ชีวิตพลิกผัน

3282 Words
“นี่มัน...” พอมาถึงคอนโด เดียร์น่ากลับต้องยืนมองกระดาษที่แปะเอาไว้หน้าห้องของเธออย่างไม่อยากเชื่อว่าบริษัทจะทำงานกันได้ไวขนาดนี้เมื่อกระดาษแผ่นนั้นแจ้งให้เธอซึ่งเป็นคนอาศัยย้ายออกทันทีเพราะห้องที่เธออยู่นั้นเป็นสมบัติของทางบริษัท เดียร์น่าเปิดประตูเข้าไปด้วยความโมโหจากนั้นเธอก็เอากระเป๋าออกมาเริ่มเก็บของที่เป็นของเธอทั้งหมดแล้วออกจากห้องที่ไม่ใช่ของเธออีกต่อไป เธอเดินออกทางด้านหลังคอนโดแทนเมื่อด้านหน้านั้นเต็มไปด้วยนักข่าว เธอคงต้องหาที่อยู่ใหม่แต่คงต้องหาโรงแรมอยู่ชั่วคราวไปก่อน จากนั้นข่าวของเดียร์น่าก็ค่อยๆเงียบลง เมื่อทางเรวัติก็ไม่อยากให้บริษัทเสียหายไปมากกว่านี้ ส่วนด้านปันปันก็ถูกแบนจากวงการจนหมดหนทางทำมาหากิน ซึ่งเดียร์น่าเองก็ไม่ต่างกัน แต่ละบริษัทที่เธอพยายามติดต่อไปของานทำก็พากันปฏิเสธกันหมดเพราะข่าวฉาวของเธอทั้งๆที่เธอพยายามบอกไปแล้วว่าข่าวนั้นมันไม่จริงแต่ดูท่าจะไม่มีใครฟังเลยสักนิด “เฮ้อออออ ขืนเป็นอย่างนี้คงต้องหาที่อยู่ใหม่อีก...โอ๊ย ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยยยยย” เดียร์น่าได้แต่ตะโกนกับตัวเองในห้องที่เธอเช่าอยู่ เมื่อเงินที่มีก็เริ่มหมดลงเพราะเธอไม่เคยคิดว่าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลยใช้เงินที่หามาได้ปรนเปรอตัวเองจนแทบไม่เหลือเก็บ และพอเริ่มคิดอะไรไม่ออกท้องก็เริ่มหิวเธอจึงใส่หมวกปิดหน้าปิดตาเพื่อออกไปหาของกิน “เอ๊ะ! รถคันนี้มัน...” พอกำลังจะเดินออกจากคอนโดซึ่งต้องผ่านลานจอดรถ เดียร์น่าถึงกับต้องหยุดเดินเมื่อดันเจอรถยนต์สุดหรูสีเหลืองซึ่งตอนนี้เธอก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอมีสมบัติแสนแพงอยู่ชิ้นหนึ่ง นั่นคือรถยนต์ “ฉันลืมแกไปได้ยังไงเนี่ย!! แล้วคันนี้มัน...รถฉันไม่ใช่เหรอ!!!” เดียร์น่าถึงกับอ้าปากค้างเมื่อมันไม่ใช่แค่เหมือนแต่นี่มันรถของเธอแน่นอน แล้วทำไมมันมาจอดอยู่ที่นี่ หรือใครเอามาจอดให้ ซึ่งก็คงไม่ใช่เพราะไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่นอกจากเดซี่ “อะไรกัน...แล้วทำไม...” เดียร์น่าเดินกลับเข้าไปในคอนโดเพื่อสอบถามหาเจ้าของรถทันทีเพราะที่จอดรถทุกที่นั้นมีเจ้าของของมัน “ใครนะคะ?” “ห้อง 2020 ค่ะ แต่ตอนนี้เจ้าของห้องน่าจะไม่อยู่นะคะ” “เหรอคะ ขอบคุณค่ะ” พอได้คำตอบ เดียร์น่าถึงกับท่องจำเบอร์ห้องเมื่อยังไงวันนี้เธอต้องได้คุยกับคนที่เอารถของเธอไปก่อนจะเดินกลับออกมาเพื่อซื้อของเข้าไปกินในห้อง “จอดรถ” เอี๊ยดดดด! “เอ่อ ขอโทษครับ...” คำสั่งที่อยู่ๆก็ดังขึ้นทำเอาคนขับรถถึงกับต้องจอดกะทันหัน เมฆาที่มองตามร่างบางที่ถึงแม้จะปกปิดตัวตนแค่ไหนแต่แปลกที่เขาจำเธอได้เพียงแค่แว๊บแรกที่เห็นแบบนี้ “มีอะไรรึเปล่าครับบอส?” “เดี๋ยวกลับไปเลยก็ได้ ผมจะเดินเข้าไปเอง” “ครับ...” พูดจบเมฆาก็ลงจากรถทันทีแล้วเดินตามคนที่เขาคิดว่าต้องเป็นเดียร์น่าอย่างแน่นอนไป ก่อนจะขวางหน้าของเธอเอาไว้ “ว๊าย!!” เดียร์น่าถึงกับตกใจที่อยู่ดีๆก็มีคนมาขวางทาง เธอเลยรีบก้มหน้าเพราะกลัวว่าจะเป็นพวกนักข่าว “หลีกทางด้วยค่ะ ฉันไม่ใช่คนที่คุณคิดหรอก” เธอรีบบอกเพราะอุตส่าหนีมาอยู่เงียบๆได้แล้วแท้ๆ “งั้นเหรอผมว่าผมดูไม่ผิดนะ” “ผิดแล้วๆๆๆ ถอยไปฉันจะ...คุณ!!...” เดียร์น่าถึงกับตกใจเมื่อเงยหน้าขึ้นไปมองคนตรงหน้า “หึหึ ว่าแล้ว” เมฆาที่ปกติพูดน้อยกลับเอาแต่พูดไม่หยุดเมื่ออยู่ต่อหน้านางแบบสาว เขามองเธออย่างแปลกใจที่เห็นเธอมาอยู่แถวนี้ “ถอยไปนะ ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ” เดียร์น่ารีบบอกพร้อมกับจะเดินหนี แต่เมฆายืนขวางเอาไว้ “แต่ผมมี” “แต่ฉันไม่อยากคุย” หมับ! เมฆาคว้าแขนของเดียร์น่าเอาไว้ ทำเอาเธอถึงกับหันมามองเขาอย่างไม่พอใจ “นักข่าวนี่” “!!!!” หมับ... เมฆาพูดขึ้นเมื่อรู้ว่าเดียร์น่ากำลังหลบพวกนักข่าวอยู่ ทำเอาเดียร์น่าถึงกับตกใจเผลอดึงเขาเข้าไปกอดเอาไว้แน่นเพื่อหลบพวกนักข่าว “อย่าขยับนะ ถ้าพวกนั้นรู้ว่าฉันอยู่นี่มีหวังต้องย้ายที่อยู่อีกแน่...” เดียร์น่าบอกขึ้นพร้อมกับมุดหน้าซ่อนอยู่ที่อกของเขาจนได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ “อะแฮ่ม...ยิ่งทำอย่างนี้ยิ่งเป็นจุดสนใจมากกว่านะ” เมฆาบอกออกมา เมื่อเขาเองก็ทำตัวไม่ถูก กะว่าจะแกล้งหลอกเธอเล่นแต่ดันกลายเป็นตัวเองที่ต้องทำตัวไม่ถูกแทน “บ้าจริงที่ต้องมาเจอคุณ!!” เดียร์น่ารีบดันตัวเองออก ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับคอนโดทั้งๆที่ท้องยังหิวอยู่โดยมีเมฆามองตามด้วยความแปลกใจเข้าไปอีก “นี่! จะเดินตามมาทำไมห๊ะ?” เดียร์น่าที่เห็นเขาเดินตามมาหันไปต่อว่าทันที “ก็...” เมฆาได้แต่มองไปยังคอนโดที่อยู่ตรงหน้าอย่างเป็นคำตอบจนเดียร์น่าที่เห็นถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าเรื่องบังเอิญมันจะเกิดขึ้นกับเธอขนาดนี้ เธอหันหลังกลับแล้วเดินจ้ำอ้าวนำหน้าเขาไปทันที “ถ้าเจ้าของห้อง 2020 กลับมาแล้วรบกวนแจ้งหน่อยได้ไหมคะ” เดียร์น่าเดินเข้าไปบอกพนักงานต้อนรับที่เคาเตอร์ “ได้ค่ะ อ่าว นั่นไงคะมาพอดีเลย” พนักงานของคอนโดที่หันไปเจอเมฆาเดินเข้ามาพอดีรีบบอกขึ้น ก่อนที่เดียร์น่าจะหันไปมองและเธอก็ต้องอึ้งอีกรอบเมื่อเป็นคนที่เธอไม่อยากคุยด้วยที่สุด “คุณเมฆาคะ พอดีคุณเดียร์น่าต้องการพบ...” “มาคุยกันหน่อย” พนักงานยังพูดไม่จบเดียร์น่าก็เดินมาคว้าแขนของเมฆาแล้วดึงให้เดินตามเธอไปโดยไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอนั้นถูกบันทึกภาพเอาไว้หมดแล้วจากพนักงานที่ต่างก็รู้ว่าเดียร์น่ากำลังเป็นที่พูดถึงเกี่ยวกับการหายตัวไป “ทำไมรถของฉันถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วทำไมต้องเป็นคุณด้วยที่อยู่ที่นี่ห๊ะ?” พอเดินออกมาไกลจากคนอื่นแล้วเดียร์น่าก็เปิดฉากพูดทันที “อ่าว ก็...” “หรือว่าคุณขโมยรถฉันมา หรือว่าซื้อต่อจากใคร นั่นเป็นรถของฉันแสดงว่าคุณกำลังรับซื้อของโจรนะเข้าใจไหม” เมฆาได้แต่มองเดียร์น่าอย่างไม่อยากเชื่อว่าเธอจะพูดโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดเลยสักนิดแบบนี้ “แต่ถ้าคุณยอมคืนมาดีๆฉันจะไม่เอาเรื่อง ว่าไง?” “กุญแจอยู่บนห้อง แล้วอีกอย่างผมไม่ได้ขโมย” “ถ้าไม่ขโมยก็รีบเอามาคืนฉันสิ” เมฆาได้แต่ส่ายหัวกับความคิดเองเออเองของนางแบบสาว ก่อนจะเดินไปที่ลิฟต์โดยมีเดียร์น่าเดินตามเข้ามา “ฉันไปเอาที่ห้องคุณดีกว่า ถ้าคุณหายไปฉันจะทำยังไง” เมฆาไม่ได้พูดอะไร ไม่นานก็มาถึงหน้าห้องของเขา เดียร์น่าถึงกับมองไปรอบๆอย่างแปลกใจเพราะชั้นที่เขาอยู่มันต่างจากชั้นที่เธออยู่เหมือนไม่ใช่คอนโดเดียวกัน “ทำไมห้องคุณถึง...” “ชั้นนี้มีแค่ห้องเดียว รอตรงนี้ก็ได้เดี๋ยวผมเอาออกมาให้” พูดจบเมฆาก็เดินไปกดรหัสเข้าห้องปล่อยให้เดียร์น่าได้แต่มองตามอย่าไม่อยากเชื่อ เพราะขนาดเธอแค่เช่าอยู่ยังเดือนละเป็นแสน แต่เขาอยู่ทั้งชั้นคนเดียวแบบนี้คงจะแพงมากแน่ๆ “นี่ แล้วก็นี่ของๆคุณ” เมฆาเดินกลับออกมาพร้อมกระเป๋าและกุญแจรถยื่นให้กับเดียร์น่าที่เอาแต่มองเขาอย่างแปลกใจ จนเขาต้องขมวดคิ้วมองเธอกลับ “คุณเป็นใครเหรอ? ทำงานอะไรทำไมถึงอยู่หรูหราแบบนี้ได้...” เธออดที่จะถามไม่ได้ “จำเป็นต้องบอกด้วยเหรอ รถคุณอยู่ด้านล่างคงเห็นแล้ว เชิญตรวจดูได้ตามสบาย” ไม่พูดเปล่าแต่เมฆายังเดินไปกดลิฟต์ให้เธอเมื่อเขาอยากพักเหลือเกินแถมยังต้องคุยงานกับน้องชายต่ออีกเลยต้องส่งแขก ส่วนเดียร์น่าพอได้กุญแจรถเธอก็รีบลงมาสำรวจดูทันที พบว่ารถของเธออยู่ในสภาพปกติ แต่ติดอยู่แค่ยางแบนราบไปทั้งสี่เส้น จากนั้นเธอก็เดินขึ้นมาบนห้องด้วยอารมณ์ที่เปลี่ยนไป เพราะถ้าเกิดเธอขายรถคันนี้ก็อาจได้เงินกลับมาหลายล้านซึ่งอาจจะใช้ดำรงชีวิตได้อีกนานพอสมควร จ๊อก ครืด จ๊อกกก... “อ๊า หิว...” พอจบเรื่องรถ ท้องที่ยังว่างเปล่าก็เริ่มประท้วงอีกครั้ง เดียร์น่าเดินไปเปิดตู้เย็นและก็พบว่ามันยังคงว่างเปล่าไม่มีแม้แต่น้ำดื่ม เธอเริ่มคิดที่จะออกไปหาอะไรกินอีกครั้ง และพอลงมาถึงชั้นล่างเธอก็เจอเข้ากับพวกนักข่าวสองสามคนที่กำลังคุยอยู่กับพนักงานของคอนโด เดียร์น่าถึงกับกดปิดลิฟต์แล้วกลับขึ้นมาบนห้องอีกครั้งอย่างตื่นตระหนก “มาได้ไง! อ๊ายยยย อุตส่าเลือกที่นี่เพราะคิดว่าปลอดภัยที่สุดแล้วแท้ๆ” เธอแทบอยากกรีดร้องออกมาเพราะที่ก่อนๆที่เธอไปพักอยู่ปกปิดนักข่าวไม่ได้เลย แต่ที่นี่น้องสาวแนะนำมาเธอเลยคิดว่าจะปลอดภัย แต่ที่ไหนได้ก็คงไม่ต่างกัน “ต้องรีบขายรถแล้วย้ายออก แต่จะไปขายที่ไหนยังไงล่ะ พวกนั้นรู้ก็ลงข่าวว่าเราขายของกินอีก โอ๊ย ทำไมมันยุ่งยากแบบนี้เนี่ย!” พอกลับเข้ามาในห้อง เดียร์น่ากลับต้องคิดหนักเรื่องรถ เพราะการที่เธอจะขายของที่มีอาจถูกเอาไปเป็นประเด็นนินทากันอีกได้ “โอ๊ย!! หิวก็หิว เรื่องให้คิดก็เยอะ ฮื่อๆๆๆ ทำยังไงดี ให้เดซี่เอาอาหารมาส่ง...ไม่ๆๆเป็นพี่จะทำตัวให้น้องเดือดร้อนได้ยังไง...เฮ้ออออ” เดียร์น่าได้แต่เดินวนไปวนมาในห้องเมื่อตอนนี้เธอแทบทำอะไรไม่ได้ งานก็ไม่มี สังกัดไหนก็ปฏิเสธเธอจนหมด ดีที่ยังมีรถแต่จะขายก็กลัวเป็นข่าวอีกนี่สิ ทั้งวงการคนที่ช่วยเธอได้ก็ไม่มีเลยสักคน ส่วนเมฆาที่พึ่งคุยกับเมฆินทร์เสร็จก็อดนึกไปถึงเดียร์น่าไม่ได้ เขาไม่ได้ยินข่าวของเธอมาพักใหญ่ๆแล้วหลังจากที่สื่อประโคมข่าวว่าเธอขายตัวและถูกไล่ออกจากสังกัดแถมไม่มีใครให้งานอีก กริ๊ง กริ๊ง กริ๊งงงงงงงง เสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น เมฆาขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อแน่นอนว่าคนที่มาหาเขาเป็นใครไม่ได้นอกจากเดียร์น่า “คุณ...เอ่อ คือว่า...” พอประตูเปิดออกมาเดียร์น่าถึงกับยิ้มกว้างไปให้เมฆาทันที ทำเอาหัวใจของเขาแอบกระตุกกับยิ้มเสแสร้งของเดียร์น่าอย่างช่วยไม่ได้ เขามองเธอนิ่ง “คือว่า...ฉัน เอ่อ ฉันลงไปหาข้าวกินแต่ดันเจอคุณ ทำให้ฉันไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้ฉัน เอ่อ ฉัน...หิว...ห้องคุณพอจะมีมาม่า หรือไม่ก็อาหารง่ายๆผลไม้ก็ได้บ้างไหม เดี๋ยวฉันซื้อมาคืน” เดียร์น่าบอกขึ้นอย่างเขินอาย เมื่อเธอคิดหาทางออกไม่ได้แล้วจริงๆเลยบากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากเขา เมฆามองเดียร์น่าที่ท่าจะหิวจริงๆอย่างเข้าใจ ก่อนจะเปิดประตูกว้างให้เธอเข้ามา “ฉันไม่เข้าไปหรอก เอามาให้...” “เข้ามา” ปากที่กำลังจะปฏิเสธหุบลงทันทีเมื่อเจ้าของห้องบอกขึ้น ก่อนเธอจะเดินเข้ามาในห้องของเมฆาเมื่อคิดว่าเขาทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนี้คงไม่ทำเรื่องเลวๆกับเธอ และพอเข้ามาข้างในเดียร์น่าถึงกับตะลึงกับห้องอันใหญ่โตและสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบจนเธอยังต้องอาย “ไปนั่งรอก่อน ไม่นานหรอก” เมฆาบอกออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่ครัวสไตล์ยุโรปอันหรูหรา แล้วพันผ้ากันเปื้อนรอบเอว จากนั้นเขาก็เริ่มทำอาหารอย่างช่ำชองและรื่นไหลจนเดียร์น่าที่ยืนมองอยู่อดอึ้งตะลึงค้างไม่ได้ ‘หรือว่าเขาเป็นเชฟ...’ เธอคิดขึ้นเมื่อดูยังไงเขาก็ดูช่ำชองเรื่องในครัวมากกว่าคนปกติทั่วไป และกว่าที่เธอจะรู้ตัวอาหารจานด่วนก็มาวางตรงหน้าของเธอเรียบร้อยแล้ว “กินสิ ผมไม่มีหรอกอาหารขยะพวกนั้น” เมฆาบอกออกมาพร้อมกับนั่งลงตรงกันข้ามกับเดียร์น่า “ขอบคุณ...แล้วคุณไม่กินเหรอ” “ผมทานมาจากข้างนอกแล้ว” เมฆาบอกขึ้น ก่อนจะรินน้ำให้กับเธอ จากนั้นเดียร์น่าก็เริ่มลงมือทานอาหารที่เขาทำอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมชมไม่ขาดปากจนคนทำอดที่จะดีใจไม่ได้เมื่อมีไม่กี่คนที่เขาทำอาหารให้ทาน และหนึ่งในนั้นก็เป็นเธอด้วย “ขนมหวานไหม ในตู้มีพุดดิ้ง” “มีเหรอ! เอ่อ ก็ได้นะ...” พออาหารหมดลงเมฆาที่เห็นว่าเธอเหมือนจะยังไม่อิ่มเลยบอกขึ้นและเดียร์น่าก็ไม่ปฏิเสธเมื่อพุดดิ้งเป็นอาหารหวานที่เธอชอบมาก ไม่นานพุดดิ้งก็มาวางอยู่ตรงหน้าพร้อมกับองุ่นลูกโตราคาแสนแพงของเขา “เกรงใจจัง...เอาไว้ถ้ามีโอกาสฉันจะตอบแทนนะ” “ไม่เป็นไร” เมฆาได้แต่มองเธอกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยจนเขาอดยิ้มมุมปากไม่ได้ เมื่อเธอดูจะมีความสุขกับการกินเหลือเกินทั้งๆที่ตัวก็ผอมบางขนาดนั้น จนกระทั่งทุกอย่างหมดเกลี้ยง เดียร์น่าที่พึ่งรู้ตัวว่ากินจนไม่เหลือก็ยิ้มแหยๆออกมา “พอดีฉันก็อยากลงไปหาอะไรกินอยู่นะ แต่นักข่าวน่ะสิมาได้ยังไงก็ไม่รู้ อุตส่าคิดว่าปลอดภัยแล้วแท้ๆ...” “ถ้าไม่ได้ทำผิดจะหนีทำไม” เมฆาพูดขึ้น เมื่อเดียร์น่าดูเดียงสามากกว่าจะมาอยู่ในวงการมายาพวกนั้นด้วยซ้ำ “ก็ไม่ได้อยากจะหนีหรอก แต่ไม่มีใครยอมฟังฉันเลยนี่สิ พวกนั้นตัดสินฉันไปหมดแล้ว...ฉันไม่เหลืออะไรแล้วกับวงการนี้...” เดียร์น่าถึงกับก้มหน้าลงเพื่อซ่อนน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้นออกมา เมื่อเธอไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าจะได้มาอยู่จุดนี้ จากชีวิตที่โลดแล่นเมื่อไม่กี่วันก่อนกลับดับลงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเพียงเพราะเรื่องที่เธอไม่ได้ทำผิด “สู้สิ” เมฆาบอกขึ้น เพราะเท่าที่เขาดูมาเธอยังไม่ได้ออกมาพูดอะไรเลย “เอาอะไรไปสู้ล่ะ เงินก็ไม่มี ห้องจะอยู่ยังจะไม่มีเงินจ่ายเลย ฮื่อๆๆๆ” และเดียร์น่าก็กลั้นไม่ไหวปล่อยน้ำตาออกมาอย่างหมดความอดทน เธอพยายามจะเข้มแข็งแล้วแต่พอมาเจอคำพูดพวกนี้ทุกอย่างมันกลับพังลงไม่เป็นท่า ส่วนเมฆาก็ได้แต่นั่งมองเธอนิ่ง เมื่อเขาดันเกิดความรู้สึกไปกับเธออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หัวใจที่เคยแน่นิ่งไม่เคยไหวติงกับสิ่งใดแต่กำลังเต้นรัวกับเดียร์น่าเข้าเสียแล้ว “มาทำงานให้ผมสิ” อยู่ดีๆเขาก็พูดออกมา ทำเอาเดียร์น่าที่ร้องไห้อยู่ถึงกับเงยหน้าขึ้นมองเขา “ทะ...ทำงาน ฮึก งานอะไร...ฮึก” เธอถามขึ้นอย่างแปลกใจ นอกจากเดินแบบแล้วเธอก็ไม่รู้จะทำงานอะไรได้อีก “อืม ก็เธอบอกไม่มีเงิน ผมจะจ้างคุณมาเป็นนางแบบโฆษณาให้กับบริษัทของผมเอง” “ฮึก...เหรอ แล้ว...แล้วบริษัทคุณทำอะไร ฉัน ฮึก ฉันก็ต้องดูงานก่อนสิ” “ไหนบอกไม่มีเงิน ยังจะเลือกงานอีกรึไง” เมฆาอดที่จะว่าให้ไม่ได้ เขาอุตส่าเอาตำแหน่งที่ดารานางแบบทั้งประเทศต้องการมายัดใส่มือเธอแท้ๆกลับจะมาเรื่องมากอีก “ก็...ฉันกลัวจะเป็นงานไม่ดีอีก...” เดียร์น่าบอกขึ้น เมื่อเธอกลัวว่าจะไปเจองานนั่งดื่มนั่งดริ๊งเสียเนื้อเสียตัวเข้าอีก “พรุ่งนี้ก่อนแปดโมงเตรียมตัวให้พร้อม เราจะเข้าไปดูงานและพูดเกี่ยวกับสัญญางานกัน” “แต่ฉัน...ฉันกำลังมีข่าวไม่ดี แถมใครก็ไม่อยากจ้างงานอีก ฉันกลัวว่าจะทำให้บริษัทคุณเสียไปด้วย...” “ผมเป็นคนตัดสินใจ ถ้ามันจะทำให้บริษัทเสียชื่อหรือขาดทุนก็เป็นงานของผมที่ต้องแก้ คุณแค่ทำงานให้ผมให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็พอ ทำได้ไหมล่ะ” “อื้อๆๆ ทำได้สิ” เดียร์น่ารีบพยักหน้าตกลงทันที เธอไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เธอเคยตั้งแง่เกลียดอย่างเมฆาจะช่วยเหลือเธอแบบนี้ “ว่าแต่...คุณชื่ออะไรเหรอ...” เจอกันมาตั้งหลายรอบแต่เธอกลับไม่เคยรู้จักชื่อของเขาเลย “เมฆา...” “อ้อ...คุณก็ดูเป็นคนดีกว่าที่ฉันคิดนะ ไม่เหมือนที่เจอกันครั้งแรก” เมฆาอยากบอกเหลือเกินว่าที่เธอเจอน่ะเมฆินทร์ไม่ใช่เขา แต่ก็เลือกที่จะเงียบเมื่อเธอดูจะไม่ได้เกลียดเขาเหมือนครั้งแรกที่เจอกันแล้ว จากนั้นเดียร์น่าก็เอ่ยลาเมื่อคิดว่ารบกวนเขานานเกินพอแล้ว เธอกลับลงมาที่ห้องของเธอด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ความหนักอึ้งของปัญหาที่มีดูจะทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด “ก็เป็นคนดีนี่ แล้วทำไมตอนนั้นถึงเจ้าเล่ห์แบบนั้นได้ล่ะ ไม่เหมือนคนเดียวกันเลย” เธอได้แต่คิด เมื่อยังไงตอนนี้เธอก็มีงานให้ทำแล้ว ทางด้านเมฆาพอเดียร์น่ากลับไปเขาก็เริ่มคิดโปรเจคใหม่ทันที เมื่ออันที่จริงบริษัทของเขาไม่ได้ต้องการคนเลย แต่เขาอยากช่วยเธอเลยพูดออกไปแบบนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD