บนโต๊ะอาหารในตอนนี้มีคนร่วมรับประทานอาหารด้วยกันหลายคน มีทั้งคุณพ่อคุณแม่แล้วก็น้ำเหนือสมาชิกใหม่ก็คือดิว ส่วนพี่สาวของเขาบินกลับไปอยู่ที่กรุงเทพแล้ว ถ้าอยู่ที่นี่เขาคงได้ถูกพี่รุมด่าอีกคนเป็นแน่ พอหลานกลับไปก็มีจอมยุ่งคนใหม่เข้ามาแทน
"ทานเยอะๆลูก ทำไมหนูตัวเล็กแบบนี้"
"ขอบคุณค่ะ"
ดิวยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะตักทานของอร่อยตรงหน้า เธอไม่ค่อยได้กินของดีๆแบบนี้หรอก วันๆกินแต่ผักกับเนื้อนิดหน่อยให้พออิ่มจากนั้นก็ทำงานสารพัดใช้แรงไปเยอะมันก็เลยตัวเท่านี้แหละ
"กินเสร็จก็ไปพักผ่อนนะลูก อยากกินผลไม้อะไรสั่งแม่บ้านได้เลยนะจ้ะ ไร่ของเรามีแทบทุกอย่าง"
"ไม่รบกวนหรอกค่ะคุณแม่ หนูไม่กินเยอะขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่นี้ก็ใจดีกับหนูมากแล้ว"
"โธ่เอ้ย...ว่าแต่ครอบครัวหนูรู้รึเปล่าว่ามาอยู่ที่นี่ ให้แม่ไปคุยให้มั้ย"
เธอเกรงว่าถ้าครอบครัวของเด็กสาวรู้อาจจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต ลูกใครใครก็รักทั้งนั้นอย่างน้อยถ้าทางผู้ชายแสดงความรับผิดชอบทางนั้นจะได้สบายใจ ดิวมองหน้าทุกคนก่อนจะทำหน้าสลดลงเล็กน้อย
"พวกเค้าไม่สนใจหรอกค่ะ"
"ทำไมล่ะลูก"
ดิวฝืนยิ้มออกมาก่อนยกน้ำขึ้นดื่ม กินไปไม่เยอะเธอก็อิ่มแล้วให้ทานมากกว่านี้เกรงจะฝืนตัวเองเอาได้
"พ่อกับแม่แยกทางกันหลายปีแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ต่างมีครอบครัวใหม่แล้ว"
"โธ่เอ้ย... ไม่เป็นอะไรนะหนูอยู่ที่นี่ก็มีครอบครัวของตัวเองไง ว่าแต่อิ่มแล้วเหรอ"
"ค่ะ อิ่มแล้วค่ะ"
ดิวยิ้มออกมาอย่างสบายใจ ทำไมครอบครัวของเธอถึงไม่ดีซักครึ่งหนึ่งของครอบครัวนี้ ถ้าพวกเขาเอาใจใส่เธอบ้างไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบคงดีมากกว่านี้ เธอคงไม่เหมือนเด็กเร่ร่อนทำงานหามรุ่งหามค่ำส่งเสียตัวเองเรียนตั้งแต่ม.6
"น้ำเหนืออิ่มยังลูกพาน้องไปนอนพักเถอะ"
"ครับแม่ ผมอิ่มแล้ว ไปสิจะพากลับห้อง"
เขาดึงหญิงสาวให้ลุกขึ้นก่อนจะพากลับมายังห้องนอนของตัวเอง ที่บ้านไร่นี้ห้องนอนของครอบครัวจะไม่ติดกัน พ่อกับแม่จะอยู่ขวา เขาอยู่ซ้ายและของพี่สาวจะอยู่ตรงกลางค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวมาก
"เป็นอะไรผิงทำหน้าเศร้าทำไม"
พ่อเลี้ยงคาวีเอ่ยถามภรรยาอย่างเป็นห่วง เธอเงยหน้ามองสามีก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
"เห็นหนูดิวแล้วนึกถึงตัวเองตอนเด็กค่ะ แต่ของผิงดีกว่าตรงที่มีป้าพาคอยดูแล แม่ก็ยังถามไถ่ถึงแม้จะมีครอบครัวใหม่แล้ว แต่เด็กคนนี้ภายในใจคงเศร้ามากแต่แค่ไม่พูดออกมา ครอบครัวไม่เอาใจใส่น่าสงสารค่ะ"
"คงจะส่งเงินให้อยู่มั่งไม่งั้นหนูดิวจะเอาเงินจากไหนไปเรียนล่ะ"
"นั้นสิคะ พรุ่งนี้จะลองถามอีกที"
ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ เธอรู้สึกว่าชีวิตเด็กคนนี้น่าสงสาร และการที่มาที่นี่คงเพราะไม่รู้จะไปที่ไหนมากกว่า พ่อกับแม่หย่าร้างต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวใหม่ แล้วคนเป็นลูกอย่างหนูดิวคงไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนมันคงโดดเดี่ยวไปหมด น่าสงสารจริงๆ
เมื่อมาถึงที่ห้องดิวก็นั่งลงบนเตียงกอดหมอนแน่นไม่ยอมปล่อยเพราะกลัวว่าน้ำเหนือจะคิดปล้ำเธออีก
"กลัวอะไรขนาดนั้น"
เขายิ้มขำก่อนจะถือผ้าเช็ดตัวมาถือไว้ เขาเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวเธอสะดุ้งก่อนจะผงะถอยหลัง ชายหนุ่มกลั้นขำก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปทันที หญิงสาวมองตามก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"เฮ้อ! นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว"
เธอรีบจัดที่นอนก่อนจะเดินไปปิดไฟแล้วนอนหลับทันที ต้องแกล้งนอนหลับเขาจะได้ไม่ยุ่งกับเธอในคืนนี้ เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีน้ำเหนือเดินออกมาพร้อมกับใส่ชุดนอนเรียบร้อย เขามองไปยังเตียงนอนที่ตอนนี้มีดิวนอนหลับกอดหมอนข้างอยู่ เขาเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะก้มมองเธออย่างจับผิด
"หลับจริงเหรอ..."
เสียงลมหายใจสม่ำเสมอนั้นทำให้เขาไม่สงสัยอะไรอีก เขาเดินไปนอนลงอีกฝั่งก่อนจะหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า วันนี้มีแต่เรื่องปวดหัวขอนอนพักเอาแรงก่อนแล้วกัน ซักพักดิวค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะยิ้มออกมาอย่างสบายใจ แผนนี้ได้ผลเขาไม่สงสัยอะไรเลยด้วย
'ค่อยสบายใจหน่อย'
เช้าวันต่อมา...
"อ๊ะๆ ไอ้พี่น้ำเหนือ ไอ้คนบ้ากาม!"
เธอร้องครางออกมาก่อนจะปล่อยให้เขาขยับความเป็นชายอยู่บนตัวเธอ ตอนแรกนึกว่าผีอำพอรู้สึกตัวอีกทีโดนลักหลับซะอย่างนั้น
"เมื่อคืนแกล้งหลับคิดว่าพี่ไม่รู้เหรอ แล้วคิดว่าเช้ามาจะรอดสินะ หึ"
เขาดึงหญิงสาวเข้ามาใกล้ก่อนจะขยับสะโพกเต็มแรงเมื่อใกล้จะแตะขอบสวรรค์ หญิงสาวกัดริมฝีปากตัวเองแน่นก่อนจะหลับตาลงแล้วปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเองจนเสร็จสมไปพร้อมกัน เขาปล่อยน้ำเข้าไปในตัวของหญิงสาวจนหมดก่อนจะถอดแก่นกายออกแล้วดึงเธอให้ลุกขึ้น
"ไปอาบน้ำได้แล้ว อย่าลืมกินยาคุมด้วยถ้ายังคิดจะอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าไม่กินก็อุ้มท้องในวัยเรียนแล้วกันเตือนแล้วนะ"
เขายิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ปิดประตู ดิวมองตามเขาก่อนจะปาหมอนตามหลังอย่างหมั่นไส้
"คนบ้ากาม! คนหื่น!"
"เข้ามาสิ"
"ไม่เอา! ดิวไม่อาบกับพี่หรอก"
หญิงสาวตะโกนไล่หลังก่อนจะยืนกอดอกอยู่ข้างเตียง เธอรอให้ชายหนุ่มชำระล้างตัวเองจนเสร็จก่อนจะวิ่งเข้าไปพร้อมกับล็อคประตูอย่างรวดเร็ว
น้ำเหนือส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะเปลี่ยนชุดแล้วเดินออกไปข้างนอกเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ตรงระเบียง
"ตื่นแต่เช้าเลยลูก หิวหรือยัง"
คุณแม่ของเขาเดินออกมาเจอลูกชายก็เอ่ยถามทันที เขาพยักหน้าก่อนจะลูบท้องตัวเองป้อยๆ
"หิวมากเลยครับ มีอะไรกินบ้าง"
"ข้าวต้มกุ้ง แล้วก็เมนูข้าวสองสามอย่าง แล้วน้องล่ะทำไมไม่พาออกมาด้วย"
"อาบน้ำครับเดี๋ยวคงมา"
"อ่อ จ้ะ"
คุณแม่ยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปดูแม่บ้านจัดโต๊ะอาหาร ดิวที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาในชุดนักศึกษาแถมกระเป๋าใบใหญ่ข้างในมีชุดเปลี่ยนเอาไว้ทำงานต่อ
"หนูดิวมาทานข้าวลูก"
หญิงสาวเดินไปหาคุณแม่ก่อนจะส่ายหน้าทันที นี่มันก็สายมากแล้วเธอจะต้องไปหารถสองแถวเดินทางเข้าไปในตัวเมืองอีก กว่าจะถึงคงใช้เวลาเป็นชั่วโมงเกือบสองชั่วโมงได้ ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่ตัดสินใจมาอยู่ที่นี่
"ไม่เป็นอะไรค่ะเดี๋ยวไปซื้อหมูปิ้งที่มหาวิทยาลัยเอาก็ได้ ต้องออกไปหน้าไร่หารถสองแถวก่อนค่ะไม่รู้ว่าจะมีรึเปล่า เดี๋ยวไปเรียนไม่ทันหนูจะถูกอาจารย์ดุอีก"
เธอยกมือไหว้บอกลาทั้งคุณแม่แล้วก็คุณพ่อของน้ำเหนือที่เพิ่งเดินออกมาจากห้อง ไม่รู้ว่าจะเลิกงานอีกกี่โมงเกรงว่าท่านจะเป็นห่วงต้องแจ้งไว้ก่อน
"อ่อ กลับจากเรียนหนูต้องไปทำงานพิเศษต่อค่ะ อาจจะกลับมาดึกแต่ว่าถ้าไม่มีรถมายังไงหนูไปค้างที่หอพักนะคะ"
คุณแม่หันไปมองหน้าลูกชายกับสามีอย่างขอความเห็น พ่อเลี้ยงคาวีเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะเอ่ยถามเด็กสาวเสียงอ่อนโยน
"ทำไมหนูต้องทำงานพิเศษลูก พ่อกับแม่ไม่ได้ให้เงินเหรอ"
ดิวมองหน้าคุณพ่อก่อนจะส่ายหน้าทันที
"พวกเขาไม่ส่งหนูเรียนตั้งแต่ม.6แล้วค่ะ หนูทำงานร้านกาแฟเพื่อส่งตัวเองเรียนได้สองสามปีแล้วค่ะ รับงานพิเศษกลางคืนด้วยก็เลยเงินพอใช้ค่ะ งั้นหนูไปก่อนนะคะสายแล้ว"
ดิวยกมือไหว้ทั้งสองคนก่อนจะรีบเดินออกไปทันที คุณแม่ดึงมือหญิงสาวไว้ก่อนจะเอ่ยออกมา
"ไม่ต้องทำแล้วลูกงานพิเศษ ถ้าหนูอยากหาเงินวันว่างมาช่วยแม่ที่คาเฟ่ก็ได้ ลูกค้าเยอะจะตายเดี๋ยวแม่จ่ายเงินเดือนให้หนูเอง แต่จริงๆมันควรเป็นความรับผิดชอบของผู้ชาย จะปล่อยเมียไปทำงานงกๆแบบนี้เหรอ จริงมั้ย"
ดิวเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะหันไปมองคุณแม่แล้วส่ายหน้าปฎิเสธทันที
"หนูไม่รบกวนหรอกค่ะ แค่นี้ไม่เหนื่อยเลยซักนิดหนูชินแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นช่วงจันทร์ถึงศุกร์หนูจะนอนค้างที่หอพักแล้วกันนะคะ จะได้ไม่ลำบากเดินทางไปมาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงกันด้วย"
"ที่ไร่เรามีคนขับรถ ให้พวกเขาไปรับไปส่งไม่ต้องนั่งรถสองแถวให้เมื่อยหรอกลูก"
คุณแม่หันไปมองลูกชายเป็นเชิงถามว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ ตอนเธอเรียนอยู่พ่อเลี้ยงคาวีรับผิดชอบค่าเลี้ยงดูเธอทุกอย่าง งานไม่ต้องทำให้เงินเดือนใช้รับผิดชอบค่าเทอมค่าเล่าเรียนแทบทุกอย่าง ของใช้ส่วนตัวเต็มห้อง แถมมีคนขับรถให้อีกต่างหาก ถ้าเธอจะปล่อยเด็กให้เดินทางแบบนี้แถมยังทำงานหามรุ่งหามค่ำเกรงว่าจะไม่ดีเอามากๆเพราะตอนนี้หนูดิวอยู่ในความดูแลของลูกชายเธอ
"อย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยนะคะคุณแม่ ถ้าการที่หนูมาอยู่ที่นี่แล้วทำให้ทุกคนวุ่นวายไปหมด งั้นดิวขอกลับไปอยู่ที่เดิมดีกว่าค่ะ"
ตอนแรกเธอแค่อยากให้เขารับผิดชอบและการมีชายหนุ่มอยู่จะได้ไม่ถูกคุกคามจากคนอื่น แต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังทำให้ทุกคนที่นี่ลำบากใจมาก
"เดี๋ยวไปส่งมากินข้าวก่อน"
น้ำเหนือตัดปัญหาลากหญิงสาวไปนั่งลงที่โต๊ะทานข้าว ดิวมองเขาอย่างไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ไม่อยากขัดอะไรในตอนนี้
"วันนี้พี่น้ำเหนือจะไปส่งดิวเหรอคะ"
"อืม กินข้าวก่อนสิเดี๋ยวไปส่งเอง"
เธอกระพริบตาปริบๆมองเขาอย่างระแวง หรือว่าเขาจะมีแผนอะไรแกล้งเธออีกรึเปล่า แต่คงไม่มั่งเอ๊ะ!หรือว่าจะมี เพราะเขาคงไม่อยากให้เธออยู่เท่าไหร่คงกำลังหาทางกำจัดอยู่แน่ๆ ยิ่งเธอบอกว่าจะกลับไปอยู่ที่เดิมอาจจะดีใจจนเนื้อเต้นก็ได้
"กินข้าวต้มกุ้งมั้ยหนูดิว หรือข้าวสวยลูก"
"ข้าวต้มนิดเดียวค่ะคุณแม่"
หญิงสาวเอ่ยออกมาเสียงหวาน ท่านตักให้เธอเยอะกว่านั้นเพราะตัวเล็กแบบนี้ควรบำรุงตัวเองบ้าง คงมัวทำงานหาเงินจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองล่ะสิ โธ่เอ้ยแม่คุณน่าสงสารจริงๆ
"กินเยอะๆเลยลูก นิดเดียวไม่ได้"
ดิวมองข้าวต้มในจานก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เต็มชามขนาดนี้จะหมดมั้ยเนี่ย
"รีบกินสิเดี๋ยวไปสายนะ"
น้ำเหนือนั่งลงข้างๆเธอก่อนจะสะกิดให้ทานข้าว หญิงสาวยิ้มออกมาก่อนจะตักทานทีละคำ อาหารที่นี่อร่อยมากจริงๆนะ มีแต่ของดีๆทั้งนั้นเลยด้วย
โชคดีของเธอที่ได้มาอยู่ที่นี่ แต่ว่าคงต้องกลับไปอยู่ที่เดิมแล้วเพราะการเดินทางไกลมากแถมยังไม่สะดวกในการทำงานอีก
'สงสัยคงต้องเลิกล้มความคิดจะจับคนรวยทำสามีแล้วล่ะมั่ง เฮ้อ!'