่มีอะไรรับรองความปลอดภัยได้ทั้งสิ้น ต่อให้เป็นเพศแม่ไม่ควรไว้ใจ
“นายกลัวผู้หญิงตัวเล็กๆเท่าลูกหนูจะทำร้ายฉันอย่างนั้นหรือมาซาจ” ราชสีห์เอ่ยถามลูกน้องเสียงทุ้ม ปรายสายตาไปทางแม่ตัวเล็กเท่าลูกหนู มาซาเจโล บอดี้การ์ดผู้ระแวงทุกสิ่งรอบกาย เพื่อระวังภัยให้เจ้านาย ทำไงได้เขามันทั้งมิตรและศัตรูพอๆกัน
“ตามผมมา” เขาสั่งเสียงดุเข้มอีกครั้ง คงจะเสียอารมณ์มากพอดู แหงล่ะ...ใครจะอารมณ์ดีอยู่ได้ จู่ๆโดนสาดน้ำเย็นๆทั้งแก้ว
ซานโดร ก้าวไปกดลิฟต์ รอไม่นานประตูลิฟต์เปิดออก
“จะไปไหนคะ ฉันขอโทษคุณแล้วไง เราควรจบกันตรงนี้นี่คะ เรื่องเล็กๆน้อยๆเอง” ทั้งที่ตั้งใจทำให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแบบนี้ ทว่าแววตา ท่าทีผู้ชายสามคน ช่างน่ากลัวน่าเกรงขามต่อชีวิตหญิงสาวตัวเล็กๆเสียเหลือเกิน เธอต้องสร้างสถานการณ์ให้เหมือนทุกอย่างเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือแค่การซุ่มซ่ามของเธอเอง
“คุณรู้ไหมสูทชุดนี้ราคาเท่าไหร่ อย่างน้อยคุณควรจ่ายค่าซักแห้งให้กับผมไม่ใช่แค่คำขอโทษ” เขาต้องการมากกว่าคำขอโทษ ในแบบของเขาซะที่ดันไปหลงเสน่ห์คนหน้าหวานอย่างช่วยไม่ได้ ดวงตาสีทองอล่ามกดลึกคิดแผนซดแม่ตัวเล็กไว้ในใจ
“งั้นคุณก็ถอดมาให้ฉันสิ ฉันจะส่งไปที่ร้านซักแห้งให้เขาจัดการเดี๋ยวนี้” มือบางยื่นไปตรงหน้าชายหนุ่ม สีหน้าไม่สู้ดีนัก เกิดกลัวขึ้นมาล่ะสิ
“ไม่ง่ายหรอกตัวเล็ก” ไม่เพียงไม่ทำตามคำขอจากปากเย้ายวนชวนลิ้มลอง เขายังกระตุกยิ้มดั่งราชสีห์จ้องตระคลุบเหยื่ออีกด้วย