ยูมิถูกเชิญให้เข้ามาด้านใน เธอมองรอบห้องทำงานก่อนจะพบกับรามคิรินทร์ที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ใบหน้าหญิงสาวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ก่อนจะได้เอ่ยอะไรเสียงของคาเซนก็ดังขึ้นก่อน
“มาตอบตกลงเหรอ ไวดีหนิ”
“เปล่า เราต้องการมาคุยข้อตกลง”
“เชิญนั่ง” เธอลากเก้าอี้ออกก่อนหย่อนก้นลงตามคำเชิญ ไม่วายยังหันไปมองรามอีกครั้ง
“นั่นญาติฉัน มาจากไทยชื่อรามคิรินทร์”
“ยินดีที่ได้พบค่ะคุณราม” เธอทักทายก่อนก้มหัวเล็กน้อย
“ยินดีครับคนสวย”
“คิรินทร์ อย่าหน้าม้อ” เสียงดุ ๆ ของชายหนุ่มดังขึ้น
“ซอรี่ ๆ ชินไปหน่อย”
“นี่ยูมิ ว่าที่เจ้าสาวของฉันที่นายถาม” ได้โอกาสก็แนะนำเลยก็แล้วกัน
“ว่าธุระของเธอมาเถอะ ไม่ต้องสนใจมัน”
“เฮอะ” รามส่งเสียงเล็กน้อยให้เขารู้ว่ากำลังไม่พอใจ
“จะนั่งในห้องหรือให้ฉันไล่นายไปที่อื่น?”
“…..” สุดท้ายรามก็จำต้องเงียบ ยูมิหันกลับมามองคาเซนต่อ
“ว่ามาสิ มองหน้าฉันแบบนี้ฉันไม่รู้ความต้องการหรอกนะ”
“เฮ้อ เราต้องการให้คุณร่างสัญญาว่าคุณจะให้เกียรติครอบครัวเรา ปกป้องและดูแลพวกเขาจากอันตรายอย่างดี ไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น”
“ฉันสัญญา”
“เราไม่ต้องการคำพูดปากเปล่า” คาเซนถอนหายใจก่อนจะกดโทรศัพท์เรียกเลขาหน้าห้องมา
“ให้ฝ่ายกฎหมายเข้ามาหาฉันด่วน”
“มันต้องขนาดนี้เลยเหรอครับคุณยูมิ” รามเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ นี่มาแต่งงานเป็นคุณนายสองของตระกูลโนชิมูริหรือเตรียมออกรบ
“คุณเข้าใจใช่มั้ยว่าองค์กรนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยิ่งหากเราต้องเข้าไปอยู่ในจุดที่คนอื่นให้ความสนใจ เราไม่ต้องการให้ครอบครัวเราเดือดร้อน” ที่ยูมิโกะพูดก็มีเหตุผล จาฟาร์เองก็ยินดีรับข้อเสนอเพราะมันไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง
“ได้ อันนี้ถือเป็นข้อแรกใช่มั้ย มีอะไรอีก?”
“เราต้องการโฉนดคฤหาสน์ตระกูลมาซุดะคืน”
“อยู่ที่ใครล่ะ?”
“เราไม่รู้ หลายปีก่อนมีคนในองค์กรเข้ามาและบอกว่ามันเป็นกฎใหม่ที่ต้องการโฉนดของบ้านเราเป็นการรับประกันว่าโอโต้ซังจะไม่ออกและทรยศต่อองค์กร”
“มันไม่มีกฎนั่น แต่เดี๋ยวจะไปเอากลับมาให้ ต่อที่ข้อสาม”
“ไม่มีแล้วค่ะ”
“แค่นี้?” คาเซนเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม
“เราต้องการแค่นี้”
“ไม่เรียกร้องอะไรให้ตัวเองหน่อยหรือไง แบบต้องการเงินเดือนเท่าไหร่ ห้ามทำอะไรบ้าง”
“คุณแต่งเราไปเป็นภรรยา หรือแต่งไปเป็นพนักงานล่ะ?”
“อุ๊ป ฮ่า ๆ!” เสียงของรามหัวเราะดังขึ้นเมื่อได้ยินคำถามนั้น
“หุบปากไปเลยคิรินทร์!” คาเซนดุญาติอีกครั้ง
“ฉันก็ต้องแต่งเธอมาเป็นภรรยาสิยัยบ้า ถามมาได้”
“เงินเดือนเราไม่ต้องการ รักษาสัญญาสองข้อนั่นให้ได้เป็นพอ”
“ฉันไม่โอเค”
“ไหนเมื่อกี้คุณบอกว่ารับปากไง”
“ฉันหมายถึงว่าฉันไม่โอเคที่เธอไม่เรียกร้องอะไรให้ตัวเองเลยยูมิโกะ นั่นมันเหมือนว่าฉันกำลังเอาเปรียบเธออยู่”
“แค่คุณรู้ตัวเองดีว่าไม่ทำแบบนั้นก็พอแล้ว เราไม่ได้ซีเรียส”
“แต่ฉันซีเรียส”
“เอ๊ะ!” เธอไม่เรียกร้องแต่เขากลับไม่ชอบใจ ผู้ชายคนนี้เป็นไบโพลาร์หรือยังไงกัน แทนที่จะดีใจที่รักษาผลประโยชน์ของตัวเองได้
“คุณคาเซนคะ ฝ่ายกฎหมายพร้อมแล้วค่ะ” ก่อนที่ทั้งสองจะเถียงกันต่อ เสียงของเลขาก็ดังขึ้น
“ให้เขาเข้ามา” เมื่อจาฟาร์อนุญาต คนใส่สูทสี่คนก็เดินมาหยุดด้านหลังของยูมิ เธอลุกเพื่อที่จะหลบให้พวกเขานั่ง
“ไม่ต้องลุก นั่งไป”
“แต่…” แค่ชายหนุ่มปรายตามองนิ่ง ๆ ร่างกายของหญิงสาวก็กลับไปอยู่ท่าเดิม
“เตรียมสัญญาให้ฉัน จบแล้วเอาไปทำที่ออฟฟิศ”
“บอกข้อตกลงได้เลยครับคุณคาเซน”
“ข้อแรกมาซุดะจะอยู่ในการดูแลของโนชิมูริตราบที่ยูมิลูกสาวเพียงคนเดียวยังเป็นภรรยาของฉันอยู่”
“ครับ”
“ข้อที่สอง โฉนดที่ดินคฤหาสน์มาซุดะจะต้องถูกส่งคืนในวันแต่งงาน”
“ครับ”
“ข้อสาม ยูมิ มาซุดะ จะได้รับเงินปันผลจากฉันผู้เป็นสามีจำนวนห้าแสนดอลลาร์ต่อเดือน ไม่รวมค่าใช้จ่ายและของขวัญแทนใจที่ต้องการในเทศกาลต่าง ๆ”
“ครับ”
“คุณ ไม่อะ…”
“นั่งเงียบ ๆ ยูมิ” คาเซนออกคำสั่ง เธอก็ต้องทำตามเพราะดูแล้วไม่ว่าใครก็คงขัดเขาไม่ได้
“ข้อที่สี่ ทั้งฉันและยูมิจะต้องซื่อสัตย์ต่อกัน ห้ามหลับนอนกับคนอื่น”
“ครับ”
“ทั้งหมดที่กล่าวมานี้หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาจะต้องจ่ายชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนหนึ่งพันล้านดอลลาร์”
“ได้ครับ” หลังจากได้ข้อสรุปทีมกฎหมายก็พากันเดินออกไป รามที่ได้ยินทุกข้อตกลงถึงกับกระตุกยิ้มร้าย
“มีข้อไหนที่เธอไม่พอใจมั้ย?”
“ข้อสามค่ะ”
“คิดว่าจะเป็นข้อสี่เสียอีก” หญิงสาวถอนหายใจหนัก จะแต่งกับเธอแต่ยังมีหน้ากังวลว่าเธอจะนอกใจอีกงั้นเหรอ
“เราไม่มีอะไรจะคุยแล้ว ขอตัว”
“เดี๋ยวก่อน”
“คุณมีอะไร”
“ไหน ๆ เธอก็ตกลงแล้ว วันนี้ไปทานข้าวที่บ้านฉันหน่อยแล้วกัน” เหนือสิ่งอื่นใดจาฟาร์จะต้องมั่นใจว่ายูมิเข้ากันได้ดีกับเจนีนน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา หากไม่ ชายหนุ่มต้องหาว่าที่เจ้าสาวใหม่โดยด่วน