หลี่น่ารู้สึกแปลกเมื่อลุกขึ้นยืนแล้วพบว่าประตูตรงหน้านั้นหายไปและเป็นเพียงกำแพงเก่าๆมาแทนที่ หลี่น่าเอื้อมมือไปสัมผัสกำแพงเก่าๆนั่นทั้งดันและทุบก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"อะไรกันวะเนี่ย ประตูหายไปไหน" หลี่น่าเริ่มหันไปมองสิ่งรอบตัว ตอนนี้นางอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆที่มีฟูกที่นอนเก่าๆ ไม่มีของตกแต่งอะไรเลย และมาหยุดที่รถเข็นที่นางได้เข็นเข้ามาด้วยตอนเข้ามาหลบในนี้ พลันรู้สึกโล่งใจที่ข้าวของที่ซื้อมายังอยู่ และมองอีกทีก็พบว่ามีประตูอยู่อีกที่และมีหน้าต่างอยู่อีกฝั่ง ไม่รอช้าหลี่น่ารีบตรงไปยังประตูที่เห็นและเปิดออกไป
นางนิ่งงันเพราะคิดไว้ว่าเมื่อเปิดประตูออกมาจะต้องพบกับรถยนต์มากมายที่จอดเรียงกันในลานจอดรถ แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นโต๊ะที่นั่งไม้เก่าๆ มีกาน้ำชาและถ้วยน้ำชาคว่ำไว้ตั้งอยู่บนโต๊ะ แสงสว่างดั่งแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทำให้หลี่น่าเห็นว่ามีประตูเปิดออกไว้ที่ด้านซ้ายมือของตน จึงเดินออกไปดูว่าตัวเองกำลังพบเจอกับอะไรกันแน่
แสงแดดยามเช้าที่ไม่แรงมากกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นชิน มีรั้วบ้านเก่าที่สูงเพียงแค่อกของนาง มีลานเล็กๆที่มีหญ้าขึ้นปกคลุม หลี่น่าก้าวขาเดินออกไปมองสภาพที่ไม่คุ้นเคยและหันหลังกลับไปมองยังที่ที่นางเพิ่งจะก้าวออกมา เป็นบ้านหลังเก่าๆที่สร้างด้วยไม้และฟางหลายชั้นขนาดบ้านเล็กเสมือนให้อาศัยอยู่เพียงแค่หนึ่งคนหรือสองคนเท่านั้น
แล้วสายตาของนางก็มองต่ำงมาที่ข้างประตูพบเด็กน้อยผู้หนึ่งนอนขดตัวอยู่ สวมเสื้อผ้าอาภรณ์เก่าๆราวกับอยู่ในละครโบราณ พลันความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัว
"บ้าหน่า.. มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอก ไอจำพวกทะลุมิติย้อนอดีตน่ะ" บ่นออกมาให้กับความคิดไร้สาระ แต่เมื่อลองคิดอีกครั้งเหตุการณ์ที่นางเจอมันก็พอให้คิดเป็นอย่างนั้นได้ไม่ยาก
"หรือเราจะทะลุมิติมาจริงๆ ไอบ้าเอ้ย! ทะลุมาได้ยังไงแล้วจะกลับยังไง" หลี่น่ายืนเถียงกับตัวเองอย่างเสียงดังจนทำให้ร่างที่ขดตัวอยู่นั้นรู้สึกตัวขึ้นมา
หนิงเซียนกระพริบตาถี่ๆเพราะแสงที่แยงเข้ามาแต่เมื่อปรับสายตาได้แล้วก็มองออกว่าคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลคนนั้นก็คือมารดาของตน เด็กน้อยดีใจจนร้องไห้ออกมา นึกคิดไปว่ามารดาที่ทิ้งตนไปเสียแล้วแต่ที่จริงแล้วมารดายังไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ทิ้งตนอย่างที่เคยโดนว่าไว้
"ท่านแม่" เสียงแหบแห้งร้องออกมาเพราะนอนตากน้ำค้าง หนิงเซียนขยับตัวจะลุกขึ้นไปหามารดาแต่ก็รู้สึกไร้เรียวแรงจึงฟุบลงกับพื้นอีกครั้ง
หลี่น่าเห็นเด็กน้อยตื่นแล้วและพยายามลุกขึ้นแต่ก็เหมทอนไร้เรี่ยวแรงจึงก้มลงไปหาเด็กน้อยร่างบอบบางและพยุงตัวของเด็กน้อยให้ลุกขึ้น
"เด็กน้อย เป็นอะไรหรือเปล่า แล้วทำไมมานอนตรงนี้"
"ท่านแม่.. ท่านกลับมาแล้ว"
"แม่อะไร พี่สาวไม่ใช่แม่นะแต่ช่างเถอะพูดเสียงแหบขนาดนี้ เข้าไปข้างในกันก่อนนะ" หลี่น่าพยุงร่างเด็กน้อยให้เข้าไปด้านใน พาไปนั่งที่เก้าอี้ในบ้าน ก่อนจะผละออกและเดินเข้าไปในห้องที่เสมือนห้องนอนเก่าๆที่นางโผล่มาพร้อมกับรถเข็น นางเดินเข้าไปในห้องนั้นหวังจะหยิบน้ำขวดที่นางซื้อมา นำมาให้เด็กน้อยน้อยที่นางไม่รู้จักนั้นดื่มน้ำเสียจะได้เสียงไม่แหบ
หลี่น่าฉีกพลาสติกที่ห่อน้ำหลายขวดออกและหยิบน้ำออกมาหนึ่งขวด เดินมาหาเด็กที่นั่งรอนิ่งๆ จัดการเปิดฝาขวดและส่งให้กับเด็กตรงหน้า
"อะไรหรือเจ้าคะท่านแม่"
"น้ำไง ดื่มซะ" หลี่น่ายัดใส่มือเด็กน้อย พยักหน้าให้ดื่มน้ำเร็วๆ หนิงเซียนรับขวดที่แปลกตามายกขึ้นดื่มตามคำสั่งของคนที่นางคิดว่าเป็นมารดา เด็กน้อยดื่มน้ำในขวดอย่างกระหายทั้งยังรู้สึกว่าน้ำนี้รสชาตินั้นดีกว่าน้ำที่นางได้ดื่มกินทุกวันเสียอีก
"ดื่มดีๆ เดี๋ยวก็สำลักหรอก" เห็นเด็กน้อยรีบดื่มเกินไปจึงเอ่ยเตือน แต่ยังไม่ทันขาดคำเด็กน้อยก็สำลักขึ้นมาจริงๆ
"แค่กๆ.."
"นั่นไง ค่อยๆดื่มอย่าดื่มเร็วนัก"
"เจ้าค่ะท่านแม่" หนิงเซียนค่อยๆดื่มตามคำมารดา ดื่มจนรู้สึกอื่มจึงยอมปล่อยขวดในมือลงบนโต๊ะ หลี่น่าจัดการปิดฝาขวดน้ำเพื่อกันน้ำหก และนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆเด็กน้อยเพื่อจะถามคำถาม
"เด็กน้อยเจ้าชื่ออะไร"
หนิงเซียนมองหน้ามารดาอย่างงงๆว่าเหตุใดมารดาถึงถามคำถามเช่นนี้ หรือจะทดสอบนางว่านางจำชื่อตนเองได้หรือไม่ เพราะเมื่อก่อนท่านแม่ชอบถามคำถามเช่นนี้ประจำเพราะอยากให้นางจำชื่อตัวเองได้
"หนิงเซียนเจ้าค่ะ แซ่ซิน ซิน หนิงเซียน" หนิงเซียนตอบเสียงใสอย่างภูมิใจเพราะนึกว่ามารดากำลังทดสอบตนเอง
"หนิงเซียน แล้วหนิงเซียนทำไมไปนอนแบบนั้นที่พื้นล่ะ"
"เซียนเอ๋อร์รอท่านแม่อย่างไรเจ้าคะ เมื่อวานท่านแม่บอกว่าจะรีบกลับมาแต่พอค่ำแล้วท่านแม่ก็ยังไม่กลับมาเสียที เซียนเอ๋อร์เลยนอนรอที่พื้นหน้าบ้าน"
"โถ่.. น่าสงสารอะไรอย่างนี้" หลี่น่ารู้สึกสงสารและเห็นใจเด็กน้อยจึงลูบศีรษะหนิงเซียนเบาๆ
"แล้วท่านแม่ทำไมเพิ่งกลับมาหรือเจ้าคะ"
"หือ?.." หลี่น่าชี้นิ้วเข้าตนเองเพื่อถามหนิงเซียนว่าหมายถึงนางหรือนั่น พอได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าก็เกิดอาการสับสนมึนงงขึ้นมาทันที
นี่มันอะไรกัน! นางไปมีลูกตอนไหน บ้าไปแล้ว หรือเด็กน้อยจะจำหน้าแม่ตัวเองผิดหรือเปล่า ต้องใช่แน่ๆ นางจะไปมีลูกได้อย่างไร คนรักก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ!