EP 06 กลัวจะได้บีบคอเจ้าสาว

1331 Words
หลังจากทานข้าวที่คฤหาสน์ตระกูลโนชิมูริเสร็จ จาฟาร์ก็เตรียมตัวจะไปส่งยูมิที่บ้านเพราะเห็นว่ามันดึกมากแล้ว ให้เธอกลับเองหรือให้การ์ดของเขาไปส่งมันคงดูไม่ดีสักเท่าไหร่ “ไว้รอบหน้ามาทานข้าวด้วยกันอีกนะหนูยูมิ” “ขอบคุณค่ะก้าซัง” ยูมิเอ่ยพร้อมส่งยิ้มให้อลิเซียเล็กน้อย “ไปส่งน้องก็ขับรถดี ๆ ไม่ต้องซิ่งมาก” “ไม่ต้องห่วงนะอาเรียว ถ้ามันซิ่งเดี๋ยวผมโบกหัวให้เอง” และแน่นอนว่ารามคิรินทร์พร้อมจะติดสอยห้อยตามคาเซนไม่ห่าง “ผมกลัวมันจะบอกให้ผมขับเร็วกว่าเดิมมากกว่าโต้ซัง” “คิดเหมือนกัน” อลิเซียเอ่ยอย่างปลง ๆ เพราะรามไม่ได้ต่างจากพ่อของตนสักเท่าไหร่ "ไปกันได้แล้วไป เดี๋ยวที่บ้านน้องจะเป็นห่วงไปมากกว่านี้" "ลาก่อนค่ะคุณเรียวจิ ก้าซัง" "เรียกก้าซังแต่ไม่เรียกโต้ซังซะงั้น" "งั้นยูมิขออนุญาตเรียกโต้ซังนะคะ" "ยินดี" เรียวจิเอ่ยตอบพร้อมส่งยิ้มให้ว่าที่ลูกสะใภ้เพียงเล็กน้อย เมื่อลากันเสร็จทั้งสามก็มาขึ้นรถโดยรามคิรินทร์นั่งด้านหลังและหญิงสาวนั่งข้างชายหนุ่ม "เป็นไงมาที่นี่วันนี้?" "ก็ดีค่ะ" "เธอตอบได้แค่นี้เหรอ?" จาฟาร์เลิกคิ้วสูงเอ่ยถาม "แล้วจะให้ตอบยังไงค่ะ ดีมากค่ะท่านแบบนี้เหรอ?" "ฮ่า ๆ" เสียงญาติของเขาหัวเราะจนดูน่าอร่อย แต่แล้วเสียงก็ต้องเงียบลงเมื่อจาฟาร์ส่งสายตาดุ ๆ ผ่านกระจกมองหลัง "กวนจริง ๆ นะ" "ก็เราตอบแล้วคุณไม่พอใจ" "เฮ้อ เอาเถอะ" "เหนื่อยกับเราเหรอ?" ยูมิหันมองหน้าชายหนุ่มแล้วถามออกมา "เปล่า" "นึกว่าเหนื่อย" "แล้วถ้าบอกว่าเหนื่อยจะทำไง?" "ก็หาคนใหม่สิคะ เราเป็นแบบนี้" "สมน้ำสมเนื้อฉิบหาย" รามพึมพำออกมาเบา ๆ และเป็นครั้งที่สองที่ได้สายตาพร้อมเฉือนเลือดเฉือนเนื้อของเขา "ปกติทำงานอะไร?" "ไม่ได้ทำค่ะ คุณน่าจะรู้อยู่แล้ว" "เธอนี่มันรู้ดีไปทุกเรื่อง" "คำนี้เราต่างหากที่ควรพูดกับคุณ รู้ดีไปซะทุกเรื่อง" "ยูมิโกะ" "เรียกเราทำไม?" "เธอแม่ง" คาเซนหัวเสียจนต้องหันกลับมาสนใจถนนต่อ กลัวว่าถ้าชวนคุยมากกว่านี้จะได้บีบคอว่าที่เจ้าสาวของตัวเองจริง ๆ "เคยมีแฟนมั้ย" "คุณอยู่เงียบ ๆ หรือขับรถอย่างเดียวไม่ได้เหรอคะ" "ตอบมาเถอะ" "เคยค่ะ" "ว้าว ไม่น่าเชื่อ" "ทำไม เราเหมือนคนใส ๆ เหรอ?" "เป็นคนญี่ปุ่นจริงมั้ย รู้จักภาษาไทยดีฉิบหาย" "เราเคยเรียนแลกเปลี่ยน มีเพื่อนที่ไทย" "อ๋อ" จาฟาร์พยักหน้ารับเบา ๆ ยูมิมีอะไรที่ทำให้เขาอยากรู้จักเธออีกมาก ไม่เหมือนใคร ไม่อ่อย ไม่เข้าหา กวนตีนด้วยซ้ำ "ถ้าจะด่าเราในใจคุณช่วยเก็บสีหน้าให้ดีกว่านี้หน่อยได้มั้ย" "รู้อีก" "เฮอะ" "แล้วเลิกกับแฟนทำไม?" "คำถามนี้เราไม่ขอตอบ" "ไม่ตอบก็ไม่ตอบ" จาฟาร์ไหวไหล่สบาย ๆ ราวกับว่าไม่ได้ต้องการอยากรู้ขนาดนั้น แต่ในใจก็ภาวนาให้เธอพูดมันออกมา "แล้วคุณเคยมีแฟนมั้ย?" "จะจีบฉันเหรอ?" "เปล่าค่ะ ถามกลับตามมารยาทน่ะ" "ฮ่า ๆ" "ไอ้คิรินทร์" "ก็กูชอบนี่หว่า ยูมิโกะเรามาเมคเฟรนกันมั้ย?" "ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวก็เป็นญาติกันแล้ว" "ฮ่า ๆ" จาฟาร์หัวเราะลั่นเมื่อรามคิรินทร์เจอกับตัวบ้าง "แม่ง มึงเงียบไปเลยไอ้ฟาร์ เดี๋ยวกูให้เมียสอนหลักสูตรการเป็นภรรยาทายาทบราวน์ให้เมียมึงเลยหนิ" "ยังไม่ใช่ ไอ้ห่า" "คุณมีภรรยาด้วยเหรอ?" "อ้าวคนสวย ผมหล่อขนาดนี้ ไม่มีได้เหรอครับ" "ภรรยาคุณปวดหัวหรือเปล่า?" "ยูมิ เบากับผมที รับไม่ไหวแล้ว" "สมน้ำหน้าไอ้เวร" ถ้าไม่บอกว่าเป็นญาติกัน ยูมิเกือบคิดว่าทั้งสองเป็นศัตรู ใครพลาดคนนั้นโดน "เดี๋ยวขอแวะซุปเปอร์มาเก็ตหน้าทางเข้าหมู่บ้านเธอก่อน ไม่รีบใช่มั้ย?" "ซื้ออะไรคะ?" "ของติดไม้ติดมือไง ซุปเปอร์นี้มีเบเกอร์รี่ของก้าซังวางขาย ซื้อไปให้ครอบครัวเธอชิมสักหน่อย" "บ้านเรากินอยู่เป็นประจำ" "ว้าว ว่าที่ลูกสะใภ้น่ารักขนาดนี้ ไม่แปลกที่อาเซียจะชอบ" "เออ" จาฟาร์เลี้ยวรถเข้าจอดที่ด้านหน้าและวิ่งลงไปเปิดประตูฝั่งหญิงสาว "มากับฉัน" "แล้วกูล่ะ?" "เฝ้ารถต่อไป" ไม่รู้ว่าทำไมรามคิรินทร์เห็นแววคนคลั่งรักออกมาจากตัวของจาฟาร์มากขนาดนี้ “ปกติทานอะไรกันบ้าง เลือกสิ” “เลือกเยอะได้มั้ย” “เหมาเลยมั้ยล่ะ” “คุณไม่ประชดได้มั้ย” “ไม่ได้ประชด ฉันเหมาให้เธอได้จริง ๆ” “สายเปย์เหลือเกินนะ” ยูมิพูดแบบประชดก่อนจะหยิบถาดและเลือกขนมที่คนในครอบครัวของเธอชอบอย่างละ 3 ชิ้นต่อคน “แค่นั้นพอ?” “พอแล้ว จะทานอะไรเยอะแยะ ของหวานไม่ดีต่อคนสูงอายุ คุณก็อย่าทานเยอะล่ะ” “เดี๋ยว ฉันเพิ่ง 26 จะ 27” “อ่า โทษที หน้าคุณขมวดคิ้วตลอดเวลาจนดูแก่” “ยูมิโกะ” ร่างบางไหวไหล่และเดินหนีไปอีกฝั่ง ไม่สนคนที่หัวร้อนอย่างเขา “ได้เทคโรงงานยาพาราแน่กู” เมื่อเลือกของเสร็จถึงตอนจ่ายเงิน จาฟาร์ยื่นบัตรของเขาให้พนักงานก่อนรับของมาถือด้วยตัวเอง “ส่งมาสิ เราช่วย” “ไม่ต้อง แฟนเก่าเธอไม่เคยทำหรือไง ผู้หญิงควรเดินสบาย ๆ ปล่อยหน้าที่ยกให้เป็นของผู้ชาย” “คุณคาเซน ได้โปรดอย่าหึงย้อนหลัง” “นี่!” ไม่ทันได้บ่นเธอก็เดินตัวปลิวกลับรถไปเป็นที่เรียบร้อย “กลับมาคุยกันก่อน ใครหึงเธอ” “ไม่รู้สิ คุณทำตัวเหมือนผัวหวงเมียกับผัวเก่า” “ยัยบ้า!” “โวยวายทำไม น่ารำคาญ” คนตัวเล็กเปิดประตูเข้าไปนั่ง ปล่อยให้จาฟาร์มองตามเหมือนหมามองเจ้าของอยู่แบบนั้น “ขึ้นรถสิฟาร์” “เออ” จนรามคิรินทร์เปิดกระจกตาม ร่างสูงถึงเดินเอาของไปเก็บข้างหลังและกลับไปประจำตำแหน่งคนขับ “เรียกฉันจาฟาร์ให้ติดปาก ให้ดีเรียกเฮียฟาร์” “อยากได้น้องสาวเหรอ?” “โว้ย ทำไมกวนนักวะ” “อ้าว เฮียแปลว่าพี่หนิ” “บ้านฉันมีเชื้อสายฮ่องกง ที่นั่นเขาเรียกผัวว่าเฮีย” “แต่คุณยังไม่ใช่ผัวเราหนิ เรียกคุณฟาร์ละกัน” “เอาเถอะ ฉันเหนื่อย เธอเถียงเก่ง” “เปลี่ยนเจ้าสาวมั้ย?” “ฝันหรือไง” รามคิรินทร์นั่งสังเกตการเงียบ ๆ และคอยรายงานในกรุ๊ปครอบครัว “ถึงแล้ว” “รู้แล้ว นี่บ้านเรา” “เฮ้อ ฉันจะเดินลงไปส่ง” “จริง ๆ ไม่ต้องก็ได้” “ฉันไม่อยากให้ใครพูดได้ว่าดูแลเมียไม่ดี” “ก็บอกว่ายังไม่ใช่ไง” “เออ เดี๋ยวเร่งงานแต่งให้เข้ามาเดือนหน้าเลย จะได้ยัดเยียดความเป็นผัวให้จบ ๆ ไป” “ของขาดเหรอ?” “ยูมิโกะ” “เฮ้อ ทำไมคุณต้องทำตัวซีเรียสตลอดเวลา เราคุยกับคุณแล้วเหนื่อย” “ฉันมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย จะเอาเวลามาเล่นอย่างเธอได้ยังไง” “หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ก็ทำในเวลาของมัน ช่วงเวลานี้คุณควรผ่อนคลายซะบ้าง เราแต่งงานก็อยากมีความสุข ไม่ใช่เจอแต่หน้าเครียด ๆ ของคุณทุกวัน แต่ถ้าการบอกไปเป็นการก้าวก่ายขอโทษด้วย ไม่ต้องส่ง ขอบคุณ” พูดจบหญิงสาวก็เปิดประตูเดินลงไป โดยมีรามส่งของจากด้านหลังให้ “เดี๋ยว” “อะไรอีก” “ฉันจะผ่อนคลายให้มากกว่านี้ เธอจะได้มีความสุข” “ไม่ต้องคิดว่าทำเพื่อเรา คุณทำเพื่อตัวเองเถอะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD