Boozy Pub.
"พึ่งลงเครื่องหรอ"
"อือ" เอนหลังพิงโซฟาก่อนอืออาตอบเพื่อนเสียงเหนื่อย
"ไม่กลับบ้านก่อนเดี๋ยวก็โดนคุณลุงว่าเอาอีก"
"กลับหรือไม่กลับก็โดนเหมือนเดิมนั่นแหละ" ถ้าคนตั้งใจจะด่าถึงยังไงก็ด่าอยู่ดี
"มึงก็ยอมๆ คุณลุงบ้างเหอะ ไม่ใช่จะงัดกับท่านไปซะทุกเรื่อง"
"อันไหนยอมได้ก็ยอม แต่บางครั้งพ่อก็ขอมากไป กูไม่ใช่เครื่องจักรที่จะทำตามคำสั่งได้ตลอดเวลา คนเราก็อยากผ่อนคลายเวลาเครียดบ้าง กะแค่เที่ยวผับดื่มเหล้ามันจะอะไรนักหนาคนอื่นก็ทำกัน แต่พอเป็นกูพ่อกลับมองว่ามันไม่ดี"
"ท่านคงเป็นห่วงแหละ ลูกสาวคนเดียวนี่"
"ห่วงกูหรือห่วงภาพลักษณ์บริษัท"
"มึงก็นะ" ไวท์ส่ายหน้าเอือมๆ เมื่อฉันต่อปากต่อคำไม่หยุด ที่บอกว่าพ่อห่วงภาพลักษณ์บริษัทมากกว่าฉันที่เป็นลูกไม่เกินจริงเลย อะไรที่จะกระทบกับชื่อเสียงบริษัทท่านจะซีเรียสมาก ซีเรียสขนาดที่ตอนนี้เริ่มเข้ามาแทรกแซงการใช้ชีวิตของฉันแล้ว ท่านอยากให้เลิกเที่ยวกลางคืนเพราะกลัวคนอื่นจะมองไม่ดี ซึ่งอีกไม่นานฉันต้องขึ้นรับตำแหน่งประธานบริษัท ดังนั้นภาพลักษณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญซึ่งฉันก็เข้าใจในจุดนี้ แต่บางทีเหนื่อยจากงานก็แค่อยากจะออกมาสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง ใช่ว่ามาแล้วทำตัวขี้เหล้าเมายาสักหน่อย
"เรียกเด็กให้หน่อยไวท์ ให้ครามด้วย" เอ่ยบอกเพื่อนเมื่อรู้สึกอารมณ์เริ่มบูด พูดเรื่องคุณพ่อขึ้นมาทีไรปวดหัวทุกที
"ไม่เป็นไรครับคุณริน ผมดูแลตัวเองดีกว่า"
"มาเที่ยวทั้งทีให้น้อง ๆ ดูแลแหละดีแล้วจะเหนื่อยทำเองทำไม" ปรายตามองคนที่นั่งอยู่ข้างกัน มาเที่ยวทั้งที่จะเหนื่อยชงเหล้าเองทำไม
"ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ คุณรินตามสบายเลย"
"ดื้อจริง" จิปากอย่างขัดใจเมื่ออีกคนเอาแต่ปฏิเสธ
"มึงจะยัดเยียดครามทำไม ก็รู้นี่ว่ามันไม่ชอบ"
"ก็อยากให้เพื่อนมีสาวๆ มาดูแลบ้างผิดตรงไหน"
"ผิดที่คนนั้นไม่ใช่พลอยใสไงล่ะ"
"อย่างนี้นี่เอง" พยักหน้าเป็นเชิงรู้กัน คนที่ถูกพาดพิงมีสีหน้าเลิกลักเล็กน้อยแต่ก็ยังทำนิ่ง
"คุณไวท์อย่าพูดอะไรมั่วๆ สิครับ"
"มั่วที่ไหน เรื่องจริงทั้งนั้น" ครามพ่นลมหายใจออกมาน้อยๆ เมื่อไวท์ยังเอ่ยแซวไม่หยุด เห็นดังนั้นก็อดสงสารไม่ได้จึงต้องเอ่ยห้าม ก่อนที่ครามจะเขินไปมากกว่านี้
"พอๆ เลิกแซวเลขากูได้แล้ว ตกลงไม่ให้สาวๆ มาดูแลแน่นะคราม"
"ครับ"
"งั้นจัดมาแค่คนเดียวก็พอ"
"พอดีมีน้องพึ่งมาใหม่ มึงสนใจมั้ย?"
"ถึงรอบที่จะรับเด็กใหม่แล้วหรอ" ถ้าจำไม่ผิดร้านไอ้ไวท์ยังไม่ถึงรอบที่จะรับพนักงานใหม่นี่นา ทำไมถึงมีน้องใหม่โผล่มาได้ละ
"ที่จริงก็ยังไม่ถึงหรอก แต่ไอ้ธันมันลาออกก็เลยต้องรับคนใหม่เข้ามา"
"ทำไมนายธันลาออก มึงใช้งานน้องมันหนักใช่มั้ย" หรี่ตาถามเชิงจับผิด แต่ก็ไม่คิดว่ามันใช้งานน้องหนักอย่างที่พูดหรอก ก็ไวท์มันดูแลพนักงานดีจะตาย ใครเข้ามาทำงานที่นี่ส่วนมากก็อยู่กันยาวๆ เงินดีสวัสดิการเริ่ด
"ไม่ใช่เว้ย! มันมีแฟนก็เลยลาออก" ไวท์ถอนหายใจเซ็งๆ เมื่อโดนใส่ร้าย
"เหตุผลก็ฟังขึ้นอยู่ ใครมันจะชอบให้แฟนมาดูแลคนอื่น เป็นนี่ก็คงไม่ยอมเหมือนกัน" ถ้าเป็นฉันก็คงไม่ยอมปล่อยให้แฟนมาทำงานคอยบริการคนอื่นหรอก ถึงจะรู้ว่ามันคืองาน แต่ก็คงอดหวงไม่ได้อยู่ดี
"สรุปว่าไง ลองให้น้องใหม่ดูแลหน่อยมั้ย"
"เออๆ เอามาเถอะแค่ชงเหล้าถูกปากก็พอ"
"ไม่ต้องห่วงเทรนเองกับมือ แต่นี่คือคำสั่ง! มึงห้ามเขมือบเด็กร้านกูนะไอ้ริน ครามมึงดูแลเจ้านายตัวเองด้วยล่ะ" ประโยคแรกพูดกับฉันสีหน้าจริงจัง ก่อนจะหันไปกำชับครามอีกคน
"คนทั้งคนกูจะเขมือบได้ไง" นี่คนนะเว้ยไม่ใช่งูเหลือม!
"ใครจะไปรู้" ยัง ยังมาลอยหน้าลอยตาอีก ในขณะที่กำลังถลึงตาใส่ไอ้ไวท์ คนที่นั่งข้างกันก็พลันหัวเราะออกมา
"ตลกหรอคราม"
"เปล่าครับ" ปากบอกว่าเปล่า แต่หน้านี่ระรื่นเชียวนะพ่อคุณ
"เดี๋ยวบอกน้องมันเข้ามานะ เอาอะไรเพิ่มรึเปล่า" เมื่อล้อกันจนพอใจไวท์ก็ตั้งท่าลุก ไม่ลืมถามกันว่าอยากได้อะไรเพิ่มมั้ย แสนดีที่หนึ่งจริงๆ ถึงจะกวนตีนไปนิดก็เถอะ
"ไม่ล่ะ ครามเอาอะไรเพิ่มอีกมั้ย"
"แค่นี้ก็พอแล้วครับ"
"ตามนั้น"
"เคๆ" ไวท์พยักหน้ารับก่อนเดินออกไป ทั้งห้องจึงเหลือฉันกับครามแค่สองคน
Rrrr.
"ไม่รับโทรศัพท์หน่อยหรอครับ"
"ก็คงเป็นพ่อนั่นแหละ" ดึกขนาดนี้คงไม่มีใครโทรหาฉันหรอกนอกจากคุณพ่อที่โทรตามกลับบ้าน
"ถ้าคุณรินไม่รับสาย ท่านจะเป็นห่วงเอาได้นะครับ"
"ปล่อยไปเถอะ" สายถูกตัดไปในที่สุด แต่ไม่ถึงสามวิเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นเครื่องของครามบ้างที่มีสายเรียกเข้า
"ผมขอตัวออกไปรับโทรศัพท์คุณท่านก่อนนะครับ"
"เค" โทรมาแล้วฉันไม่รับสายก็เลยกดดันโดยการโทรหาครามสินะ ไม่รู้ว่าท่านจะอะไรกับพวกเรากันนักกันหนา
ก๊อก ก๊อก
"เชิญค่ะ" ประตูถูกดันเข้ามาพร้อมกับใครบางคน ฉันมองเท้าคู่นั้นที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ มองขาเรียวยาวที่ก้าวย่างอย่างเป็นจังหวะ เลื่อนสายตาไปยังลำตัวยาวไหล่กว้างผาย ลำคอหนาที่เห็นลูกกระเดือกเด่นชัดเวลาที่เขากลืนน้ำลาย ก่อนสายตาจะหยุดค้างอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังส่งยิ้มน้อยๆ มาให้
"สวัสดีครับ ผมปืน"
"สวัสดีครับ นั่งสิ" กะพริบตาหนึ่งครั้งเรียกสถิติเมื่อได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยแนะนำตัว ผายมือให้อีกฝ่ายนั่งลงข้างๆ
"ให้ผมจัดการเลยมั้ยครับ"
พยักหน้าตอบตกลง ก่อนคนตัวสูงจะเริ่มลงมือชงเหล้า ฉันมองตามการเคลื่อนไหวของเขาไม่ล่ะ ยิ่งตอนที่อีกฝ่ายยื่นแก้วเหล้ามาตรงหน้าด้วยมือที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดยิ่งทำให้ล่ะสายตาไปไหนไม่ได้ กว่าจะยื่นมือไปรับแก้วใบนั่นเวลาก็ผ่านไปเกือบห้าวินาที
ฉันยกเหล้าขึ้นจิบละเลียดดื่มทีละนิดซึมซับรสชาติขมปนหวานให้ไหลผ่านลำคอลงไปช้าๆ เอนหลังหลับตาพริ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อร่างกายได้สัมผัสแอลกอฮอล์ ก่อนจะรับรู้ได้ถึงการถูกจับจับจ้องโดยใครสักคน ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าคนคนนั้นคือใคร ก็ในห้องนี้มีกันอยู่แค่สองคนนี่นา
"มองพี่ทำไมครับ"
"ผม..." คนถูกจับได้มีสีหน้าเลิกลัก เขาลูบท้ายทอยแก้เก้ออย่างทำตัวไม่ถูก ยิ่งเห็นท่าทางไปไม่เป็นแบบนั้นมันทำให้รู้สึกอยากแกล้ง โดยการขยับตัวเข้าไปใกล้อีกนิด แล้วยื่นหน้าเอ่ยถามใกล้ๆ อีกครั้ง
"พี่ถามว่ามองพี่ทำไมฮึ" ปืนมีสีหน้าตกใจเมื่อฉันยื่นหน้าเข้าใกล้ ตอนนี้เขาคงกำลังกลั้นหายใจเพราะไม่รู้สึกถึงลมที่ถูกพ่นออกมาเลยสักนิด เห็นแบบนั้นยิ่งขยับเข้าไปใกล้ยิ่งกว่าเดิม ตอนนี้ใบหน้าเราสองคนใกล้กันมาก ใกล้ชนิดที่ว่าคงมีเพียงอากาศเท่านั้นที่สามารถผ่านไปได้ ยิ่งได้ดูใกล้ๆ แบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าตาเขาสวยมาก มันเป็นสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำสนิท ขนตางอนยาวราวกับผู้หญิง ส่วนริมฝีปากที่เจ้าตัวกำลังกัดด้วยความประหม่าก็ดูนุ่มนิ่มน่าสัมผัส
"มีแฟนรึเปล่า"
"มะ ไม่มีครับ"
"ดี" จบคำนั้นฉันก็แตะจูบลงไปทันที ปากเขานุ่มนิ่มอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ล็อกใบหน้าคมเอาไว้ด้วยสองมือ ดูดดึงริมฝีปากหยักอย่างหยอกเอิน "โกรธรึเปล่าที่พี่จูบเรา" ถอยห่างออกมาเล็กน้อยก่อนเอ่ยถาม ขณะที่พูดริมฝีปากก็ปัดป่ายกันไปมา
"ไม่ครับ" เมื่อได้รับคำตอบที่ถูกใจจึงก้มหน้าฉกฉวยริมฝีปากหยักอีกครั้ง คราวนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากอีกคน มือที่เคยวางอยู่ข้างลำตัวก็ขยับขึ้นมาวางอยู่ที่เอวคอด ฉันใช้แขนคล้องลำคอหนาเอาไว้ก่อนขยับขึ้นคร่อมตักแกร่งในเวลาต่อมา เสียงจูบดังจ๊วบจ๊าบไม่หยุด ตอนนี้รู้สึกตัวเองมึนเมาทั้งที่พึ่งดื่มเหล้าไปได้แค่แก้วเดียว
ผลั๊วะ!
"เออ...ถึงเวลากลับบ้านแล้วครับ" คนที่พึ่งเปิดประตูเข้ามารีบผินหน้าไปทางอื่น ก่อนเอ่ยถึงจุดประสงค์ที่เขาพรวดพราดเข้ามา
"เดี๋ยวตามลงไป" มองไปยังหน้าประตูที่มีเลขาของตัวเองยืนอยู่เล็กน้อย ก่อนบอกให้เขาลงไปรอที่รถ แต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินจากไปก็ไม่วายหันมากำชับอีกครั้ง
"แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องด้วยนะครับ"
"รู้แล้วน่า" พ่นลมหายใจออกมาอย่างขัดใจเมื่อโดนขัดจังหวะ แต่ถึงอย่างนั้นก็เลื้อยตัวลงจากตักแกร่ง ดึงกระโปรงที่เลื่อนขึ้นเกือบครึ่งหน้าขาลงมาที่เดิม
"จะกลับแล้วหรอครับ"
"ครับ...พี่ต้องกลับแล้ว" ปืนพยักหน้าเข้าใจก่อนส่งยิ้มน่ารักมาให้
"พี่ขอโทษเรากับเรื่องก่อนหน้านี้ด้วยนะ" เอ่ยขอโทษอีกคนที่ทำอะไรตามใจ ถึงเขาจะไม่ได้มีท่าทีต่อต้านในช่วงหลัง แต่เขาก็ไม่ได้เต็มใจที่จะทำตั้งแต่แรก อย่างน้อยก็ควรขอโทษเขาบ้างถึงจะถูก
"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ"
"เราจะขอโทษทำไม พี่เป็นคนเริ่มก่อน" ย่นคิ้วเมื่อได้ยินเขาเอ่ยขอโทษกัน เขาไม่ผิดอะไรด้วยซ้ำจะขอโทษทำไม "ไว้ว่างๆ พี่จะมาหาใหม่นะ แล้วก็อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกเข้าใจมั้ย" จ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างจริงจัง ที่พูดออกไปแบบนั้นเพราะไม่อยากให้เขาไปทำแบบนี้กับใครอีก ฉันรู้สึกถูกใจเด็กคนนี้เข้าให้แล้ว ถึงจะถูกไอ้ไวท์สั่งห้ามแต่มันก็อดใจไม่ไหวจริงๆ ใครใช้ให้น้องเค้าตรงสเปกขนาดนี้กันล่ะ
"ครับ ผมจะไม่ทำกับใคร"
"เด็กดี"ยื่นมือแตะจมูกโด่งไปหนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว "วันนี้กลับบ้านได้เลยนะ เดี๋ยวพี่บอกไวท์ให้"
"ขอบคุณครับ"
"จุ๊ฟ" ยืดตัวขึ้นจุ๊ฟปากคนตัวสูงอีกครั้ง เขาดูตกใจคงคิดไม่ถึงว่าฉันจะทำแบบนี้ แต่ต่อมาสีหน้าตกใจก็แปลเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
ก๊อก ก๊อก
"นึกว่ากลับไปแล้ว"
"จะกลับแล้วเลยแวะมาหาก่อน" เดินขึ้นมายังห้องทำงานของไวท์ กะว่าจะมาฝากฝังให้มันดูแลคนให้หน่อย
"มีอะไร ปกติไม่ได้มารยาทดีขนาดไปลามาไหว้"
"จะมาบอกว่าคนนี้จอง"
"ใคร?"
"เด็กที่ชื่อปืน...จอง"
"ไอ้ริน!"
"ไม่ต้องมาเรียกชื่อ จัดการให้ด้วยห้ามให้น้องไปดูใคร แล้ววันนี้ก็ให้กลับบ้านได้เลย"
"เจ้าของร้านนั่งหัวโด่อยู่นี่ สั่งเหมือนเป็นเจ้าของ"
"ขายเท่าไหร่จะซื้อ"
"ไม่ขาย!"
"ไม่ขายก็ดูแลให้ด้วย ตามนั้นนะ"
"บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าห้ามกินเด็กร้านกูนะ ไอ้รินๆ" เสียงบ่นยังคงตามหลังมาให้ได้ยินแต่ไม่ได้สนใจ ก็มันเองไม่ใช่หรอที่ส่งน้องเขามาให้ฉันนะ รู้ทั้งรู้ว่าชอบคนไทป์นี้ยังส่งมาให้กันอีก ต่อไปคงต้องหาเวลามาที่นี่บ่อยๆ ถึงจะต้องแลกกับการทนฟังคุณพ่อบ่นจนหูชาก็ตาม