ครั้งแรกก็แซ่บเลย

1498 Words
"เริ่มกันเลยนะ" ปืนพยักหน้ารับ ฉันจึงค่อยๆ กดสะโพกลงไปช้าๆ มือทั้งสองข้างยึดไหล่หนาไว้กันตก ก่อนจะต้องเบ้หน้าเมื่อท่อนลำใหญ่ชอนไชเข้ามาจนมิดลำ "พี่รินครับ" ปืนเองก็ดูทรมานไม่น้อยเมื่อถูกโพรงถ้ำอ้าอม เห็นดังนั้นจึงค่อยๆ ขยับสะโพกขึ้นลงอย่างเนิบนาบ ย้ายมือจากไหล่หนามาวางที่หน้าท้องลอนสวย จากจังหวะเนิบนาบค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเร่าร้อน ฉันแหงนหน้าหลับตาพริ้มกระแทกขึ้นลงอย่างบ้าคลั่งเมื่อรู้สึกเสียวซ่านแทบขาดใจ ผมยาวสยายไปมายามที่ฉันขยับตัว ปืนส่งมือมาจับที่เอวคอดช่วยพยุงกันอีกแรง ก่อนฉกริมฝีปากลงมาที่เต้าอวบพร้อมดูดดึงอย่างมันเขี้ยว ส่งมือขยุ้มผมนุ่มระบายความซ่านเสียว ปืนสวนเอวสอบขึ้นใส่กันเป็นระยะจนต้องกรีดร้องด้วยรู้สึกจุก ก็ลูกชายปืนทั้งใหญ่ทั้งยาวสวนมาทีเล่นเอาสั่นสะท้านไปทั้งตัว "อ๊ะ! ปืน...เบา" ตอนนี้ฉันถูกคนตัวสูงจับนอนคว่ำ เขายกสะโพกกันขึ้นเล็กน้อยก่อนสอดเสยแท่งเอ็นใหญ่เข้ามาอีกครั้ง ใช้แขนยืดตัวขึ้นอยู่ในท่าคลานเข่า เอี้ยวตัวไปด้านหลังมองภาพชายหนุ่มร่างกายกำยำ กำลังซอยสะโพกเชิดหน้าหลับตาพริ้มราวกับคนตกอยู่ในภวังค์สวาท เขาอัดกระแทกใส่ฉันไม่เว้นช่วง ทำได้แค่ครางฮือและกรีดร้องด้วยความสุขสม หลังจากผ่านช่วงเวลาอันเร่าร้อนเมื่อชั่วโมงก่อนมาได้ ตอนนี้ถึงกับต้องเอนตัวพิงกับอกของปืนด้วยความเหนื่อยล้า โดยมีอ้อมแขนแกร่งกอดประคองไว้ไม่ยอมห่าง บางทีเขาก็จับมือขึ้นจูบซ้ำๆ ราวกับมันเขี้ยวกันนักหนา "ที่ทำเมื่อกี้เจ็บมั้ยครับ" "ไม่เจ็บ มันดีมาก" แหงนหน้าขึ้นจูบอีกครั้งด้วยความเอ็นดู ปืนเป็นเด็กดีมาก เค้าจะคอยถามตลอดว่าทำแบบนี้ดีมั้ย เขาทำแรงไปรึเปล่า ซึ่งมันน่ารักจนอดใจไม่ไหวที่จะกดจูบลงไปซ้ำๆ "เรื่องเมื่อกี้ปืนชอบมั้ย" ถอนจูบออกก่อนเอ่ยถามเรื่องที่อยากรู้ ปืนบอกว่าเขาพึ่งเคยทำเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมาไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ซึ่งมันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากว่าเขาไม่เคยมาก่อน เพราะการกระทำที่พลิ้วไหวและร้อนแรงมันห่างไกลจากคำว่าไม่เคยไปมากโขเลยทีเดียว "ชอบครับ ชอบมากๆ เลย" เอ่ยตอบเสียงพร่าพร้อมยื่นหน้ามาคลอเคลียตามลำคอไม่หยุด มือก็ปัดป่ายไปมาทั่วทั้งตัว เขาจับโน่นจับนี่ไม่หยุดราวกับสำรวจกัน เหมือนเด็กที่กำลังเห่อของเล่นใหม่ไม่มีผิด "อือ...ปืน" บิดตัวไปมาเมื่อมือซนจับโดนจุดอ่อนไหว เขาใช้นิ้วเรียวยาวแหย่แยงเข้าไปด้านใน จ้วงลึกจนถึงผนังที่อยู่ในสุด สะโพกลอยหวือตามการขยับเข้าออกของนิ้วยาว ไหนบอกไม่เคยมาก่อน แต่ทำไมถึงได้เก่งขนาดนี้กัน "ปืน ปืนค่ะ อ๊า" ร้องเสียงหลงก่อนเกร็งกระตุกในอ้อมกอดร่างสูงอีกครั้ง หอบหายใจกระชั้นชิดราวกับวิ่งทางไกลมาหลายสิบกิโล "ผมอยากอยู่กับพี่รินแบบนี้นานๆ จัง" ได้ยินเสียงเด็กออดอ้อนก็รู้สึกใจอ่อนยวบ อยากอยู่ต่อกับเขาทั้งคืน แต่ถ้าทำแบบนั้นคุณพ่อคงได้ตามมาแหกอกถึงที่แน่ "พี่ก็อยากอยู่กับปืนต่อ แต่ถ้าไม่กลับบ้านพี่ต้องโดนพ่อดุแน่ ๆ" "ท่านหวงหรอครับ" "ก็คงงั้นมั้ง" หัวเราะน้อยๆ ออกมากับคำว่าหวง คุณพ่อคงไม่หวงฉันหรอก ถ้าบอกว่าห่วงก็คงจะใช่ แต่ไม่ใช่ห่วงตัวฉันนะ ห่วงหน้าตาบริษัทต่างหาก "มีลูกสาวสวยขนาดนี้ เป็นผมก็หวงครับ" "ปากหวาน" บีบจมูกโด่งอย่างมันเขี้ยว ผุดตัวลุกแต่งตัวให้เข้าที่ เพราะครามไลน์มาเตือนว่าถึงเวลาที่ต้องกลับกันแล้ว "ผมขอถามได้มั้ยครับว่าพี่ครามเค้าเป็นใคร" "หึงหรอ" ฉันที่เห็นปืนรอคำตอบตาแป๋วก็อดยิ้มไม่ได้ เดินเข้าไปนั่งลงบนตักแกร่งใช้มือคล้องคอเขาไว้อีกครั้ง "พี่กับครามเป็นพี่น้องกัน ถึงจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ แต่เราก็โตมาด้วยกัน อีกอย่างครามก็เป็นเลขาให้กับพี่ เป็นคนที่พี่สนิทและไว้ใจที่สุด ความสัมพันธ์ของเราเป็นแบบนั้นแหละ ไม่ต้องหึงนะเข้าใจมั้ย" "ครับ ผมเข้าใจแล้ว" "ดีมากเด็กน้อยของพี่ริน" บีบแก้มสากไปหนึ่งทีแถมจุ๊บปากเป็นของรางวัล ก่อนหยัดตัวลุกขึ้นยืนหยิบกระเป๋าคล้องแขนเตรียมตัวลงไปข้างล่าง ส่วนปืนเองก็กำลังแต่งตัวให้เรียบร้อยเช่นเดียวกัน "ผมขอเดินไปส่งพี่รินที่รถได้มั้ยครับ" "ทำไมจะไม่ได้ละ" ยื่นมือไปหาปืนก่อนเราจะเดินออกจากห้องมาพร้อมกัน ฉันยังไม่ได้ลงไปข้างล่างทันทีแต่ส่งข้อความบอกครามให้เอารถมาจอดรอที่หน้าผับ เดี๋ยวจะแวะไปหาเจ้าของผับก่อนกลับสักหน่อย ก๊อก ก๊อก "เชิญครับ" "จะกลับแล้ว" "เออ...กลับๆ ไปเถอะ แล้วก็ปล่อยมือจากเด็กร้านกูด้วย" ไวท์กอดอกมองฉันกับปืนสลับกันไปมาด้วยสายตาเอือมระอา "อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย ไม่งั้นเจอดีแน่" สั่งเพื่อนด้วยเสียงจริงจัง พร้อมกับชี้หน้าคาดโทษไปหนึ่งที "สั่งเป็นแม่กูเลยนะ" "กูไม่เป็นหรอก สงสารตัวเองที่มีลูกแบบมึง" เบะปากให้มันไปหนึ่งทีก่อนควงแขนปืนเดินออกมา ไม่สนใจเสียงด่าที่ดังตามหลังมาให้ได้ยิน "พี่รินกับพี่ไวท์ดูสนิทกันมากเลยนะครับ" "ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มอปลาย ไม่สนิทยังไงไหว" ฉัน คราม พลอยใส แล้วก็ไวท์เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ขึ้นมอปลาย นี่ก็ผ่านมาสิบปีได้แล้วมั่ง ไม่แปลกที่พวกเราจะสนิทกัน "พี่ไปแล้วนะ ไว้จะโทรหาบ่อยๆ" "ถ้าผมจะขอโทรหาบ้างได้มั้ยครับ" คนตัวสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "ได้สิครับ แต่ถ้าโทรมาเวลางานพี่อาจจะไม่ได้รับนะ" "เข้าใจครับ" "งั้นพี่ไปจริงๆ แล้วนะ ปืนก็กลับบ้านดีๆ ถึงแล้วโทรบอกพี่ด้วยหรือไม่ส่งข้อความมาก็ได้" "รับทราบครับ" ยืดตัวจุ๊บแก้มคนตัวสูงฟอดใหญ่ โบกมือให้เขาอีกครั้งก่อนเดินขึ้นรถที่จอดรออยู่ "จริงจังแค่ไหนครับ" รถวิ่งออกจากผับได้ไม่นาน คนที่เอาแต่เงียบก็เอ่ยถามขึ้น "ยังไม่รู้ ต้องดูไปเรื่อย ๆ ก่อน" พึ่งรู้จักกันไม่กี่วันฉันยังให้คำตอบไม่ได้หรอกว่าจะจริงจังแค่ไหน รู้แค่ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันดีแค่นั้นก็พอ ฉันไม่ใช่คนวาดฝันว่าอนาคตต้องเป็นแบบนั้น หรือพรุ่งนี้ต้องเป็นแบบนี้ ฉันชอบอยู่กับปัจจุบันมากกว่า "ถ้าคุณรินอยากคุยต่อก็ไม่ควรควงกันออกมาแบบนั้นนะครับ เผื่อคุณท่านส่งคนมาคอยดูเรื่องจะยุ่ง" "พ่อคงไม่ว่างขนาดส่งคนมาคอยตามกันหรอกมั่ง" ถ้าทำถึงขนาดนั้นฉันไม่อยู่เฉยแน่ แค่โดนด่าเวลามาเที่ยวก็เหลือจะทนอยู่แล้ว อย่าถึงขั้นส่งคนมาคอยตามดูกันเลยขอร้องล่ะ "ระวังไว้ก่อนดีกว่าครับ เพราะถ้าคุณท่านรู้ไม่ใช่แค่คุณรินที่โดนดุ แต่เด็กคนนั้นก็จะเดือดร้อนไปด้วย" "โอเคๆ เข้าใจแล้ว คราวหลังจะระวังตัวให้มากกว่านี้" "ครับ" เมื่อรับปากที่จะทำตามครามก็กลับไปสนใจการขับรถต่อ ฉันเข้าใจในความหวังดีของเขานะ ไม่รู้สึกโกรธสักนิดที่อีกฝ่ายพูดเหมือนสั่งสอนกัน ก็อย่างที่ครามบอกถ้าคุณพ่อรู้ว่าฉันคุยกับปืนอยู่คงสั่งให้เลิกคุยอย่างไม่ต้องสงสัย ท่านอยากให้คบคนที่สามารถเอื้อผลประโยชน์หรือส่งเสริมธุรกิจได้มากกว่าที่จะคบคนทั่ว ๆ ไป ซึ่งฉันไม่ชอบพวกนักธุรกิจเลยสักนิดเพราะมีแต่คนที่เห็นผลประโยชน์เป็นตัวตั้งกันทั้งนั้น ไม่มีใครจริงใจที่จะคบกันจากใจจริงเลยสักคน เพราะฉะนั้นเวลาคบใครที่ไม่ได้เป็นคนมีชื่อเสียงหรือไม่ได้อยู่ในแวดวงธุรกิจฉันจึงต้องปิดให้มิดห้ามให้คุณพ่อรู้เด็ดขาด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD