"หนิงเซียนจำผิดหรือเปล่า พี่สาวจำได้ว่ายังไม่มีลูกนะ"
"ท่านแม่ เหตุใดจึงพูดเช่นนี้ ท่านแม่ไม่รักเซียนเอ๋อร์แล้วหรือเจ้าคะ ฮือๆ ท่านแม่กำลังจะทิ้งเซียนเอ๋อร์เช่นที่ผู้อื่นพูดใช่หรือไม่ ฮือๆ" หนิงเซียนเบะปากร้องไห้ ลุกจากเก้าอี้ไปกอดรัดร่างของหลี่น่าเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
"ไม่เอานะท่านแม่ เซียนเอ๋อร์จะเป็นเด็กดีไม่ดื้อ ไม่ร้องตามจะเข้าป่ากับท่านแม่อีก แต่ท่านแม่อย่าทิ้งเซียนเอ๋อร์ไปเลยนะ ฮือๆ นะ.. ท่านแม่ เซียนเอ๋อร์รักท่านแม่ที่สุด เซียนเอ๋อร์จะอยู่กับท่านแม่"
หลี่น่าตกใจนั่งนิ่งปล่อยให้เด็กน้อยกอดรัดต่อไป เพราะกำลังมึนงงอีกครั้ง ดูท่าแล้วเด็กน้อยหนิงเซียนคงมั่นใจมากว่านางคือมารดาของตน หากเอ่ยปากปฏิเสธไปอีกครั้งเห็นทีคงได้ร้องไห้ไม่หยุดเป็นแน่
ยอมจำนนมารับบทแม่จำเป็นให้ไปก่อนแล้วกัน ไว้แม่ตัวจริงกลับมาค่อยว่ากันทีหลัง หวังว่าจะรีบกลับมาไวๆนะ
"เอาล่ะๆ หยุดร้องได้แล้ว แม่แค่ล้อเล่นเอง ขี้แยไปได้"
"ท่านแม่อย่าล้อเล่นกับเซียนเอ๋อร์เช่นนี้นะเจ้าคะ" เอ่ยอู้อี้แต่ยังไม่ยอมปล่อยให้หลี่น่าเป็นอิสระ
"ตกลงๆ ไม่ล้อเล่นแบบนั้นแล้ว ปล่อยได้แล้ว กอดรัดแน่นจนหายใจไม่ออกแล้วเนี่ย"
หนิงเซียนยอมปล่อยกอดจากมารดาเพราะกลัวมารดาจะหายใจไม่ออก แต่เมื่อปล่อยแล้วก็ยังคงยืนอยู่ใกล้ๆไม่ยอมไปนั่งเก้าอี้
"แม่ไม่หนีไปไหนหรอก ไปนั่งเก้าอี้ดีๆ" เมื่อเห็นว่ามารดารับปากจึงยอมไปนั่งที่เก้าอี้ดีๆ
"เซียนเอ๋อร์เด็กน้อยที่นี่คือที่ไหน"
"ที่นี่ก็คือบ้านของเราอย่างไรเจ้าคะท่านแม่"
"แล้วทำไมเซียนเอ๋อร์เด็กน้อยถึงแต่งตัวมอมแมมแบบนี้ ไม่มีชุดดีๆกว่านี้แล้วหรือ" หลี่น่าเอ่ยถาม ชุดเหมือนชุดโบราณสีซีดเก่าๆแบบนี้เป็นนางคงทิ้งไปแล้ว
"ไม่มีแล้วเจ้าคะ ก็ท่านแม่บอกว่าเราไม่มีเงินไปซื้อชุดใหม่ๆต้องใส่ชุดเก่าๆไปก่อน"
"แล้ว..." หลี่น่าชะงักคำพูด นางกำลังจะเอ่ยถามว่าบิดาของเด็กน้อยไปไหน แต่ก็กลัวว่าจะไปกระตุกต่อมอะไรเข้าอีกจึงหยุดเอ่ยเสียก่อน หากบิดาของเด็กน้อยยังอยู่ก็คงเอ่ยถามมาแล้ว สงสัยคงไม่อยู่แล้ว
จ๊อก!~~~
"โอ๊ะ!" เด็กน้อยตาโตกุมท้องตัวเองอย่างเขินอายที่ท้องร้องเสียงดัง หลี่น่าเห็นอาการของหนิงเซียนก็ยิ้มหัวเราะอย่างเอ็นดู คงจะหิวมากรอมารดาของตนทั้งคืน
"ที่บ้านมีอะไรให้กินหรือไม่เซียนเอ๋อร์" หนิงเซียนส่ายหน้า
หลี่น่าจึงเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง เปิดถุงหาอาหารกึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยที่นางซื้อติดมามากมาย และหยิบข้าวหม้อไฟกึ่งสำเร็จรูปรสหมูชิ้นผัดผักออกมาหนึ่งถ้วยพร้อมกับน้ำอีกหนึ่งขวด มาวางบนโต๊ะ นางจัดการตามขั้นตอนการทำอาหารกึ่งสำเร็จรูปและรอไม่นาน อาหารก็สุกพอดีส่งกลิ่นหอมยั่วยวนเด็กน้อยที่กำลังหิวโซ
"ท่านแม่มันคืออะไรหรือเจ้าคะ ทำไมมันหอมเยี่ยงนี้"
"มันก็คืออาหารกึ่งสำเร็จรูป อย่ามัวถามอยู่เลยเซียนเอ๋อร์ ลงมือจัดการกินข้าวหมูผัดผักนี้เถอะ แต่เป่าก่อนนะมันยังร้อนอยู่"
"เจ้าคะท่านแม่!" เด็กน้อยตอบเสียงดัง รับตะเกียบจากหลี่น่าและลงมือทานอาหารตรงหน้า
ขณะที่ปล่อยให้หนิงเซียนทานอาหาร หลี่น่าก็เดินสำรวจในบ้านที่ค่อนข้างเก่ามากๆ พอเดินออกมานอกตัวบ้านออ้อมไปยังหลังบ้านก็มีห้องครัวเล็กๆที่ด้านในไม่มีแม้แต่ข้าวสักเม็ด ส่วนน้ำที่คิดว่าจะใช้ดื่มกินก็เหลือเพียงไม่ถึงครึ่งโอ่ง พอเดินย้อนกลับมาที่แถวหน้าบ้านก็เห็นมีเหมือนชาวบ้านแถวนี้กำลังจะเดินไปไหนสักทีและสวมชุดโบราณเช่นเดียวกับหนิงเซียนจึงรีบหลบก้มลงกับพื้น
หลุดเข้ามาในยุคโบราณจริงๆสินะ
แล้วจะใช้ชีวิตยังไงถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอะไรก็ไม่มี ชุดสวยๆก็ไม่มีใส่
หลี่น่าร้องไห้คร่ำครวญในใจ ก้มมองชุดที่นางใส่เป็นชุดเดรสกระโปรงยาวแขนพองลายลูกไม้ที่เหลืองอ่อน นึกเสียใจที่จะไม่ได้ใส่อีกแล้วหากต้องอยู่ที่นี่ไปอีกหลายวัน ก่อนจะเดินเข้าตัวบ้านไปหาเจ้าเด็กน้อยที่กำลังทานข้าว พอมาถึงเด็กน้อยก็ก็ทานคำสุดท้ายหมดพอดี หี่น่าจึงเปิดขวดน้ำยื่นให้ดื่ม
"เป็นอย่างไรอร่อยหรือไม่"
"อร่อยเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่ไปหาอาหารที่อร่อยเช่นนี้มาได้อย่างไรเจ้าคะ หรือเพราะไปหาของเช่นนี้มาถึงได้กลับมาหาเซียนเอ๋อร์ช้า"
"ใช่แล้ว มัวแต่หาของอร่อยให้เซียนเอ๋อร์เลยนานไปหน่อย"
"ชุดของท่านแม่ไปไหนหรือเจ้าคะ เหตุใดถึงสวมชุดนี้" หนิงเซียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพิ่งสังเกตว่าชุดท่านแม่มันเปลี่ยนไป ชุดที่ท่านแม่สวมใส่มันไม่เหมือนกับของเด็กน้อยเลย แต่ดูสวยกว่ามาก
"เอ่อ.. ชุดนี้มีคนให้แม่มาน่ะ แม่เลยลองใส่ดูเฉยๆว่าจะไปเปลี่ยนใส่ชุดเดิมแล้ว"
"แต่ท่านแม่ใส่ชุดนี้แล้วดูสวยมากเลยนะเจ้าคะ"
"ปากหวานเสียจริง แต่ใส่ชุดนี้ไม่ได้หรอก แม่เข้าไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ" หลี่น่าเดินไปเปลี่ยนชุด เป็นชุดเมือนกับหนิงเซียนแต่เป็นของมารดาตัวจริงของหนิงเซียน