“ฉันกับแม่ของแกไม่บังคับแกหรอก หากแกจะรักจะชอบใคร ฉันแค่คาดหวังให้แกแต่งงานกับคนที่ดีเท่านั้น แกรักใครชอบใคร ฉันกับแม่แกจะไปมีปัญญาห้ามอะไรได้” คำพูดของบิดาทำให้คุณธรรมนึกกระหยิ่มในใจ ไม่คิดว่าทุกอย่างจะง่ายแบบนี้ สงสัยท่านทั้งสองคงสำนึกได้ว่าไม่ควรบังคับเขาอีก เขากลับมาคราวนี้คงไม่อยากทำอะไรให้เขาโกรธเหมือนก่อน เพราะกลัวจะหนีไปเหมือนเมื่อสี่ปีก่อน
“เข้าไปในบ้านก่อนลูก ไปกราบคุณตากับคุณยายด้วย ท่านบ่นคิดถึงลูกแทบทุกวันเลยรู้ไหม” จันทร์ระวีพยักหน้าให้บุตรชายและแฟนสาวเดินตามเข้ามาในบ้าน โดยมีคนรับใช้เข้ามาหอบหิ้วกระเป๋าให้อย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับคุณตาคุณยาย” คุณธรรมคลานไปกราบที่ตักของตาและยาย ก่อนที่ท่านทั้งสองจะกอดรัดหลานชายคนเดียวเอาไว้แนบอก
“กลับมาสักทีนะตาคุณ ตากับยายคิดว่าจะไม่ได้เจอหลานเสียแล้ว ไปเรียนต่ออะไรไม่ยอมกลับมาเยี่ยมตากับยายบ้างเลย มันน่าน้อยใจนัก หรือไปติดแหม่มที่ไหน” ยายจันทร์ฉายพูดอย่างน้อยอกน้อยใจในตัวหลานชายยิ่งนัก
“ผมว่าไม่ใช่แหม่มที่ไหนหรอกคุณ แต่เป็นยัยหนูหน้าตาน่ารักคนนั้นต่างหากเล่า” ตาบุญพาหันไปส่งยิ้มให้ชญาณิศาที่นั่งอยู่อีกด้านของโซฟาชุดรับแขก
“ใครกันตาคุณ” จันทร์ฉายถามหลานชายอย่างสนใจ
“นี่คือชญาณิศาหรือเดียร์ครับคุณยาย เธอเป็นคนรักของผม” คุณธรรมรีบกล่าวแนะนำหญิงสาวทันที ชญาณิศายิ้มให้ตาและยายของชายหนุ่มแล้วไหว้ทั้งสองอย่างอ่อนน้อม
“อุ๊ย! ดีจังเลยลูก แสดงว่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ยายจะได้มีเหลนกับเค้าแล้วล่ะสิ ใช่ไหมตา” จันทร์ฉายหันไปถามสามีคู่ทุกข์คู่ยากด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ชญาณิศาก้มหน้าอย่างอายๆ เมื่อโดนแซวเสียแบบนั้น
“คุณตากับคุณยายไม่ว่าอะไรผมใช่ไหมครับ ถ้าผมจะคบกับเดียร์ในฐานะคู่รัก”
“ว่าอะไรกันล่ะ ยายกับตาน่ะยินดีเสียอีก หลานจะรักใครชอบใคร มันเป็นความสุขของหลาน ยายกับตาไม่ห้ามหรอกจ้ะ ถ้าหลานมีความสุข ยายกับตาก็มีความสุขไปด้วย หลานรักใคร เราก็รักคนที่หลานรักเหมือนๆ กัน”
คุณธรรมค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อยเมื่อไม่ได้โดนบังคับอย่างที่เขาคิด บิดาและมารดาไม่ได้มีท่าทีบีบบังคับแม้แต่น้อย แต่เขานึกแปลกใจว่าตั้งแต่มายังไม่เห็นยัยเด็กขี้เหร่นั่นเลย สงสัยไม่กล้าสู้หน้าที่เคยทำความผิดเอาไว้ ป่านนี้คงจะอ้วนและหน้าตาอัปลักษณ์กว่าตอนเด็กๆ แค่คิดเขาก็ขนลุกอย่างขยะแขยง
“มาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนอาบน้ำอาบท่าให้สบายก่อนนะลูก แล้วเดี๋ยวค่อยมาทานข้าวทานปลากัน” จันทร์ฉายบอกหลานชายอย่างเอ็นดู
“ครับ” คุณธรรมรับคำผู้เป็นยาย เสี้ยวหนึ่งของความคิดอดนึกถึงยัยเด็กหน้าตาอัปลักษณ์นั้นอีกครั้ง ทำไมถึงไม่มีใครพูดถึงภัทรวนันต์เลยแม้แต่น้อย แต่ดีแล้วไม่ใช่เหรอ เขาจะได้ไม่ต้องอึดอัดที่จะต้องตอบคำถามใดๆ กับใครเรื่องเด็กนั่น บิดามารดาเองไม่พูดถึงเลยเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ในจดหมายเขียนไปว่าถ้าเขาไม่กลับภายในหนึ่งเดือนจะยกทรัพย์สมบัติให้เด็กนั่น แต่พอเขากลับมาจริงๆ ท่านกลับไม่เอ่ย หรือท่านเพียงแค่จะขู่เท่านั้น คงเป็นแบบนั้น เขาคิดถูกที่พาชญาณิศากลับมาด้วยและกล่าวอ้างว่าเป็นแฟน บุพการีคงจะหยุดความคิดที่จะบังคับกันอีก คนเกลียดการบังคับคิดเองเออเองในใจ
คุณธรรมเข้าพักที่บ้านของตัวเอง ส่วนชญาณิศานั้นพักที่ตึกใหญ่ของบิดามารดา จะให้พักกับคุณธรรมก็ดูจะไม่งามนัก
ไม่น่าเชื่อ
“ขอบคุณพี่นุกับนิมากนะคะที่มาส่งพัด”
ภัทรวนันต์กล่าวขอบคุณเพื่อนสาวคนสนิท ก่อนจะยกมือไหว้พี่ชายของเพื่อนรัก ตนุลงมาเปิดประตูให้อย่างแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ส่วนใหญ่เธอจะเดินทางไปเรียนกับอัครเดช เขาเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนที่เธอเรียนอยู่ หรือไม่ก็ลุงนัน คนขับรถที่บ้านไปรับส่งหากคนอื่นติดธุระ
“ไม่เป็นไรจ้ะ พี่นุน่ะยิ่งกว่าเต็มใจ” ติยาพรแอบแซวพี่ชายที่อมยิ้มอยู่อีกด้าน
ภัทรวนันต์เข้าใจความหมายของเพื่อน เธอเองไม่อยากให้ความหวังกับตนุ เพราะว่าอยากให้อีกฝ่ายเจอผู้หญิงที่ดีกว่าตน ตนเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้า อาศัยเขาอยู่แค่นั้น
เมื่อเห็นรถของตนุขับออกไปแล้ว จึงหมุนกายเพื่อเดินเข้าบ้าน แล้วชนกับร่างสูงของใครบางคน
“อุ๊ย!” เสียงอุทานมาพร้อมกับดวงตาสวยที่เบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่คนที่ถึงกับตกตะลึงคือคุณธรรม เขาโอบรัดร่างอรชรอ้อนแอ้นไว้ในอ้อมแขน กลิ่นกายหอมจรุงทำให้เผลอสูดดมแรงลึก ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ดวงตากลมโตสดใสดั่งดวงดาวบนท้องฟ้า เค้าโครงหน้าน่ารักสะอาดหมดจด ผิวกายขาวผุดผ่องเนียนละเอียด เรือนร่างกลมกลึงนุ่มนิ่มเรียบตึง ยิ่งริมฝีปากสีชมพูสดน่าสัมผัสทำให้เขาจ้องมองตาเป็นประกาย
“ปะ... ปล่อยค่ะ” ภัทรวนันต์ผลักอกของคุณธรรมออกห่าง เบนหน้าหนีเมื่อเขาทำท่าจะก้มลงมาชิดใบหน้าเธอ เขากักเธอเอาไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย
“เธอเป็นใครกัน” เขาถามเหมือนคนละเมอ ไม่คิดว่าที่ไร่ของเขาจะมีสาวน้อยใส่ชุดนักเรียนม. ปลาย รูปร่างหน้าตาน่ารักแบบนี้ด้วย รู้แบบนี้เขากลับมาตั้งนานแล้ว
“อ้าว... ตาคุณ ลูกทำอะไรน้องจ๊ะนั่น” จันทร์ระวีมองอย่างตกใจเมื่อเห็นบุตรชายกอดรัดร่างของภัทรวนันต์แนบอก แถมยังก้มลงไปทำท่าจะจูบเสียอีกด้วย
“อุ๊ย!” ภัทรวนันต์ตกใจผลักร่างสูงออกห่าง ก้มหน้างุด ผิวแก้มเป็นจุดแดงเรื่อ
“น้องไหนครับแม่” คุณธรรมหันไปถามมารดาอย่างงุนงง และจำต้องปล่อยร่างหอมกรุ่นในอ้อมแขนอย่างแสนเสียดาย จะว่ามารดาของเขามีลูกโตขนาดนี้ก็เป็นไปไม่ได้ เขาเองจากบ้านเกิดเมืองนอนไปแค่สี่ปีเท่านั้น แล้วเขาจะมีน้องสาวขึ้นมาได้ยังไง
“พัดยังไงล่ะลูก อะไรกัน ไปแค่สี่ปีลืมน้องไปได้ยังไงกันจ๊ะ” จันทร์ระวีเดินไปโอบกอดร่างเล็กเอาไว้แนบอก ภัทรวนันต์หลบหลังของผู้มีพระคุณอย่างหวาดกลัวเมื่อเห็นสายตาแปลกๆ ของคุณธรรมที่กำลังมองเธอเหมือนจะกลืนกิน
“ยัยเด็กหน้าตาอัปลักษณ์นั่นเหรอครับ เป็นไปไม่ได้ คุณแม่ต้องโกหกผมแน่ๆ” คุณธรรมแทบสำลักขณะเอ่ยถามมารดาเหมือนไม่เชื่อ
“แม่แกไม่ได้โกหกหรอกเจ้าคุณ นี่คือหนูพัด ลูกสาวอีกคนของฉันและแม่ของแก” คุณากรเดินมาลูบศีรษะของสาวน้อยวัยสิบแปดอย่างเอ็นดู หญิงสาวยิ้มให้ผู้มีพระคุณ ยืนสงบนิ่งอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผมไม่เคยอยากได้ยัยเด็กคนนี้เป็นน้องสักหน่อย” คุณธรรมตะโกนอย่างหงุดหงิด ใช่! ในอดีตเขาไม่เคยต้องการภัทรวนันต์เป็นน้องสาวอีกคน แต่เหตุผลมันต่างกันตรงที่ตอนนี้เขาก็ไม่อยากได้เธอเป็นน้อง แต่เขาอยากได้เธอเป็นเมียต่างหากเล่า ใครจะคิดว่ายัยเด็กหน้าตาอัปลักษณ์นี่โตขึ้นจะสวยขนาดนี้ แต่จะให้เขาพูดออกไปตรงๆ ได้ยังไง บิดามารดามิหัวเราะเขาแย่เหรอนี่ ประกาศกร้าวไปว่าไม่มีวันต้องการเด็กนี่ แล้วจะมากลับคำให้ใครว่าเอาได้อย่างไรกัน
ภัทรวนันต์ก้มหน้างุดอย่างน้อยอกน้อยใจ ไม่ว่าจะกี่ปีๆ เขายังคงเกลียดชังและไม่ชอบขี้หน้าเธออยู่ดี เขาจะจงเกลียดจงชังเธอไปถึงไหนกัน พูดแล้วน้ำตาพานจะไหล หลายปีมานี้ที่คุณธรรมหนีไปอยู่ต่างประเทศเพราะเหตุการณ์ครานั้น ทำให้เธอโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง
ถ้าไม่เพราะเธอช่วยชีวิตลลนาที่จมน้ำเนื่องจากเป็นตะคริวเอาไว้ ทุกคนก็คงยังไม่รู้ว่าจริงๆ คนที่ใส่ร้ายเธอเป็นลลนาเอง แม้ลลนาจะอ่อนลงมากเนื่องจากซาบซึ้งในบุญคุณที่เธอช่วยชีวิต แต่ก็ไม่ได้พิสมัยเธอสักเท่าไหร่ ภัทรวนันต์รู้ตัวดี แถมยังยืนยันกับเธอซ้ำๆ ว่าคุณธรรมกลับมาเมื่อไหร่ ลลนาจะเป็นคุณนายเจ้าของไร่บารมีเคียงคู่กับคุณธรรม
“ช่างแก มันเรื่องของแก” คุณากรโอบกอดร่างเล็กของภัทรวนันต์ที่รักและเอ็นดูเหมือนบุตรสาวแท้ๆ เอาไว้ จันทร์ระวีเองก็เช่นเดียวกัน นางนึกเห็นใจบุตรสาวของเพื่อนรักยิ่งนัก สองสามีภรรยาคิดเอาว่าคุณธรรมรังเกียจเด็กสาวเหมือนเดิม ความจริงแล้วคุณธรรมไม่ได้รังเกียจ แต่หงุดหงิดตัวเองที่เคยประกาศกร้าวให้ใครต่อใครรับรู้ว่าเขาเกลียดยัยเด็กนั่น แล้วเขาจะเข้าหาเธอได้อย่างไรกัน จะไปทำความสนิทสนมหรือสานสัมพันธ์ได้ยังไง มันน่าเจ็บใจนัก โมโหก็พาลไปทั่ว