10

662 Words
เผลอริมฝีปากออกมาเพียงเท่านั้น ก็ถูกเขาประกบ “อุ๊ย!” “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า พี่คุยกับหัวหน้าแล้ว วันนี้ไม่มีงานด่วนอะไรไม่ใช่เหรอ” “หน้าใหญ่จังนะคะ” “ทำไมพูดงั้นล่ะ” “ก็มันจริงไหมล่ะ มายุ่งกับหนูทำไม เอาเรื่องของตัวเองกับพี่ใหญ่ให้เรียบร้อยก่อนดีกว่าไหม” “ก็จะคุยเรื่องนี้แหละ” สีหน้าของแทนเคร่งเครียด หญิงสาวนิ่งคิด สุดท้ายก็ยินยอมขึ้นรถไปกับแทนจนได้ เพราะเธอยังอยากจะคุยกับเขาเรื่องของพี่สาว ที่เริ่มเห็นชัดว่า ท้องกำลังโต วลีวาดอาจจะแสดงออกว่าเปลี่ยนแปลงตัวเสียใหม่แล้ว การงานของเธอที่เพิ่งเริ่มต้นก็ดูจะไปได้ดี แต่ลึก ๆ วาดวลีแอบเห็นพี่สาวมีอาการเศร้าสร้อยเหมือนกัน แม่เองก็ต้องการคำตอบโดยเร็ว เพราะไม่ได้ต้องการให้ลูกสาวท้องโตโดยไม่มีพ่อ อย่างน้อยที่สุดควรจะได้แต่งงานแต่งการให้เรียบร้อย ความเคร่งเครียดไมได้มีเฉพาะกับวลีวาดเพียงคนเดียว วาดวลีเองก็พลอยเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย “พี่คุยได้เลย รีบ ๆ ด้วย” “แหม เพิ่งขึ้นรถมาเอง จะรีบร้อนไปไหน หาอะไรทานกันก่อน ใจเย็น ๆ” “พี่ทำให้ครอบครัวของหนูเดือดร้อน” “พี่เข้าใจ แต่ก็ต้องคุยกันก่อน” แทนพยายามสงบสติอารมณ์ให้เย็นลง เวลานี้...เขาไม่สู้มั่นใจนักหรอกว่า มันจะเป็นไปอย่างที่ใคร ๆ คาดคิด เขายังรักวลีวาด เพียงแต่ต้องขอเวลา เพราะสถานการณ์ในชีวิตของตัวเขาเองยังไม่สู้ดีมากนัก เมื่อไม่มีเงิน เขาจึงคิดว่าสู้นิ่งเฉยดีกว่า เพราะขืนเข้าไปสู้หน้าพ่อแม่ของวลีวาด รังแต่จะถูกคาดคั้นให้เคร่งเครียดเสียเปล่า ๆ “ทำไมไม่ไปคุยกับพี่ใหญ่” “เราคุยกันอยู่” แทนตอบพลางเบาเครื่องลง และเลี้ยวเข้าไปในร้านอาหารเล็ก ๆ ที่หมายตาเอาไว้แต่แรก “คุยกัน” “ครับผม คุยกันอยู่ มีแต่คุณเท่านั้นแหละที่ไม่รู้ว่าเราคุยกัน” “ไม่เห็นไปบ้านเลย” เสียงอ่อนลง “อยากเห็นหน้าพี่เหรอ” “บ้า ไม่ใช่หนูซักหน่อย พี่ใหญ่โน่น” วาดวลีหน้าแดงขึ้นมาเอง หัวใจพลันเต้นรัวขึ้นมาเอง นั่นเป็นเพราะแววตาของเขา เพียงแค่หันมาสบเพียงนิดเดียวเท่านั้น ก็ให้อดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้เสียทุกครั้ง นี่คือผู้ชายที่หล่อนรู้สึกพึงใจหรือชิงชังตั้งแต่แรกเห็นหรือไม่ แม้แต่ในความคิดของหล่อนเองก็ยังไม่อาจตอบได้อย่างจริงจัง และที่แน่ ๆ เขาไม่ใช่ผู้ชายของหล่อน แต่เป็นของพี่สาวของหล่อนต่างหาก! คิดมาถึงตรงนี้แล้ว วาดวลีรู้สึกชังตัวเอง หล่อนไม่น่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาจนมากเกินไป มันกลายเป็นบทเรียนราคาแพง โดยเฉพาะเมื่อตัวหล่อนเองไม่สามารถหักห้ามหัวใจไม่ให้หวามไหว “ทานข้าวเสร็จก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน” เขาตัดบทดื้อ ๆ แล้วเปิดประตูก้าวออกจากรถ วาดวลีจำเป็นต้องก้าวตามออกไป “พี่เลี้ยงเอง” แทนว่า ท่าทางเหมือนกุมชัยชนะบางอย่างเอาไว้ แม้ว่าไม่อยากจะคุย ไม่อยากจะสบตากับเขาดี ๆ นัก ทว่าส่วนลึกของวาดวลีกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด ไม่เคยมีสักครั้งที่จะมีชายหนุ่มนั่งทานข้าวกับหล่อน นี่คืออารมณ์ของคนมีแฟนชัด ๆ แต่ก็ต้องคอยเตือนตัวเองว่าเป็นไปไม่ได้เหมือนเดิม เพราะภาพของวลีวาดผุดขึ้นมาเตือนอยู่เนือง ๆ หลังทานแล้ว ระหว่างทางนั่งรถกลับออฟฟิศต่างหากล่ะที่มีปัญหา เพราะแทนจอดรถ ชิดข้างทาง และก่อนที่หญิงสาวจะทันได้พูดอะไรออกมา เขาก็คว้าร่างของหล่อนเข้าหา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD