Ep.1 อ้อมกอด

1316 Words
Ep.1 First hug “เราเลิกกันเถอะ...” ...... ... .. “เลิกทำไม? ” “น้ำต้องการอนาคต ไม่ใช่คนรักสัตว์ รักโลก คินควรเข้าใจนะ ” และนั่นแหละครับ คือของขวัญแสดงความยินดีในวันรับปริญญาของผม.. เพียงแต่ผมไม่เคยคิดว่า เราได้เลิกกันแล้วจริง ๆ ... เพราะบางทีเราอาจจะแค่ต้องการเวลาเว้นช่องว่าง... เพื่อคิดทบทวนซึ่งกันและกันเท่านั้นเอง... ครอบครัวของผมมีธุรกิจฟาร์มม้าแข่งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และพื้นที่อีกหลายร้อยไร่... ทุกคนคงไม่แปลกใจถ้าผมจะเลือกเรียนสัตวแพทย์... ผมคิดว่าปรัชญาทางเศรษฐศาสตร์หรือ วิธีบริหารงานเราสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองจาก text book ที่มีอยู่ทั่วไป แต่การรักษาหนึ่งชีวิตต่างหากที่เราไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง...แต่นั่นคงไม่ใช่สิ่งที่แฟนของผมคิด... ฮื้อออ ฮื้ออออ เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นทำให้ผมต้องกดรับสายผ่านระบบบลูทูธในรถคู่ใจ “สวัสดีครับ แม่...” ผมรับสายทันที “ฮัลโหลพี่คินลูก... ขับรถถึงไหนแล้วจ้ะ” แม่ผมถามอย่างเป็นห่วงเพราะผมบอกกับท่านว่า อยากจะกลับมาอยู่บ้านสักพักจริง ๆ แม่กับพ่อก็คงรู้อยู่แล้วว่าผมกำลังมีปัญหา “อีกครึ่งชั่วโมงคงถึงบ้านนะครับ” ผมตอบไปก็เหยียบคันเร่งไป “งั้นพอดีเลย... แม่ฝากแวะรับน้องแอรินด้วยได้มั้ย? ” แม่พูดเสียงนิ่มๆ “แอริน....” ผมกำลังนึกถึงชื่อนั้นอยู่นาน... ภาพเด็กผมม้าตัวเล็ก ๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในฟาร์มม้าก็ลอยมาในหัวทันที แอรินคือลูกของเพื่อนสนิทของพ่อซึ่งเป็นคู่สอนฝึกม้าแข่งของฟาร์มเรา แต่ท่านเพิ่งจากไปก่อนวัยอันควรด้วยอุบัติเหตุ เมื่อ 3 ปีก่อน แม่กับพ่อของผมจึงรับแอรินมาอุปการะไว้เอง ส่งเสียเรียนและดูแลเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง...โดยส่วนตัวแล้วผมไม่เจอแอรินมานานมาก ๆ เพราะตอนมอปลายผมก็ไปเรียนไฮสคูลที่อเมริกา...ก่อนจะกลับมาต่อมหาลัยในกรุงเทพ..ในตอนที่ผมกลับมาเยี่ยมบ้านก็ไม่ค่อยเจอเด็กคนนี้ซักเท่าไหร่ คงเพราะเวลาไม่ค่อยตรงกันและมั้งครั้งสุดท้ายที่ผมเจอ..ก็คงเป็นงานเผาศพของคุณอาดำรงหรือพ่อของแอรินนั่นแหละ “...คินๆ ..คิน ได้ยินแม่มั้ยลูก..” เสียงแม่ทักขึ้นเมื่อเห็นผมเงียบไป “อ่อๆ ครับ รับตรงไหนครับแม่” ผมถามอย่างสุภาพ “หน้าโรงเรียนเลยจ้ะ เดี๋ยวแม่ให้น้องยืนรอที่หน้าโรงเรียน” “ได้ครับ แล้วเจอกันที่บ้านครับแม่” ผมตอบรับทันที “โอเคจ๊ะลูกรัก...เออ...แม่ทำกับข้าวรอพี่คินไว้เยอะเลยนะลูก ไม่ต้องซื้ออะไรเข้ามาละ” แม่รีบบอกก่อนจะวางสายไป… ผมขับรถมาสักพัก ก็ถึงหน้าโรงเรียนสหศึกษาแห่งหนึ่งและมีเพียงที่เดียวในย่านนี้ เรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดดีเด่นเลยละ แต่เด็กนักเรียนเยอะแยะเต็มไปหมดแบบนี้ จะหาเจอได้ยังไงเนี้ย... “แอริน ๆๆ ” ผมท่องชื่อนั้นและก้าวลงจากรถเพื่อมองหาไปทั่ว ๆ ผมพยายามนึกๆ และคิดถึงหน้าของแอรินที่ผมจำได้ จำได้ว่า...มีหน้าม้า.... ตาโต.... ผมยาว.... และก็...... “ชานมไข่มุกมั้ยคะ ...พี่คิน ” เสียงใสแจ๋วพร้อมกับแก้วชานมไข่มุกหน้าโรงเรียนก็ถูกยื่นมาตรงหน้าของผมทันที “แอริน?? ” ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย.. ผมมองเธออย่างไม่เชื่อสายตา เด็กคนนี้แทบไม่เหลือเค้าโครงเด็กสาวซนๆ คนนั้นเลย “อร่อยนะคะ...จริงจริ๊ง!!” แอรินยังคงยื่นแก้วชานมไข่มุกของเธอและทำหน้าชวนๆ ให้ผมกิน “ไม่ละ เธอกินไปเถอะ ” ผมตอบแบบยิ้มๆ เพื่อรักษาน้ำใจก่อนจะดันแก้วกลับไป และเดินไปขึ้นรถทันที แอรินยังคงยืนเด๋อด๋า ดูดชานมของเธออย่างร่าเริงๆ “ขึ้นรถสิ..... แม่รอทานข้าวอยู่ ” ผมพูดขณะที่เปิดประตูรถฝั่งคนขับ “อ่อๆ ค่ะๆๆๆ ” แอรินรีบพยักหน้าและวิ่งตามมาขึ้นรถทันที อย่างที่บอก... ผมกับแอรินแค่คนรู้จักกัน ไม่ได้สนิท และแทบจะไม่ค่อยได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ ด้วยวัยที่ห่างกันถึง 5 ปี และเวลาที่ไม่เคยตรงกัน.. ไม่แปลกถ้าบรรยากาศบนรถจะเงียบเป็นพิเศษ... รึเปล่า !! เสียงดูดชานมอย่างเอร็ดอร่อยของเด็กนักเรียนมอปลายที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ “ฮู้ !!...รถสวยมาก ๆ เลยนะคะ ” แอรินมองไปรอบ ๆ อย่างตะลึงๆ “คาดเบลล์ก่อน ” ผมชี้ไปที่เบลล์เพราะรถมันแจ้งเตือนขึ้นทันที “ฉลาดเวอร์รู้ด้วยว่ายังไม่ได้คาดเบลล์ ” แอรินยกนิ้วให้กับรถคู่ใจของผมอย่างชื่นชม ถ้าแม่ไม่บอกว่ารับมาเลี้ยงจริง ๆ ผมคงคิดว่าเด็กนี้อยู่บนภูเขา หรือในป่าแล้วนะ “มันจับเซนเซอร์จากน้ำหนักบนเบาะ ” ผมอธิบายไป เพราะไม่อยากให้เธอตื่นเต้นมากไปกว่านี้ “งั้นถ้าแอรินยกตูดขึ้นมันจะไม่ร้องเตือนใช่มั้ยคะ ” ว่าแล้วเธอก็ลองยื่นย่อๆ แบบไม่เอาตูดวางกับเบาะทันที เพื่อทดสอบความอัจฉริยะของรถสุดหรูของผม ???????!!!!!!! “นั่งลงดี ๆ !!อย่าซนได้มั้ย!!” ผมดึงเสื้อนักเรียนของเธอเบาๆ เพื่อบังคับให้ยัยเด็กต๊องนี่ ให้นั่งลง “คาดเบลล์และนั่งเฉยๆ ” ผมหันไปออกคำสั่ง เคยเรียนแต่ในห้องว่าสัตว์ที่สมาธิสั้นที่สุดคือ ลิง... แต่ผมว่าคงไม่ใช่...น่าจะเป็นแอรินมากกว่า พอเธอนั่งลงคาดเบลล์เสร็จสรรพก็หันมาก่อกวนผมต่อทันที... “...พี่คิน..เป็นหมอสัตว์หรอคะ ...” แอรินถามไปก็ค้นๆ แก้วชาไข่มุกไปด้วย “อ่อ...ใช่..” ผมตอบไปสั้นๆ “เท่สุดๆ เลยอะ .. หล่อทั้งข้างนอก และข้างใน......” เด็กน้อยดูตื่นเต้นกับการเป็นสัตวแพทย์ของผมน่าดู “เท่ตรงไหนหรอ ” ผมถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ เพิ่งรู้ว่าคุยกับเพื่อนต่างวัยมันก็จะมึนหัวหน่อยๆ “ทุกตรงเลยค่ะ...จริงๆ นะ ” พี่คิน...แอรินดูดชานมไข่มุกก็หันมาพูดกับผมไป.... ..... .. . “แค่กๆๆ คั่กๆๆ พี่คิน ” ผมก็มัวแต่มองทาง แต่ผิดสังเกตที่เสียงของเด็กจอมจุ้นเงียบไป “แอริน...” ผมหันไปก็เจอแอรินนั่งหน้าซีดมือกดที่คอของตัวเอง... ผมรีบหักรถเข้าข้างทางทันที ใช่ครับ...ไข่มุกคงติดคอเพราะเธอทั้งกินทั้งพูดนั่นแหละ “หันหลัง !!!” ผมรีบปลดสายเบลล์ของตัวเองและหันไปปลดของเธอทันที ฟุบ.. ผมจับตัวของแอรินนั่งหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง ก่อนจะโอบกอดบริเวณเอวเธอจากด้านหลัง และกดรัดตัวแน่นๆ ตามหลักปฐมพยาบาลเมื่อมีบางสิ่งติดคอผู้ป่วย... ผมกอดรัดเพื่อช่วย แอรินอยู่นาน “เธอกลืนลงไปรึยัง? ” ผมถามแอรินที่ยังคงนั่งนิ่งๆ ไม่ตอบอะไร จนผมเริ่มใจเสียเบาๆ “ฮึ๊บบบ ” ผมออกแรงกอดรัดช่องท้องเธอแน่นกว่าเดิม “นี่เธอโอเครึยัง?? ” ผมถามย้ำอีกครั้ง “แอริน.. แอริน!!!” ผมเขย่าไหล่เรียกแอรินที่ยังคงนั่งนิ่ง แข็งทื่อ “คะ” ...ในที่สุด วิญญาณก็กลับมาเข้าร่างยัยเด็กต๊องอีกครั้ง “โอเคขึ้นรึยัง? ” ผมคิดว่าเธอคงกลืนมันลงไปแล้วโดยไม่รู้ตัว แอรินก็พยักหน้าตอบเบาๆ “หน้าเธอยังแดงอยู่เลยนะ ตอนนี้หายใจสะดวกมั้ย ? ” ผมถามคนในอ้อมแขน “เออ....คือ..ไม่ค่อยสะดวกค่ะ เพราะพี่คินกอดแน่นเกินไป”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD