เมื่อเห็นสีหน้าประมุขของบ้านผู้เข้าสู่วัยกลางคนทำหน้าเครียดขรึมอยู่ รามิลก็รู้ได้เลยทันทีว่า มาตรการต่อต้านวชิตารีย์ขั้นแรกมันได้ผล หากได้ผลในทางลบอย่างแน่นอน คนต้นคิดถึงได้เครียดอย่างนี้...
“มาแล้วหรือรามิล” ท่านเอ่ยทักทายเขาด้วยน้ำเสียงเรียบ หากแฝงไปด้วยความกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด...
“ท่านชีคมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ....”
“อย่าพูดอย่างนั้นเลย... แค่ที่เรียกนายมาหาทั้งที่มอบหมายงานยุ่งๆ ให้นายทำ ฉันเกรงใจนายจะแย่อยู่แล้ว”
“ท่านชีคต่างหากครับที่ไม่ควรพูดอย่างนั้น... ชีวิตผมเป็นของท่านชีค จะให้ผมทำอะไรตอนไหน ก็ได้ทั้งนั้น” รามิลพูดจากใจจริง
“ขอบใจนายมากนะ ที่ไม่ทอดทิ้งฉัน... ถ้าฉันมีลูกชายคงพอช่วยแบ่งเบานายได้มากกว่านี้” ชีคหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย เขาแต่งงานกับภรรยามาก็มีลูกสาวฝาแฝดเพียงแค่สองคนเท่านั้น... ความเจ็บปวดจากการคลอดลูกฝาแฝดและการตกเลือดเกือบเอาชีวิตไม่รอดของภรรยาที่รักอย่างตามตะวันทำให้เขากับภรรยาตัดสินใจไม่มีลูกกันอีก แม้ว่าตระกูลของเขาจะต้องการผู้ชายสืบทอดมากเพียงใดก็ตาม... ในครานั้นเขากับภรรยาเลี้ยงดูเด็กชายกำพร้าอย่างรามิลประดุจลูกชายแท้ๆ จนรู้สึกได้ว่าไม่ได้ขาดลูกชายเลย... แต่บางครั้งที่เห็นรามิลเหนื่อยกับภาระงานมากมายเพียงคนเดียว โดยที่ยื่นมือเข้าไปช่วยได้น้อยก็รู้สึกว่าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีลูกชายมาช่วยกันดูแลบริษัทใหญ่ระดับประเทศที่ครอบครัวเขาเป็นกรรมการใหญ่ มีสิทธิเด็ดขาดในการบริหาร...
“ไม่เป็นไรหรอกครับท่านชีค อีกไม่นานคุณลูกตาลก็จะช่วยดูแลได้ คุณริยา กับคุณมีนาเองก็มีความต้องการเรียนเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจเช่นกัน... ผมไม่เหนื่อยคนเดียวอีกหรอกครับ เพียงแค่ต้องรออีกหน่อย ให้คุณๆ ทั้งสามโตกว่านี้ จะได้ช่วยกันดูแลกิจการของท่านได้” รามิลพูดถึงน้องสาวฝาแฝดทั้งสอง ที่เรียนเกรดแปดในโรงเรียนประจำชื่อดังในสวิตเซอร์แลนด์
“อีกหน่อยของนาย ฉันอยากให้มันนานๆ เหลือเกิน เพราะพวกนายโตเร็วเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งแก่เร็วเท่านั้น” ท่านพูดกลั้วหัวเราะเพราะอารมณ์ดีขึ้น เมื่อได้รับความจงรักภักดีจากรามิลไม่เปลี่ยนแปลง... ชายหนุ่มวัยย่างยี่สิบเจ็ดไม่เคยทำอะไรให้ลำบากใจมากนัก และทำให้คิดผิดที่ช่วยเหลือเขาไว้และเลี้ยงดูมาประดุจลูกชายแท้ๆ...
หากสบายใจได้ไม่เท่าไหร่ก็วกเข้าสู่เรื่องเครียดอีกครั้งเมื่อต้องพูดเรื่องที่เรียกรามิลเข้ามาปรึกษา
“วันนี้อยู่ดีๆ ลูกตาลก็มาบอกฉันว่าจะไม่ไปเรียนต่าอที่ต่างประเทศ และจะแต่งงานกับอาเหม็ดแทน... วันนี้ก็ออกไปดินเนอร์กับอาเหม็ดแต่หัววันทั้งที่เมื่อก่อนอาเหม็ดมาเทียวไล้เทียวขื่อเท่าไหร่ก็ไม่สนใจอย่างนี้ ในฐานะที่นายเป็นคนที่สนิทกับลูกตาลที่สุด นายบอกฉันได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”
รามิลตกใจ... ไอ้ที่บอกว่าไม่ไปเรียนที่เมืองนอกยังพอทนได้ แต่ไอ้ที่บอกว่าจะแต่งงานกับ อาเหม็ด มะฮัมหมัด รอฮีม นั้นเป็นเรื่องที่เขาแปลกใจมาก เพราะหล่อนไม่ใช่คนที่จะพูดเล่น หรือว่าแกล้งขู่ใคร... เพราะในนิยามของหล่อนถ้าได้พูดแล้วก็คือทำไปแล้ว หรือว่าจะทำเป็นแน่นอน...
เขาถอนหายใจยาว... หล่อนเอาคืนเขาอย่างที่คิดไว้จริงๆ
“คุณลูกตาลต้องทำประชดผมแน่นอน”
“ฉันก็คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะว่าร้อยวันพันปี ลูกตาลไม่เคยสนใจอาเหม็ด แม้ว่าฝ่ายนั้นจะเทียวไล้เทียวขื่อย่างไรก็ตาม แล้วไปโกรธกันยังไง ถึงได้เอาเรื่องใหญ่มาเป็นเดิมพันอย่างนี้...”
“ผมบอกไปว่าผมกำลังคบกันกับสเตฟานี ลูกสาวของมิสเตอร์ วิลเลี่ยม ผู้ผลิตเครื่องจักรและแท่นขุดเจาะน้ำมันคู่ค้าของเราจากอเมริกา เธอขอให้ผมเลิก แต่ผมไม่ยอมเลิก และบอกว่าเธอกับผมไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ไม่ได้เป็นอะไรกัน เธอก็เลยบอกว่าให้ผมไม่ต้องไปยุ่งกับเธอให้ได้ตลอดไป... ไม่นึกว่าเธอจะกลับมาประชดด้วยการไม่ไปเรียนและก็จะแต่งงานกับคนที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นคนไม่ดีและคิดปองร้ายครอบครัวตนเองอยู่”
“ลูกตาล ต้องการให้นายกลับไปหา...โดยที่ไม่ต้องง้อ” ชีคเบนจามีนเดาได้ไม่ยากเพราะเลี้ยงกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จึงได้รู้นิสัยหล่อนดี...
แต่แม้จะรู้ก็อดไม่ได้ที่จะจับยัยลูกสาวจอมเอาแต่ใจมาตีให้เจ็บได้สำนึก เรื่องเล็กแค่นี้ กลับเอาเรื่องใหญ่มาต่อรอง... และได้ลงมือทำไปเสียแล้ว
ไม่ได้เช่นนี้เลย...