การประชุมองค์กร ณ สถานที่ลับไม่เปิดเผยตำแหน่ง
“แต่งงานกับลูกสาวของตระกูลในองค์กร เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้พวกเรายอมรับคาเซนในฐานะโอยะบุน” หนึ่งในผู้นำตระกูลอื่นเอ่ยขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของคนที่เหลือ
“มันมากไป” คาเซนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ
“งั้นคุณก็ไม่เหมาะสม โอยะบุนคือคนที่ต้องเสียสละหากแค่นี้ยังทำไม่ได้จะเอาอะไรมาให้คนอื่นมั่นใจ”
“ระวังคำพูดหน่อย” เจ้าป่าปรายตามองนิ่ง ๆ สำหรับเขาแล้ว ใครก็ห้ามแตะต้องจาฟาร์ไม่ว่าจะร่างกายหรือคำพูด
“ยังเป็นลูกแหง่ให้โอโต้ซังปกป้อง องค์กรเราจะรอดเหรอ ปวกเปียกไม่เหมาะสม”
“ให้เป่าหัวคุณคนแรกเลยดีมั้ย จะได้รู้ว่าเหมาะหรือไม่?” ร่างหนามองคนพูดอย่างไม่พอใจ กล้าดียังไงมาว่าเขาปวกเปียกกัน แก่แล้วยังไม่รู้จักเจียมตัว
“เอาล่ะ ๆ ข้อเสนอของพวกเรา คุณทำได้หรือไม่ได้”
“ได้ แต่ผมจะเลือกเอง” คำตอบของจาฟาร์เป็นที่พอใจของทุกคนยกเว้นพ่อของเขา
“สามเดือน หวังว่าพวกเราจะได้รับข่าวดีครับ” เมื่อจบการประชุมทุกคนพากันเดินออกไปหมด เหลือเพียงสองพ่อลูกที่นั่งมองหน้ากันไปมา
“ก้าซังไม่พอใจแน่”
“คนสวยตามใจผมมากกว่าตามใจโต้ซังอีก เพราะฉะนั้นห้ามบอกจนกว่าผมจะเลือกได้ลูกสะใภ้ได้”
“มีเล็งไว้มั้ย?”
“มี”
“ตระกูลไหน?”
“มาซุดะ” เมื่อได้ยินคำตอบ เรียวจิอยากเอาเท้าก่ายหน้าผาก
“ขอเหตุผลดี ๆ หน่อยคาเซน”
“ชอบอะไรที่ไม่เสนอตัว ยิ่งกับว่าที่นายหญิงแล้วต้องเป็นคนที่เพียบพร้อมทั้งภายในและนอก ไม่ใช่ระริกระรี้อยากจะมีอำนาจเหนือคนอื่นจนตัวสั่น”
“ปากร้ายเหมือนเดิมไม่มีผิด”
“ไม่โง่เหมือนโต้ซัง ผมว่าแค่นั้นก็พอแล้ว” สองพ่อลูกยังคงเถียงกันบ่อย ๆ แต่นั่นเหมือนการแสดงความรักอีกแบบระหว่างทั้งคู่
“กับเจนีนก็จะปิดบังน้องเหรอ?”
“ไม่ได้เรียกปิด เขาเรียกว่าบอกเมื่อพร้อม”
“คนสวยงอนง้อง่ายกว่าเจนีนงอนนะจาฟาร์”
“เอาสักชื่อ จะคาเซนหรือจาฟาร์ ปวดหัวแล้วนะโต้ซัง”
“เฮ้อ เหนื่อยใจกับนาย”
“ขอบคุณ”
“โต้ซังกำลังด่าไม่ได้ชม”
“อ่า สงสัยอยู่กับเฮียลาซและคิรินทร์มากไป แยกไม่ออก คิดว่าสรรเสริญ” เจ้าป่าหลับตากุมขมับไปมา ลืมตาขึ้นอีกทีลูกชายก็หายไปแล้ว
“ให้มันได้แบบนี้คาเซน คนสวยของนายตีหัวฉันแน่” พูดถึงภรรยาสาวแล้วอดจะเสียวหัวไม่ได้เลยทีเดียว
“ไปที่เดิม” คาเซนสั่งคนขับเสียงเรียบ ตั้งแต่เขาสืบรู้ว่าตัวเองต้องแต่งงานชายหนุ่มมักจะไปที่หนึ่งเสมอเวลาว่าง
“ไม่เข้าไปคุยดูเหรอครับ?”
“ไม่ใช่ตอนนี้” ทันทีที่รถจอด ร่างหนาถอดแว่นที่สวมอยู่ออกและมองไปยังหญิงสาวตัวเล็กที่กำลังป้อนข้าวโอะบาซังของตนอยู่ในสวนหลังคฤหาสน์
“เธอดูเป็นคนไม่สนใจใครนะครับ”
“เหมาะสมกับตำแหน่งดี นายไม่คิดแบบนั้นเหรอ?”
“ยังไงครับผมไม่เข้าใจ”
“ตำแหน่งอกซังของฉันไม่จำเป็นต้องสนใคร ไม่จำเป็นต้องยิ้มให้ใคร เพราะพวกคนเหล่านั้นยังไงก็พร้อมจะก้มหัวจนแนบเท้าเพื่อเข้าหา” คนสนิทเพิ่งเข้าใจก็ตอนที่เจ้านายของตนบอก คิดวิเคราะห์สมกับตำแหน่งโอยะบุน
“วันนี้จะอยู่กี่ชั่วโมงดีครับ ผมจะได้ไปซื้อน้ำมาให้”
“เดี๋ยวก็กลับแล้ว ก้าซังจะฉีกอกฉันตาย บ้านไม่รู้จักกลับ” แค่คิดถึงตอนผู้เป็นแม่บ่น จาฟาร์ก็สยองขึ้นมา
“งั้นกลับเลยมั้ยครับ?” เมื่อเวลาผ่านไปสักพักคนขับก็เอ่ยถาม
“อืม”
ราว ๆ ครึ่งชั่วโมง รถตู้สีดำหรูเข้ามาจอดในคฤหาสน์โนชิมูริ สายตาของชายหนุ่มเหลือบไปเห็นน้องสาวอย่างเจนีนที่อายุห่างกันเกือบเก้าปีวิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็วจึงเตรียมตัวตั้งรับ
“นี่ซัง พี่กลับมาแล้ว”
“วิ่งทำไมเจนีน เดี๋ยวก็ล้มจนได้แผล”
“อะไรกัน กลับมาก็บ่นเลย” คนเป็นน้องหน้ามุ้ยไม่พอใจเมื่อถูกดุ
“พี่เป็นห่วง ไม่อยากให้หนูเจ็บตัว”
“เข้าใจแล้ว ๆ รอบหน้านีนจะไม่วิ่ง”
“งั้นเข้าบ้านกัน วันนี้ก้าซังอารมณ์ดีมั้ย?”
“กับน้องก็อารมณ์ดีอยู่ แต่กับนี่ซังน้องไม่แน่ใจ” คำตอบของเจนีนทำเอาเขาอยากเดินตรงขึ้นห้องจริง ๆ กลัวว่าถ้าแวะเจออลิเซียกลางทางหัวจะหลุดออกจากบ่า
“โต้ซังกลับมาหรือยัง?”
“มาถึงก่อนนี่ซังได้ครึ่งชั่วโมง”
“โอเค” สองคนพากันเดินเข้าด้านใน
“กลับมาสักทีนะพี่ฟาร์”
“คนสวย พี่คิดถึงจังเลย”
“อย่าแตะต้องเมียฉัน” เจ้าป่าเสมอต้นเสมอปลาย หวงผู้เป็นภรรยาแม้กับลูกก็ตาม
“อย่าเวอร์ไปหน่อยเลยโต้ซัง ก่อนคุณจะกลับมา คนสวยนอนกับผมตลอด”
“อยากจะทุบหัวจริง ๆ ทำไมไม่น่ารักเหมือนตอนเด็ก”
“ก้าซัง น้องปวดหัว สองพ่อลูกทะเลาะกันอีกแล้ว”
“ขอโทษครับ” สองหนุ่มเอ่ยออกมาพร้อมกันเมื่อในบ้านนี้ทั้งคู่รักและเกรงใจมากที่สุดคือเจนีนและอลิเซีย