สนามบินลอนดอน ฮีทโธรว
ร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองเรียบแสนสบายหากแต่สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายที่ยังไม่คุ้นชินกับอากาศที่ค่อนข้างเย็นกว่าเมืองร้อนที่เขาเพิ่งจากมาเป็นที่สะดุดตาของผู้คนนัก... นอกจากความหล่อเหลาและความสูงโปร่งเหมือนกับเป็นนายแบบนานาชาติกับบุคลิกเรียบนิ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจทำให้เขาโดดเด่นจนยากที่จะมองผ่านไปได้ง่ายๆ แล้วจำนวนชายหนุ่มที่แต่งกายด้วยสูทเนี้ยบหรูสีดำที่รายล้อมเขาอยู่ราวกับว่าราชองครักษ์กำลังวางกำลังคุ้มกันเจ้าชายรัชทายาททำให้ผู้คนต่างเพ่งสายตามองว่าเขาคือคนสำคัญที่จะต้องมองเผื่อว่าได้พอเอาไปพูดกับใครได้ว่าวันนี้เจอคนดังเข้าเสียแล้ว...
หากแต่ทุกสายตาที่มองเขาต่างก็ได้เพียงมองและชื่นชมในความโดดเด่นดูไม่ธรรมดาของเขา พวกผู้คนเหล่านั้นไม่มีทางรู้ได้ว่าเขาเป็นใคร... ยกเว้นผู้ติดตามทั้งห้าคนที่ไปรับตัวเขามาจากเมืองไทย และกลุ่มคนที่ยืนรอรับเขาอยู่บริเวณที่รอรับด้านนอกเท่านั้นที่รู้จักว่าเขาคือ...
เดือนธันวา สรวงสวัสดิ์ หรือ เควิน คลากสัน ซึ่งเป็นชื่อสากลของเขา...
ใบหน้าเรียบนิ่งของว่าที่ผู้บริหารหนุ่มคนต่อไปแห่งอาณาจักรคลากสันกรุป ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการโรงแรม ธนาคาร และกาสิโนขนาดใหญ่ ที่ขยายเชนไปทั่วโลกจนคนในวงการธุรกิจชั้นนำรู้จักเป็นอย่างดี กิจการทั้งหมดสร้างจากบรรพบุรุษของเควิน หลายรุ่นจนตกทอดมาสู่ คาร์ล คลากสัน ซึ่งเป็นตาแท้ๆ ของเควิน เอง แล้วมันกำลังจะตกทอดมาสู่มือเควินทั้งที่เขาไม่ได้เต็มใจยอมรับแต่เสือเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์อย่างคาร์ลได้ใช้เล่ห์กลบีบให้เควิน ยอมเขาจนได้...
เพราะการถูกบีบบังคับโดยที่ไม่เต็มใจแต่ก็ปฏิเสธสิ่งที่ถูกยัดเยียดมาไม่ได้สักอย่าง มันจึงทำให้เควินไม่ได้มีอารมณ์แจ่มใสนักเมื่อออกมาจากโถงสนามบินแล้วพบกับอากาศแจ่มใส แสงแดดสาดส่องเรียกความสดชื่นแบบที่อังกฤษไม่ได้มีได้ทุกวัน.. เพราะเขาถูกบังคับให้มา และคนที่บังคับเขาก็มารับเขาด้วยตัวเอง ราวกับว่าจะต้องการมาเยาะเย้ยที่ทำให้เขาต้องมายอมรับในสิ่งที่เขาไม่ต้องการได้สำเร็จ...
“สวัสดีไอ้หลานชาย หวังว่าที่นั่งชั้นหนึ่งและเที่ยวบินตรงที่ฉันจัดการให้จะทำให้แกสบายมาจนถึงลอนดอนนะ” คำทักทายของเสือเฒ่าอย่างผู้เป็นตาบอกชัดเจนว่าคาร์ลกำลังบอกเควินว่าการที่เขาได้ตั๋วโดยสารราคาแพงลิบและมีการเดินทางที่สุขสบายนั้นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการก้าวเข้ามาบริหารงานที่คลากสันกรุป...
ริมฝีปากบางเฉียบของเควินเหยียดยิ้ม... ดวงตาเขาวาวโรจน์เมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามายังกลุ่มของพวกเขาที่ยืนมองหน้ากันอย่างฟาดฟันอยู่...
“เอ่อ ยินดีต้อนรับค่ะ การเดินทางสะดวกสบายดีไหมคะ” หญิงสาวที่เพิ่งมาใหม่เอ่ยทักทายอย่างเก้อ ๆ แล้วก็ถอยๆ มายืนข้างๆ คาร์ล และรอสเลขาของตาเฒ่าคาร์ล เพราะเกร็งๆ กับสายตาเย็นชาของเควิน...
“ถามด้วยคำถามเดียวกันเชียวนะ สมกับที่รู้ใจกันดี”
เควินไม่ตอบ แต่เขาเลือกที่จะแขวะนาถลดากับตาของเขา...
คนสองคนนี้ ที่ร่วมมือกันทำลายชีวิตที่เขาต้องการ และบีบบังคับให้เขา ต้องเดินสู่ทางที่เขาไม่ได้เลือก...
สองคนนี้ ที่เควินจะไม่มีวันลืมจนชั่วชีวิต....
แววตาขลาดหวาดหวั่นของนาถลดามองที่เควิน ครั้งสุดท้ายที่หล่อนกับเขาพบกันหล่อนทำความผิดกับเขาไว้มาก และเขาก็คงไม่หายโกรธหล่อน แต่หล่อนทำเพราะว่าหล่อนจำเป็น หล่อนหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะเข้าใจหล่อน
หญิงสาวหลบสายตาไม่มองหน้า... และยอมเดินตามคาร์ล คลากสันที่เดินนำทุกคนไปสู่รถลิมูซีนที่รอต้อนรับเควินเพื่อเดินทางจากสนามบินไปสู่บ้านพักที่ถนน... ซึ่งเป็นย่านคนรวยของลอนดอนและเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์หรูหราของคาร์ล คลากสัน