แค่บังเอิญหรือโชคชะตา (100%)

1462 Words
“นั่งลง” ปากจิ้มลิ้มเม้มแน่น หันหน้าหนีไปทางอื่น เผยถึงความดื้อดึงที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีใสๆ ไร้เดียงสา ทำเอาคนมองนึกอยากกำราบปราพยศโดยไม่รู้ตัว “บอกให้นั่งลง” คนช่างสั่งเริ่มกดเสียงต่ำ “แต่ว่า…” “เป็นเด็กเป็นเล็กหัดว่าง่ายฟังคำผู้ใหญ่บ้าง” ชิ! คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก ตาแก่ช่างสั่งเอ๊ย! คนถูกหาว่าเด็กทำหน้าง้ำ ปากคว่ำ แต่สุดท้ายก็จำต้องลดก้นลงนั่งที่เดิม ด้วยทนสายตาออกคำสั่งแกมกดดันของอีกฝ่ายไม่ไหว จริงๆ เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยว หรือเข้าใกล้เขาเลยสักนิด เพราะแค่เห็นหน้าของอีกฝ่ายก็รู้สึกแสลงใจ และทำตัวแทบไม่ถูก เนื่องจากเขาทำให้เธอพลอยนึกถึงความฝันที่ทั้งพิลึกพิลั่นและน่ากระดากนั่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด บูรณิมาทำเมินเพื่อนร่วมโต๊ะหน้าตาย แล้วหันไปสนใจขนมที่วางกองอยู่ตรงหน้า ไม่นานความน่ากินและกลิ่นหอมยั่วๆ ของเบเกอรี่ที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ ก็ทำให้ลืมตัวนึกว่านั่งอยู่คนเดียว “หูยยยย…บลูเบอร์รีครัมเบิ้ลมัฟฟินก็น่ากิน ไดฟูกุสตรอว์เบอร์รีก็น่าอร่อย” เสียงใสเอ่ยพลางจับกล่องขนมยกขึ้น ก่อนจะหันไปมองกล่องที่เหลือ “ผักโขมอบชีสก็น่าหม่ำๆ โอยยยย…คุกกี้นมข้นหวานก็หอมยั่วน้ำลาย แล้วไหนจะยังชูครีมอีกล่ะ” พูดไม่พอยังยกกล่องขนมขึ้นจรดจมูกด้วยท่าทางคลั่งไคล้อีกต่างหาก ก่อนที่จะเผลอปรายตาไปทางคนที่นั่งร่วมโต๊ะ แล้วพลันชะงัก เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังกอดอกมองเธอนิ่งๆ ทำเอาคนที่ถูกแอบมองด้วยนัยน์ตาไหวระริกหน้าร้อนวาบ เม้มปากน้อยๆ ทำแก้มพอง ก่อนจะเก็บขนมกลับลงไปในถุง “พอไหม?” อยู่ๆ เสียงห้าวทุ้มก็โพล่งขึ้น ทำเอาเธอเลิกคิ้วทำหน้างง “…” “ขนมน่ะพอไหม” นี่เขาประชดเธอหรือเปล่า “ถ้าไม่พอ หรือว่ากินไม่อิ่ม เอาในนี้ไปเพิ่มได้นะ” คนเดาอารมณ์ยากว่าพลางบุ้ยปากไปยังถุงขนมที่วางอยู่บนเก้าอี้ตัวข้างๆ “ไม่เอาค่ะ” สาวน้อยเอ่ยตอบหน้าเชิดๆ ส่วนเขาก็ทำเพียงไหวไหล่ แล้วหันไปสนใจหน้าจอไอแพดในมือ บูรณิมากอดอกมองไปอีกทาง แต่สักพักก็ทนไม่ไหว ตัดใจไม่ขาด ก้มลงมองขนมตาละห้อย เพราะกลิ่นหอมยั่วใจชวนน้ำลายสอของมันทำให้จิตใจเธอว้าวุ่น “ฮืออออ…เสียดายจัง น่าจะซื้อดาร์กช็อกบราวนี่มาด้วย” เสียงอ่อยๆ พึมพำกับตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าคนที่ทำตัวเหมือนไม่สนโลก ไม่แยแส และไม่แคร์ผู้ใด จะดันหูดีได้ยินซะงั้น เพราะหลังจากเธอเอ่ยขาดคำเสียงห้าวทุ้มก็แว่วขึ้นอีกครา “ในถุงนี่ก็มี แบ่งไปสิ” “ไม่เอาค่ะ ขอบคุณค่ะ” บูรณิมาปฏิเสธไปตามมารยาท ก่อนจะก้มลงควานหามือถือในกระเป๋าผ้าสุดเก๋ เพราะเบื่อคนที่ผีเข้าผีออก เดี๋ยวหน้ายักษ์ เดี๋ยวส่งสายตาดุๆ มาให้ แต่สุดท้ายดันเอาของกินมาล่อซะงั้น ฮึ! เอาของกินมาล่อ? เธอไม่ใช่เด็กซะหน่อย ถึงจะเลิฟการกินแบบเป็นชีวิตจิตใจ เธอก็ไม่ยอมรับของกินจากใครง่ายๆ หรอก โดยเฉพาะอีตาลุงหน้ายักษ์ที่มีอาการไวทองสองอารมณ์แปรปรวนประหนึ่งพายุเช่นเขา “เด็กดื้อ…” น้ำคำเชิงตำหนิลอยๆ และเสียงดุๆ ทำให้สาวน้อยแก้มป่องหันขวับไปขึงตาใส่เขาเร็วๆ อย่างใจกล้า ก่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทาง จากนั้นก็ต่างฝ่ายต่างเงียบ “หมูนุ่ม!” เสียงเรียกทำให้คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเช็กยอดวิวและคอมเม้นท์นิยายตอนล่าสุดในมือถือช้อนดวงตากลมโตขึ้น ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง เมื่อเห็นว่าเป็นรุ่นพี่ที่สนิทสนมกัน ซึ่งชอบเรียกเธอว่าหมูนุ่ม “เฮียยยยย…ค้าาา” ทันทีที่หนุ่มตี๋ร่างผอมสูงมาหยุดลงข้างๆ เขาก็เอ่ยถามไถ่ด้วยท่าทางเป็นกันเอง “มารอพบพี่มะเดี่ยวเหรอ” “ค่า” “เก่งไม่เบานี่เรา ได้ทำโปรเจกต์ใหญ่ซะด้วย” “ของมันแน่อยู่แล้ว บี๋ซะอย่าง” ได้ทีคนถูกชมก็เชิดหน้าโอ่ยกใหญ่ ท่าทางชวนเอ็นดูปนมันเขี้ยวทำให้คชาหลุดหัวเราะน้อยๆ ยิ่งมองอีกฝ่ายยิ่งคันไม้คันมือเจ้าก้อนนุ่มนิ่ม อยากมีน้องสาวแบบนี้บ้าง “ตั้งใจทำงานล่ะ แปลนิยายของจีนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะจะบอกให้” คชาเอ่ยเตือนหญิงสาวด้วยความหวังดี ก่อนจะจงใจก้มลงกระซิบกระซาบ “แถมพี่มะเดี่ยวยังเขี้ยวลากดินอีก” เสียงหัวเราะคิกหลุดออกมาจากปากอิ่ม เมื่อได้ยินอีกฝ่ายนินทาบรรณาธิการหนุ่มใจหญิงผู้มากฝีมือ ก่อนจะขยิบตาเอ่ยเสียงใส ชนิดที่คนฟังยิ้มร่า “รับรองจะไม่ให้เสียชื่อคนสอนภาษาจีนอย่างเฮียคะแน่นอนค่า” “เด็กดี” คชาว่าพลางลูบหัวน้องน้อยเบาๆ “เฮียขา…” เสียงหวานจ๋อย พร้อมอากัปกิริยาทำตาปริบๆ ทำให้คชาเริ่มจะรู้ทัน “ว่าไงตัวยุ่ง จะอ้อนเอาอะไรอีกหือ” “ขนมหนูล่ะ” แม่คนช่างกินเริ่มไถ พร้อมแบมือ ช้อนนัยน์ตาอ้อนๆ ขึ้นมองหน้าคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ “แล้วไอ้ที่วางเต็มโต๊ะอยู่ตรงหน้าเราเนี่ย ไม่ใช่ขนมหรือไง” “แค่นี้จิ๊บๆ เรียกน้ำย่อย” คนตัวนุ่มขยิบตาทำท่าน่ารักน่าเอ็นดู “เกินไปแล้ว” คชาหลุดขำพลางยีหัวรุ่นน้องที่ตัวเองเอ็นดูประดุจน้องสาวในไส้ เนื่องจากรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยหัดเขียนนิยาย อีกทั้งยังมาสนิทสนมกันตอนช่วงที่บูรณิมาเข้ามาเป็นหนึ่งในนักเขียนของสำนักพิมพ์ดารากาล ใจจริงเขาอยากจะดึงแก้มย้วยๆ ของอีกฝ่ายอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ เพราะนึกมันเขี้ยวจนแทบทนไม่ไหว แต่ติดตรงสายตาเข้มๆ นิ่งๆ ของคนที่นั่งกอดอกมองอยู่เงียบๆ ทำให้มือที่ตั้งใจยื่นออกไปในคราแรกหดเกร็งกลับมา “กินเท่านี้ก็พอแล้วมั้ง” “แต่น้องอยากได้จากเฮียนี่นา…นะนะ” เธอทำตาปริบๆ อีกหนจนคนมองชักจะแพ้ลูกอ้อน “ไหนว่าช่วงนี้อ้วนไง” “เฮียอะ หยาบคาย ใครเขาให้พูดเรื่องอ้วนกับผู้หญิงกันเล่า” ท่าทางกระเง้ากระงอดแสนงอนทำให้อีกคนยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดู “เอ้า! ก็เราเป็นคนบอกเฮียเองไม่ใช่เหรอ ว่าตัวเองอ้วน” คชาว่าพลางกลั้นยิ้ม “ไม่รู้แหละ มามะ…เอาขนมมาซะดีๆ” สาวน้อยทำแก้มพอง แบมือกระดิกนิ้ว คชาแสร้งทำเป็นถอนหายใจออกมาแรงๆ แต่ก็ยอมล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบดาร์กช็อกโกแลตที่บูรณิมาชอบนักชอบหนาออกมาส่งให้ “เอ้า…เอาไป ยายหมูนุ่มจอมไถ” “เฮียน่าร้ากกกก…ที่ซู้ดดดดด” สาวน้อยยิ้มจนตาหยี ขณะเอ่ยประจบเอาใจเสียงใสแจ๋ว ทำเอารุ่นพี่หนุ่มหลุดหัวเราะออกมา จากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันอีกไม่นาน คชาเป็นฝ่ายเอ่ยขอตัว โดยอ้างว่าต้องรีบไปเคลียร์งานต่อให้เสร็จ เพราะรู้สึกกดดันกับสายตาของคนที่นั่งร่วมโต๊ะกับบูรณิมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ “เก่งนี่ ตัวเท่านี้อ่อยผู้ชายเป็นแล้ว” ข้อกล่าวหาลอยๆ ทำให้สาวน้อยหันขวับไปมองคนช่างหาเรื่องตาขวาง ปากอิ่มเม้มแน่นด้วยความขุ่นเคือง เมื่อเห็นคิ้วหนาที่พาดเฉียงเหนือนัยน์ตาเย็นชาเลิกขึ้นคล้ายท้าทาย ก่อนจะตอบโต้เสียงแข็งๆ “หนูไม่ได้ทำอย่างนั้นซะหน่อย” “ก็เห็นๆ อยู่” “สายตาหาเรื่อง” บูรณิมาว่าพลางย่นจมูกอย่างไม่ชอบใจกับการถูกปรักปรำ “หึ! เด็ก…เถียงคำไม่ตกฟาก” “หึ! คนแก่…ชอบหาเรื่อง” คำว่า ‘คนแก่’ ที่หลุดออกมาจากปากอิ่มทำให้เจ้าของร่างใหญ่หน้าตึง มองเธอดุๆ แต่บูรณิมากลับลอยหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และเลิกสนใจอีกฝ่ายในที่สุด หลังจากนั้นสามวันถัดมา เธอก็ได้รับข่าวที่สุดแสนจะช็อก นีราประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมกับสามีและลูกสาวของหล่อน ทำเอาอดใจหายไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ชอบขี้หน้าสามีของนีราก็เถอะ แต่ก็เพิ่งเห็นกันอยู่หลัดๆ ไม่น่าเชื่อว่าความโชคร้ายจะมาเยือนพวกเขาอย่างคาดไม่ถึง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD