แอลลี่รีบกดวางสาย เสียงของวุฒิทำให้หล่อนหมดอารมณ์ สุดท้ายจำต้องหยุดกิจกรรมกะทันหัน สันต์รีบผละออกมาจากหน้าต่าง
อีกสัปดาห์ต่อมา
ตอนค่ำ เสียงทะเลาะกันของผัวเมียที่ดังลั่นออกมาจากห้องซึ่งอยู่ห่างกันเพียงผนังกั้น ทำให้สันต์ ต้องก้าวออกมาจากห้องเพราะความเป็นห่วงลูกสะใภ้ สันต์เดินมานั่งตากน้ำค้างอยู่ที่นอกชาน
ผ้าขาวม้าที่คาดเอวเอาไว้ ถูกดึงขึ้นมาตวัดไล่ยุงก่อนจะพาดเอาไว้ที่บ่าบึกบึน สายตาคมเพ่งมองออกไปยังเวิ้งฟ้ามืดดำ พยายามข่มอารมณ์โกรธที่คุกรุ่นขึ้นมาเพราะสันดานไม่ดีของลูกชายที่เมากลับมาแล้วชอบลงมือกับสะใภ้ผู้น่าสงสาร
“อยากมากนักใช่ไหม… เ****นมากนักใช่ไหม ทีหลังอย่าพูดแบบนี้กับกู”
เสียงตบตีเหวี่ยงกระชาก ดังมาพร้อมกับเสียงสะอื้นของสะใภ้
สันต์กำมือแน่น สุดจะทนกับนิสัยของลูกชาย ในที่สุดก็ลุกพรวดขึ้นจากแคร่ไม้ไผ่ ก้าวยาวๆ ตรงมายังห้องนอนของลูกชายกับสะใภ้
มือใหญ่ผลักบานประตู ทั้งที่ใจจริงไม่อยากยุ่งเรื่องของผัวเมียเลยสักนิด แต่พฤติกรรมของลูกชายที่นับวันยิ่งเลวร้ายขึ้นทุกที หนักข้อขึ้นทุกวัน ถึงขนาดนี้สันต์คงไม่อาจนิ่งเฉย
“ไอ้วุฒิ… กูบอกมึงกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำร้ายผู้หญิง”
มือใหญ่ของสันต์คว้าข้อมือของลูกชายเอาไว้ได้ทัน ขณะที่กำลังจะฟาดเข้าใส่ใบหน้าของเมียอีกฉาด
“พ่ออย่ายุ่งน่ะ… ”
มือของวุฒิเงื้อค้างเพราะโดนมือของผู้เป็นพ่อซึ่งใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า คว้าเอาไว้
สันต์บิดมือลูกชาย ล็อกมาขัดไว้ข้างหลังสมกับเคยเป็นอดีตทหารสายบู๊ของกองพันจู่โจม ก่อนจะผลักร่างของวุฒิกระเด็นไปติดผนัง ห่างออกจากรัศมีที่จะลงมือกับสะใภ้ผู้น่าสงสาร
“พ่ออย่ายุ่ง… ”
วุฒิทำท่าว่าจะปรี่เข้ามาทำร้ายแอลลี่ กลิ่นเหล้าจากเนื้อตัวของวุฒิทำให้สันต์รู้ว่าลูกชายเมา
“มึงลองเข้ามาสิ… เดี๋ยวจะหาว่ากูไม่เตือน”
ทว่าเพียงแค่สันต์ขยับเข้ามาขวาง ยืดอกกำยำไปด้วยมัดกล้ามข่ม วุฒิก็ถอย ด้วยรูปร่างของสันต์สูงใหญ่และบึกบึนน่าเกรงขาม ต่างจากวุฒิที่ตัวเล็กและผอมแห้ง
การตัดสินใจเข้ามาขวางของบิดา ทำให้วุฒิต้องหยุดชะงัก ไม่กล้าเข้ามาทำร้ายเมีย ด้วยรู้ดีว่าเวลาเอาจริง ผู้ชายที่ชื่อ ‘สันต์’ คนนี้แม่งโคตรน่ากลัว
“แต่แอนเป็นเมียผมนะ”
วุฒิทวงสิทธิ์ความเป็นผัว แอลลี่เคยทำงานอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ก่อนจะเจอกับวุฒิโดยบังเอิญ วุฒิเล่นดนตรีอยู่ในร้านอาหาร จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่พลิกผลันชะตา ทำให้ทั้งสองต้องมาใช้ชีวิตเป็นสามีภรรยากัน
“มึงอย่าลำพองใจนักนะ… มึงกับแอนไม่ได้แต่งกัน ระวังสักวันแอนจะทิ้งมึงเพราะสันดานเหี้ยๆ ของมึงที่ชอบตบตี”
สันต์ว่าให้ลูกชายได้คิด
“ก็แอนมันกวนตีน มันว่าผม… ”
พูดแล้ววุฒิก็ชะงักเหมือนรู้ว่าไม่ควรพูด สันต์ไม่รู้ว่าสองผัวเมียทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร ไม่รู้ว่าแอลลี่ว่าอะไรวุฒิจนโกรธจัดถึงขั้นลงไม้ลงมือ?
“ต่อไปนี้มึงห้ามตบตีเมียนะ… ไอ้หน้าตัวเมีย”
คำพูดที่ได้ยินทำเอาวุฒิถึงกับสะอึก สันต์ได้ทีก็รีบซ้ำ
“หนูแอนยอมให้มึงเป็นผัวก็ดีนักหนา มึงอย่าสำคัญตัวผิดนักเลย… ผู้หญิงสวยอย่างหนูแอนจะหาผัวใหม่อีกกี่คนก็ได้ เป็นบุญแค่ไหนที่หนูแอนทนอยู่กับผู้ชายห่วยๆ อย่างมึง”
สันต์กล่าวอย่างไม่ไว้หน้าลูกชาย
สุดท้ายวุฒิจำต้องเดินคอตกออกมาจากห้องด้วยความเจ็บปวด
คำพูดของบิดาทำเอาคนโดนด่ารู้สึกจุกแน่นในอก ก้าวลงเรือนแล้วคว้ารถมอเตอร์ไซค์ขับออกไปด้วยท่าทางฉุนเฉียว
สันต์รีบก้าวเข้ามาประคองร่างของสะใภ้ที่นั่งอยู่มุมห้อง กอดเข่าตัวสั่นงันงก น่าเวทนาเหลือเกิน
สันต์ยอบกายลงนั่ง มือใหญ่โอบหัวไหล่กลมกลึงของสะใภ้
เสื้อคอกระเช้าที่หลุดจากไหล่ข้างหนึ่งลงมากองอยู่ที่ต้นแขนกลมกลึง ทำให้สันต์มองเห็นเต้านมอวบใหญ่เผยออกมาครึ่งเต้า
‘โอ้ว… ’
สันต์อุทานในใจ ทรวงอกของสะใภ้ขาวเนียนจนเห็นเส้นเลือดสีเขียวกระจายเป็นสายรางๆ อยู่ภายใต้นวลเนื้อผุดผาด เต่งตึงไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาวสะพรั่ง และการที่หล่อนโนบรา ทำให้เห็นตำแหน่งของจุกหัวนมแทงตุงอยู่ใต้เสื้อ
สิ่งที่เห็น… ทำเอาหัวใจของสันต์เต้นแรง นึกอิจฉาลูกชายของตนที่มีของดีอยู่ในมือแต่กลับไม่เห็นคุณค่า ถ้าเป็นเขาจะรักและถนอมผู้หญิงคนนี้ปานแก้วตาดวงใจ จะไม่ทำให้เสียน้ำตาอย่างที่เห็น
“หนูจ๋าเจ็บมากไหม”
สันต์ถามด้วยความสงสาร
“พอทนค่ะพ่อสันต์… ”
แอลลี่ตอบ สันต์โอบไหล่หล่อน พาขึ้นมานั่งที่ขอบเตียง เอาหลังมือปาดหยาดน้ำตากลมเกลี้ยงกลิ้งลงมาอาบนวลแก้ม ลูบแก้มที่โดนตบจนเป็นรอยแดงด้วยความเวทนาสะใภ้
แอลลี่ยกมือขึ้นมากุมหลังมือของสันต์ที่กำลังปาดซับน้ำตาให้หล่อน เวลาอยู่ใกล้เขา… แอลลี่รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าทนไม่ไหว… ถ้าหนูจะทิ้งมันไปหาผัวใหม่พ่อก็ไม่ว่า… ไปเถอะนะ ไปหาผัวใหม่ ไปหาคนที่ดีกว่า ไปมีอนาคตที่ดีกว่านี้… ผู้หญิงอย่างหนูสวยเลือกได้ อย่าทนอยู่กับผู้ชายระยำอย่างไอ้วุฒิ”
สันต์รู้สึกสงสารสะใภ้ขึ้นมาจับใจ เขาเป็นคนตรง ไม่เคยเข้าข้างลูกชาย ผิดก็ว่าผิด ถูกก็ว่าถูก
“ไม่เป็นไรค่ะ… หนูจะทนค่ะ… ”
แอลลี่กล่าวทั้งเสียงสะอื้น
“โถ… แม่คุณ”