แทนไทย
ตอนนี้ผมอยู่ที่เชียงรายแล้วครับ ผมขับรถมาเอง และก็เลือกจะเปลี่ยนเป็นอีกคันที่ไม่ค่อยได้ใช้เพื่อจะได้สะดวก พอมาถึงตัวเมืองจังหวัด ผมก็โทรหาอัญญาทันทีเพื่อขอทางไปบ้านของเธอ
ใช่ ผมเลือกจะพักที่บ้านของเธอครับ ผมไม่อยากไปพักโรงแรมเท่าไหร่ ถึงแม้ตอนแรกผมวางแผนและกำลังหาโรงแรมจะพัก แต่พอคิดๆดูแล้ว ถ้าเกิดผมไปโรงแรมจริง มันต้องมีสักคนที่เห็นและจำผมได้ แล้วถ้าเป็นแบบนั้น ก็ต้องเกิดข่าวของผมว่าผมอยู่ที่ไหน ความเป็นส่วนตัวก็ลดน้อยลง แล้วยิ่งผมมาคนเดียว กับอัญญาที่เป็นไกด์ผู้หญิงแบบนี้ มันต้องเป็นประเด็นให้เกิดขึ้นได้ไม่ยากแน่นอน
(ฮัลโหลค่ะพี่แทน) เสียงปลายสายดังขึ้น
“ตอนนี้พี่ถึงตัวเมืองแล้วนะ อัญส่งแชร์โลเคชั่นมาให้พี่หน่อยสิ” ผมบอกเธอออกไปให้รู้
(ได้ค่ะ)
“อืม” แล้วผมก็วางสายไป ไม่นานเสียงไลน์ก็ดังขึ้น ผมจึงเปิดเข้าไปก่อนจะกดเข้าแผนที่นำทาง แล้วขับตามไปเรื่อยๆ
และใช้เวลาพอสมควร จากตัวเมืองมายังบ้านของเธอก็ถือว่าค่อนข้างไกลนิดหน่อย แต่ก็ไม่ไกลมาก และการเดินทางก็สะดวกสบาย จนผมมาหยุดตามจุดสิ้นสุดที่แผนที่บอก ผมเลยต่อสายหาเธออีกครั้ง
“อัญ มันสิ้นสุดแล้ว บ้านอัญหลังไหนหรอ”
(รถพี่แทนใช่บีเอ็มสีดำไหมคะ) เสียงอัญญาถามขึ้น
“อ๋อใช่ครับ อัญเห็นพี่แล้วหรอ” พอเธอถามขึ้นแบบนั้น ผมก็หันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาเผื่อเธอจะยืนอยู่แถวนี้
(พี่อยู่หน้าบ้านอัญแล้วค่ะ เดี๋ยวอัญเปิดประตูให้ แล้วขับเข้ามาได้เลยนะคะ) อัญญาพูดขึ้น และเงียบไป แต่ไม่นาน ประตูไฟฟ้าของบ้านที่ผมจอดแอบอยู่ก็เลื่อนออกทันที
(เข้ามาเลยค่ะ หลังที่ประตูเปิดอยู่นี่แหละ) แล้วเสียงของอัญญาก็ดังขึ้นอีก ผมเลยเลือกจะเข้าเกียร์แล้วขับรถเข้าไปในตัวบ้านของเธอทันที เอาจริงๆรั้วบ้านก็ไม่ได้โปร่งขนาดนั้น คนข้างนอกมองเข้ามาด้านในก็เห็นเพียงด้านบนของตัวบ้านนิดหน่อย ไม่คิดว่าคนในบ้านจะมองเห็นด้านนอก
ผมถอยรถเข้าจอดในที่จอดรถที่มีรถอีกคันจอดอยู่ ก่อนจะเอากระเป๋าและของฝากที่ผมซื้อมาฝากอัญญาเพื่อเตรียมลงจากรถ แต่พอหันกลับมาอีกที สายตาผมก็ต้องสะดุดกับร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินลงมาจากบ้านด้วยชุดอยู่บ้านสบายๆ แต่กลับดูไม่ธรรมดาอย่างคนอื่นๆใส่
ผมไม่คิดว่าผู้หญิงที่ผมเห็นในรูปที่ว่าสวยแล้ว ตัวจริงเธอจะสวยกว่าในรูปจนคิดว่าคนหน้าคล้ายก็ยังได้ ผู้หญิงตัวเล็กที่สูงประมาณร้อยหกสิบนิดๆ ตัวเล็กๆ ผิวที่ขาวอมชมพูจนคิดว่าเธอไม่เคยโดนแดด ใบหน้ารูปไข่เล็กที่มีจมูกโด่งกำลังพอดี กับปากบางกระจับนั่น ผมยอมรับเลยว่าเธอสวยกว่าดารา นางเอกในละครเกือบครึ่งวงการเลยก็ไม่เว่อร์ไป
“พี่แทนคะ” เสียงเรียกพร้อมกับเคาะกระจกดังขึ้น ทำให้ผมดึงสติตัวเองออกจากภวังค์กลับคืนมาได้ แล้วเปิดประตูออกไปด้านนอกทันที
พอออกมามองเธอชัดๆแบบนี้ มันยิ่งให้ผมอึ้งกับความสวยของเธอ ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่โคตรสวยแบบนี้ ทำไมถึงรอดสายตาแมวมองมาได้ก็ไม่รู้ แล้วพอผมมายืนประจันหน้ากับเธอแบบนี้ เธอสูงเพียงอกของผมเท่านั้นเอง ทำให้เธอดูน่าทะนุถนอมไปมากอีกระดับเลย
“สวัสดีครับ” ผมทักทายเธอออกไปด้วยรอยยิ้มบางๆ
“สวัสดีค่ะ เข้าบ้านก่อนไหมคะ ข้างนอกแดดแรงไปหน่อย” เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้มพร้อมแก้มที่แดงระรื่ออย่างธรรมชาติ
“ครับ” ผมตอบกลับไป แล้วเดินตามเธอไปติดๆ พอเดินตามหลังแบบนี้แล้ว กลับได้กลิ่นอ่อนๆธรรมชาติจากตัวเธอลอยมาเตะจมูก ผมอดคิดไม่ได้ ว่าผู้หญิงคนนี้ดูธรรมชาติไปหมดทุกอย่าง และน่าหลงใหลกว่าผู้หญิงเมืองหลวงมากๆ
“ขอโทษนะคะที่อัญไม่ได้ออกไปรับด้วยตัวเอง เผื่อมันจะไม่เป็นส่วนตัวต่อพี่” เธอพูดขึ้นหลังจากเดินเข้ามาถึงในบ้าน ซึ่งผมก็เข้าใจ เพราะถ้าเกิดเธอออกไป แล้วมีใครมารู้มาเห็นเข้าทีนี้จะซวยทั้งผมทั้งเธอ
“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ” การที่เธอไม่ออกไปแบบนี้ก็ดีแล้ว มันเหมือนกับแค่เพื่อนหรือญาติมาหาเท่านั้น คนอื่นจะไม่ได้ต้องสนใจ
“พี่แทนนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวอัญไปเอาน้ำมาให้” เธอพูดจบก็เดินหนีไปอีกทางทันที ผมก็เลยนั่งพักจากความเมื่อยล้าพร้อมกับมองบ้านของเธอที่น่ารักและน่าอยู่มาก
ตอนที่คุยกันผมรู้มาว่าเธออยู่คนเดียว และบ้านนี้ก็เป็นบ้านของเธอ ที่ไม่ใช่บ้านพ่อแม่เธอเองด้วย ผมเลยเลือกจะมาที่นี่ และก็คิดไม่ผิดที่มา เพราะบรรยากาศที่นี่ดีมาก ดีจนไม่ต่างจากบ้านพักตากอากาศเลย
อัญญา
“น้ำค่ะ” ฉันวางน้ำให้พี่แทนไทยก่อนจะนั่งลงที่โซฟาอีกตัวอย่างไม่รู้จะทำตัวยังไง ตอนนี้ฉันยอมรับเลยว่าเขินมาก จนทำตัวไม่ถูก และฉันก็เผลอมองเขาบ่อยๆ ทั้งที่รู้ว่ามันเสียมารยาท แต่ก็อดไม่ได้ที่จะได้มอง แล้วบอกได้คำเดียว ว่าหล่อมากกก หล่อกว่าในทีวีอีก
“มีอะไรติดหน้าพี่หรือเปล่า” นั่นไง โดนจับได้จนได้
“ปล...เปล่าค่ะ ไม่มี” ฉันตอบกลับอย่างเก้อเขินที่เผลอทำตัวเปิ่นให้เขาจับได้ แต่จะให้ทำยังไงได้ ก็คนมันรักแต่กลับไม่เคยเจอตัวจริง พอได้มาเจอแบบนี้ก็อยากจะมองทั้งวันทั้งคืนเลย
ส่วนเรื่องที่พี่แทนไทยเลือกมาพักที่บ้านฉัน ก็ไม่มีอะไรมากก็เขาบอกว่าไปโรงแรมมันไม่สะดวกเท่าไหร่ กลัวว่าจะมีคนเห็น ฉันก็เลยพูดเล่นๆไปว่ามาพักบ้านฉันก่อนก็ได้ เขาก็ถามออกมาว่าได้หรอ พอฉันได้ยินก็ตอบกลับไปทันทีว่าได้ ทั้งที่ไม่ได้คิดว่าเขาจะมาพักที่นี่จริงๆ
เขาก็บอกว่าเกรงใจพ่อแม่และคนที่บ้านฉัน ฉันดันไปบอกเขาอีกว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านฉัน และฉันก็อยู่คนเดียว เท่านั้นแหละ พี่แทนไทยก็บอกว่าตกลง จะมาพักบ้านฉันเลย ซึ่งตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อเท่าไหร่ เพราะมันไม่สะดวกสบายเท่าไหร่ แต่พี่แทนไทยก็ยืนยันแล้วบอกเหตุผลที่ไม่อยากไปพักโรงแรมให้ฉันฟัง ซึ่งฉันก็เข้าใจเขามากๆ ก็เลยตกลงให้เขามาพักที่นี่นั่นเอง
“บ้านน่ารักดีนะ” แล้วอยู่ๆพี่แทนไทยพูดขึ้นหลังจากดื่มน้ำเสร็จ
“อาจจะเล็กและไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นะคะ” ฉันก็ยังกลัวว่าจะพาเขามาลำบากอยู่ดี เพราะบ้านฉันไม่ได้หลังใหญ่อะไร เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวสไตล์อิตาลี(ยกสูงประมาณบันไดห้าขั้น) มีแค่สามห้องนอนไม่ใหญ่มาก มีมุมรับแขก ห้องครัวและห้องทำงานของฉัน
คือสำหรับฉันมันใหญ่นะ เพราะว่าฉันอยู่คนเดียว แต่ที่มีสามห้องก็เผื่อไว้เวลามีเพื่อนหรือแขกมานี่แหละ แต่สำหรับพี่แทนไทยที่เขาเป็นศิลปินที่ดังมาก และครอบครัวของเขาที่ใครๆก็รู้ว่าเป็นนักธุรกิจ ฉันเลยคิดว่าบ้านฉันทั้งหลังมันคงจะเล็กกว่าห้องรับแขกเขาได้
“ไม่สะดวกอะไร มีทุกอย่างขนาดนี้” พี่แทนไทยพูดออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างไม่ได้ซีเรียสอะไร
“งั้นพี่แทนไปพักก่อนไหมคะ เดินทางมาเหนื่อยๆ” ฉันพูดขึ้นหลังจากคิดได้
“ไม่เป็นไร นั่งรถมาทั้งวัน เดี๋ยวเอากระเป๋าไปเก็บแล้วขอออกมาเดินยืดเส้นดีกว่า”
“แบบนั้นก็ได้ค่ะ งั้นห้องนี้เลยค่ะ” ฉันเดินนำพี่แทนไทยไปยังห้องรับแขกห้องหนึ่งที่ฉันได้เตรียมไว้ให้ แต่ก็พึ่งคิดได้
“เอ่อ พี่แทนสะดวกใช้ห้องน้ำข้างนอกไหมคะ ถ้าไม่สะดวกเดี๋ยวไปนอนห้องอัญแทนก็ได้ค่ะ” คือบ้านฉันเป็นสามห้องนอนสองห้องน้ำ คือห้องนอนฉันเป็นห้องใหญ่ มีห้องน้ำในตัว ส่วนอีกสองห้องก็ต้องออกมาใช้ห้องน้ำนอกห้อง
“ไม่เป็นไร ไม่ใช่ปัญหา ห้องน้ำอยู่หน้าห้องแค่นี้เอง” พี่แทนไทยพูดขึ้น เพราะว่าห้องที่เขานอนเป็นห้องมุมอยู่ติดกับห้องน้ำนั่นเอง
“ค่ะ ถ้ามีอะไรหรือต้องการอะไรบอกอัญนะคะ” ฉันยังคงพูดขึ้นด้วยความเกรงใจ
“คิดมาก” พี่แทนไทยพูดขึ้นพร้อมกับยกมือมายีผมฉันเบาๆก่อนจะเดินเข้าห้องไป นั่นทำให้ฉันยังคงยืนค้างอยู่กับสัมผัสอบอุ่นเมื่อกี้
ไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าฉันจะแดงแค่ไหน แล้วทำไมพี่แทนไทยต้องทำแบบนี้ด้วย ไม่รู้หรือไงว่าฉันฟิน! และเขินมาก!
“เป็นอะไร คิดอะไรอยู่” ไม่รู้ตัวเลยนะว่าฉันยืนเพ้อนานจนพี่แทนไทยออกมาจากห้องคืนแล้ว และเขาก็กำลังยืนมองฉันด้วยรอยยิ้มหล่อเหลาของเขาอยู่
“เปล่าสักหน่อยค่ะ...”
“พี่แทนหิวไหมคะ เดี๋ยวอัญทำอะไรให้ทาน” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เพราะไม่อยากให้เห็นว่าที่ฉันเป็นแบบนี้ เพราะกำลังเขินเขา และเขาก็ทำให้ฉันเพ้อได้ขนาดนี้
“หึ ทำอาหารเป็นด้วยหรอ” เค่นหัวเราะแบบนี้หมายความยังไง เหมือนกับไม่เชื่อที่ฉันพูดเลย แต่ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ
“ก็พอได้ค่ะ ก็อัญอยู่คนเดียวนี่คะ ก็ต้องทำเองทุกอย่าง แต่ถ้าเกิดพี่แทนไม่ไว้ใจ จะสั่งมาทานก็ได้นะคะเดี๋ยวอัญสั่งให้” อันนี้ไม่ได้ประชดนะ คือฉันก็ไม่ได้ทำอาหารเก่งอะไร แค่ทำได้เท่านั้น กลัวจะไม่ถูกปากเขา และกลัวทำเขาท้องเสียด้วยนั่นแหละ
“ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร คิดว่าพี่เป็นเพื่อนเธอคนหนึ่งก็ได้ ทำตัวสบายๆ” นั่นสินะ ทำไมกลายเป็นแขกต้องมาบอกเจ้าบ้าน แล้วทำไมกลายเป็นเจ้าบ้านที่เกร็งเองแบบนี้ล่ะ
“แฮร่ ก็มันห้ามกันไม่ได้นี่คะ” ใครจะไม่เกร็งไม่เขินบ้าง ได้อยู่กับคนที่เราปลื้ม แถมเรายังเคยสถาปณาให้เขาเป็นผัวมโนด้วย แต่ตอนนี้กลับได้พูดคุยใกล้ชิดยิ่งกว่าเพื่อนกันจริงๆ มันคงทำให้ใจนิ่งใจสงบไม่ได้ นอกจากใจบาปแล้วตอนนี้
“หึ ไปเถอะ อยากทำอะไรก็ทำมา พี่กินได้หมดแหละ” ทำไมน่ารักแบบนี้นะ นอกจากจะหล่อแล้วยังไม่เรื่องมากอีก
“งั้นพี่แทนไปนั่งดูทีวีหรือเดินเล่นรอก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าเสร็จแล้วเดี๋ยวอัญจะมาเรียก” พี่แทนไทยพยักหน้ารับรู้ ฉันจึงเดินเข้าไปที่ครัวเพื่อทำอาหารง่ายๆให้พี่แทนไทยทาน