สองพี่น้องนอนฟังเสียงดนตรีที่ดังมาจากในจวนท่ามกลางความมืด ทั้งยังมีเสียงเจื้อยแจ้วของอี้หานที่เล่านิทานที่ได้ฟังจากเฟิ่งเฟิ่งให้พี่ชายฟัง หากพี่ชายได้ฟังนิทานที่เฟิ่งเฟิ่งเล่าพร้อมกับเขาคงจะดีไม่น้อย ไม่เป็นไร เขาจะเล่าให้พี่ชายฟังเอง หนิงเฉิงนอนฟังน้องชายเล่านิทานให้ฟังเงียบ ๆ ไม่พูดอันใด หากแต่หัวใจเหมือนถูกโอบกอดจากเรือนนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งทุกคราที่ก้าวขามาเหยียบที่นี่โดยที่ไม่รู้ว่าเด็กน้อยจะพาเขาเล่นสิ่งใดหากแต่สิ่งที่เขามั่นใจนั่นก็คือเขาจะมีความสุข งานเลี้ยงจบลงไปแล้ว เสียงดนตรีเงียบลงเหลือเพียงเสียงเล่านิทานเจื้อยแจ้วที่เหมือนจะเบาและเชื่องช้าลงเรื่อย ๆ ไม่นานอี้หานก็ทานทนความง่วงงุนเอาไว้ไม่ไหวหลับใหลไปเสียก่อน คุณชายใหญ่ผู้เงียบขรึมยกยิ้มขึ้นยามที่มองใบหน้าซุกซนของน้องชายผ่านความมืด เพราะได้รับการฝึกมาตลอดหลายปี ความมืดมิดเพียงเท่านี้มิอาจบดบังภาพตรงหน้าแก่สายตาเขาได