@ต่างประเทศ
วันที่สามของการที่ได้มาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง จีด้าเปรียบเสมือนตัวคนเดียวในต่างประเทศ สาวน้อยกำสายกระเป๋าสะพายในมือแน่น มีจุดหมายปลายทางคือโรงพยาบาลที่พ่อเธอกำลังรักษาตัวอยู่
วันนี้บิดาต้องเข้ารับการผ่าตัดแล้ว สาวน้อยมีเพียงหัวใจดวงเดียวกับกำลังใจของคนทางบ้านที่ส่งมาให้เธอ
รถเข็นของผู้ป่วยถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดในยามสายของวัน จีด้าเห็นรอยยิ้มของผู้เป็นพ่อนั้นในรอบสุดท้าย ก่อนที่เธอจะเดินออกมานั่งรอที่ด้านหน้าของห้องผ่าตัดแทน กวาดสายตามองไปรอบๆ ก็เจอญาติผู้ป่วยคนอื่นๆ ที่มารอเหมือนกัน ผู้คนเหล่านั้นส่วนมากต่างมีผู้ติดตามมาด้วย สาวน้อยยิ้มให้กับตัวเอง เมื่อไหร่ที่พ่อเธอหายดีความอบอุ่นแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นกับเธอเหมือนกัน
ไบรอัน นายแพทย์หนุ่มหล่อชื่อดังของโรงพยาบาลติดหนึ่งในสิบ เชี่ยวชาญในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอด และวันนี้เขาเองมีตารางผ่าตัดในเวลาสิบโมงเช้า ผู้ป่วยจากประเทศไทยรายที่สิบตั้งแต่เคยทำงานมา เขาเดินมาหยุดลงที่หน้าห้องผ่าตัดแล้วไล่ดูเอกสารในมือ
"จีด้า.."
สาวน้อยค่อยๆ เงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเหมือนใครเรียกชื่อตัวเอง นายแพทย์ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้หน้ากากอนามัยสำหรับใช้ทางการแพทย์ สาวน้อยมองเขาไม่วางตากับรูปร่างที่สะดุดตา
คนที่ยืนดูเอกสารต่างๆ อยู่ในมือ เมื่อรู้ตัวว่าถูกมองก็เงยหน้าขึ้น เป็นจีด้าที่รีบหลุบตามองต่ำ เธอไม่ได้ตั้งใจจะมองเขานานขนาดนั้นแค่เหมือนว่า..เขาเรียกชื่อเธอ
ร่างสูงละสายตาออกจากใบหน้าหวานของสาวน้อยที่คาดว่าน่าจะเป็นคนเอเชีย ได้เวลาแล้วที่เขาต้องเข้าไปปฏิบัติงาน ความเป็นความตายขึ้นอยู่กับเขาและเหล่าแพทย์พยาบาล
@ห้องผ่าตัด
ไบรอันอยู่ในชุดสำหรับเตรียมพร้อมในห้องผ่าตัดแล้ว ไฟสว่างวาบพร้อมกับการทวนรายชื่อผู้เข้ารับการรักษาอีกครั้ง จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของเพื่อนแพทย์และพยาบาลในห้องนั้นๆ ที่มาร่วมด้วยช่วยกัน จำแนกตามหน้าที่งาน
จีด้าบีบมือตัวเองสลับกันไปมา สาวน้อยมองนาฬิกาข้อมือไปด้วย แสดงเวลาเพิ่งจะผ่านไปเพียงสามสิบนาที เหลืออีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งจากที่แพทย์ประจำตัวของพ่อเธอได้บอกกล่าวเอาไว้
"ขอให้พ่อปลอดภัยนะคะ" นี่คือประโยคที่ส่งผ่านห้องผ่าตัดตรงหน้า เธอรู้ว่าไม่มีใครได้ยินหรอก แต่ว่ามันก็เป็นประโยคปลอบใจตัวเอง ข้ามน้ำข้ามทะเลมาแถมค่ารักษาก็แสนแพง คราวนี้พ่อจะต้องหายจริงๆ แล้ว
"แม่กับน้องรออยู่ค่ะ"
@สองทุ่ม
"อ๊า.." ร่างสูงนอนแผ่หลาลงไปกับโซฟาในห้องพักอย่างหมดแรง เมื่อวันนี้ผ่าตัดคนไข้รายที่สามเสร็จแล้ว ไบรอันค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ เพราะความรู้สึกล้าตาสุดๆ แบบนี้ตลอดหลังจากการใช้สายตานานๆ ปรากฏความเหนื่อยล้าจากใบหน้าหล่อเหลาและความเครียดที่แผ่ออกมา
แต่คนไข้รายแรกที่เขาทำการรักษายอมรับว่าเครียดมากกว่าอื่นใด เขาไม่แน่ใจว่าอาจจะต้องผ่าตัดอีกรอบไหมเพราะตอนตรวจมันไม่เจอว่าลุกลาม พอได้เจอของจริงเขาและเพื่อนถึงกับมองหน้ากัน ได้แต่ภาวนาให้มันไม่เป็นไปมากกว่านี้ก่อนจะมีการให้คีโมครั้งแรกหลังจากผ่าตัด ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องเข้าห้องผ่าตัดอีกรอบ และงานที่ยากที่สุดก็คงมาถึงเมื่อต้องเลือกระหว่างความเป็นความตาย
เวลาที่ลำบากใจก็คือการที่ต้องบอกความจริงกับญาติผู้ป่วยให้ทราบ แล้วรอดูเอฟเฟกต์จากพวกเขาเหล่านั้น
........................................................................................
เอาตอนแรกมาเสิร์ฟก่อนค่า