“หัวหน้า! เอเลน!” คนในทีมที่ควบคุมสายฉีดน้ำตะโกนออกไปด้วยความตกใจ
“เรามาถึงแล้ว ทีมสองแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกรีบต่อสายฉีดช่วยดับเพลิงให้เร็วที่สุด ส่วนอีกกลุ่มฝ่าเข้าไปช่วยคนด้านใน เพดานที่ถล่มลงมาดับไฟบางพื้นที่แล้ว เราต้องจัดการให้เสร็จก่อนจะมีตรงไหนถล่มลงมาอีก” หน่วยเสริมมาถึงด้วยความรีบร้อน พวกเขาอยู่ไกลออกไปจึงเดินทางมาช้ากว่าที่คิด
“เมื่อครู่หัวหน้าแจ้งว่าถึงบันไดทางลงมาชั้นแรกแล้ว ผมคิดว่าพวกเขาอาจได้รับบาดเจ็บครับ” รองหัวหน้าทีมหนึ่งแจ้งสถานการณ์กับหัวหน้าของอีกทีม
“เตรียมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้พร้อม เราจะช่วยพวกเขาออกมา” แจสเปอร์สั่งการลูกน้องในทีมก่อนหันไปพยักหน้าให้ฝ่ายนั้นเบาใจ
เนื่องจากเพดานด้านบนร่วงลงมาทำให้การเดินเท้าต้องระวังพอสมควร ทีมสองจำนวนสี่คนพร้อมถังดับเพลิงช่วยกันเปิดทางเพื่อให้ง่ายต่อการตามหาผู้รอดชีวิต บันไดขึ้นชั้นสองได้รับความเสียหายบางตำแหน่งแต่ก็ยังสามารถก้าวไปได้ทีละคน
“อเล็กซ์!” หัวหน้าทีมสองตะโกนก้องเมื่อพบว่านักดับเพลิงสองคนใช้ร่างตนเองรับแรงปะทะจากเศษปูนแล้วนำผู้ประสบภัยไว้ตรงกลางระหว่างทั้งคู่
เรียกได้ว่าเป็นการตัดสินใจในช่วงเวลาคับขัน พวกเขาไม่ได้ปรึกษากันแต่ทำตามสัญชาตญาณ ร่างกายที่มีชุดป้องกันในระดับหนึ่ง ทั้งยังใส่หมวกนิรภัยย่อมมีโอกาสบาดเจ็บน้อยกว่าบุคคลธรรมดา การช่วยเหลือเป็นไปอย่างราบรื่นเนื่องจากไม่มีการถล่มของบ้านเพิ่มเติม เปลหามคนเจ็บถูกเข็นขึ้นรถพยาบาลที่ถูกเตรียมรอไว้ตั้งแต่ต้น
“เอเลน เป็นยังไงบ้าง” ทุกคนในทีมมาดูอาการหญิงสาวหนึ่งเดียวของหน่วยด้วยความเป็นห่วง ทางด้านอเล็กซ์ปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บหนักมีแค่รอยฟกช้ำบางแห่ง แต่ของเธอถึงกับหัวไหล่หลุดเลยทีเดียว
“เย็นนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วค่ะ” บาดเจ็บเท่านี้ไม่นับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเธอ
“งั้นลาพักไปสักอาทิตย์นึงเถอะ” เคิร์ตไม่อยากให้ลูกน้องต้องแบกร่างกายที่ไม่เต็มร้อยไปทำงานเสี่ยงอันตราย
“ค่ะ” เอเลนก็ตั้งใจไว้แบบนั้น
“อยากให้ไปอยู่เป็นเพื่อนไหม” อเล็กซ์เอ่ยปากถาม เขามองอีกฝ่ายเหมือนน้องสาวที่เก็บความรู้สึกหลายอย่างไว้ในใจ
“แค่ไหล่หลุดเองค่ะ สบายมาก” คงทำกิจวัตรประจำวันติดขัดไปบ้าง แต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงเท่าไหร่
“ถ้ามีอะไรติดต่อพวกเราได้” หนึ่งในทีมบอกด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง พวกเขาร่วมฟันฝ่าความเป็นความตายมาด้วยกัน ห่วงใยกันย่อมเป็นเรื่องปกติ
“ฉันบอกแน่” ริมฝีปากอิ่มฉีกยิ้มให้ทุกคนคลายกังวล ความรู้สึกอบอุ่นนี้ช่วยให้เธอมีแรงใจขึ้นมาก
พวกเขาพูดคุยอีกสักพักก็แยกย้ายขอตัวกลับ เหลือหญิงสาวที่รอคุยกับหมอเจ้าของไข้อีกสักหน่อยก็ไม่คิดจะรอถึงตอนเย็นเช่นกันเพราะไม่ชอบการนอนโรงพยาบาล แม้การกลับบ้านจะไม่แตกต่างเท่าไหร่ในเมื่อสุดท้ายเธอก็ต้องอยู่เพียงลำพัง
เอเลน ซู ลูกครึ่งสหรัฐอเมริกา-จีน เป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่ 5 ขวบ จากอุบัติเหตุไฟไหม้บ้านพัก วันนั้นครอบครัวทั้งหมดของเธอเสียชีวิตในกองเพลิงโดยที่ตนเองรอดมาได้เนื่องจากเอาของฝากมาให้คุณปู่คุณย่าซึ่งอยู่บ้านบล็อคถัดไป และเพราะดึกแล้วจึงนอนค้างที่นั่นทำให้ไม่ได้อยู่กับครอบครัวในคืนนั้น การตรวจสอบพบว่าเกิดจากแก๊สรั่ว เอเลนจึงถูกคุณปู่คุณย่าเลี้ยงดูมาโดยตลอดจนกระทั่งเธออายุได้ 30 ปี พวกท่านก็จากไปด้วยโรคชรา
ผ่านมาสามปีแล้วที่หญิงสาวต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว เธอเลือกอาชีพนักดับเพลิงเพราะปมในวัยเด็กแต่ไม่ใช่เพียงเหตุผลนั้น ทุกครั้งที่เกิดเหตุไฟไหม้ความรู้สึกไม่อยากให้มีใครต้องสูญเสียเหมือนตนมันพุ่งสูงจนไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้ เอเลนเริ่มฝึกฝนร่างกายตั้งแต่ยังเรียนอยู่ วิ่งตอนเช้า เข้ายิม ฝึกการต่อสู้เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ แบกของหนักเดินขึ้นลงบันไดโดยเพิ่มปริมาณทีละนิดให้คุ้นชิน ทำซ้ำๆ วนไปวนมาหลายปีจนในที่สุดก็สามารถผ่านการทดสอบแสนโหดหินของหน่วยดับเพลิงได้
“กลับมาแล้วค่ะ” เสียงหวานออกแหบทักทายรูปครอบครัวที่ตั้งอยู่ตรงตู้วางของหน้าทางเข้า เอเลนอยากรู้สึกว่ามีพวกเขาคอยต้อนรับทุกครั้งที่กลับถึงบ้าน
เสื้อผ้าถูกถอดโยนลงตะกร้าเผยเรือนร่างบอบบางที่ดูแข็งแกร่งกว่าผู้หญิงหลายคน เธอไม่เคยรังเกียจรูปร่างตนเอง เพียงแต่มีหลายครั้งที่ถูกผู้ชายมองมาด้วยสายตาไม่ดีนัก คงเพราะไม่ได้ดูอ่อนแอนุ่มนิ่มแต่กลับเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจากการออกกำลังอย่างหนัก แขนของเธอใหญ่กว่าผู้ชายบางคนด้วยซ้ำ จึงไม่แปลกที่จนป่านนี้เอเลนยังไม่มีแฟนหรือคนรักเลยสักคน ส่วนอีกเหตุผลคงเพราะเธอทำงานที่เสี่ยงชีวิตเกินไป ความเป็นห่วงของคนรอคุณย่าเคยบอกกล่าวให้ฟังสองสามครั้งซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
บ้านสองชั้นหลังนี้เป็นของคุณย่ากับคุณปู่พวกท่านมอบให้เป็นมรดกตกทอด ทั้งที่มีเงินเก็บจำนวนไม่น้อยแต่เธอก็พอใจกับบ้านที่เคยอยู่มากกว่าการหาซื้อหลังใหม่ โดยชั้นล่างตกแต่งคล้ายยิมเพื่อให้สามารถฝึกฝนร่างกายในบ้านได้
“อืม….ยังไม่ได้อ่านเล่มไหนบ้างนะ”
ชั้นสองเป็นห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องหนังสืออีกหนึ่งห้อง ตู้มากมายเรียงรายติดผนัง ตรงกลางเป็นโซฟาปรับนอนได้เหมาะสำหรับยามต้องการความผ่อนคลาย เอเลนเป็นคนชอบอ่านหนังสือหลากหลายแนว ช่วงนี้สนใจเนื้อเรื่องแนวย้อนยุคเป็นพิเศษ แม้จะนานๆ ได้อ่านทีก็ถือว่าสร้างความบันเทิงใจได้ไม่น้อย เฉพาะในห้องนี้ก็มีหนังสืออยู่ราวๆ สี่ร้อยเล่มแล้ว
หลังจากอาบน้ำเสร็จเอเลนเดินตรงไปยังโซฟาตัวโปรด เธอทรุดกายลงนั่งแล้วทิ้งน้ำหนักไปที่พนักพิงด้วยความอ่อนล้า ภาพหญิงสาวที่ตนช่วยไว้มาก้มหัวกล่าวขอบคุณซ้ำไปซ้ำมายังคงติดตาไม่จางหาย เด็กน้อยสองคนจับมือกันแน่นคงเพราะยังหวาดกลัวอยู่ พวกเขาทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก เพียงสูดควันเข้าไปในปริมาณมากแต่ยังไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต
“ดีจัง” ริมฝีปากสีซีดอมยิ้มด้วยความอารมณ์ดี ความสุขจากการได้ช่วยเหลือคนอื่นมันปริ่มล้นออกมาจนสัมผัสได้ หากพวกเขาตัดสินใจกันช้าเกินไปคนเป็นแม่อาจสิ้นใจในกองควัน ส่วนเด็กทั้งสองแม้จะช่วยไว้ได้….มันก็จะไม่มีทางเหมือนเดิมอีก เรื่องนั้นเธอรู้ดีที่สุด
นอกจากคนในทีมดับเพลิงแล้วเอเลนไม่มีความสัมพันธ์กับใครเป็นพิเศษ เธอไม่คิดอยากมีเพื่อนแก้เหงาหรือคนคุยแก้เบื่อ เมื่อมีเวลาพักก็นอนอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตโดยไม่ยึดติดกับอะไรเพราะงานของเธอมันอันตรายจึงไม่อยากทำให้ใครเป็นห่วงหรือถูกทิ้งไว้ข้างหลังจมอยู่กับความเสียใจที่ต้องพรากจากกันอย่างไม่มีวันหวนกลับ
ติ๊ง
เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์เรียกความสนใจของคนที่นอนเอกเขนกกึ่งหลับกึ่งตื่น ด้วยไม่ได้อ่านหนังสือมานานบวกกับการกินยาแก้ปวดทำให้หญิงสาวค่อนข้างเพลียเล็กน้อย พอได้มานอนโซฟานุ่มๆ แอร์เย็นๆ ย่อมง่วงเป็นธรรมดา
มือหยาบกร้านจากการยกของหนักเป็นประจำหยิบเจ้าหน้าจอสี่เหลี่ยมขึ้นมาดู ดวงตาคู่สวยปรือมองตัวหนังสือที่ขึ้นโชว์อยู่บนหน้าจอ มันเขียนเอาไว้ว่า ‘ครบรอบ’ สั้นๆ แต่ถึงอย่างนั้นข้อความนี้กลับทำให้แววตาที่เคยมั่นคงสั่นไหว เธอไม่เคยลืมมันเลยเพียงแต่ทำเหมือนมันไม่อยู่ในความทรงจำ ไม่งั้นคงไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไปได้ ความโศกเศร้าเสียใจมันรุมเร้ากัดกินจนถึงกระดูกยากหลุดพ้น ทางเดียวคือทำเหมือนลืมไปแล้ว นั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุด กระนั้นก็จะมีหนึ่งวันที่เอเลนมิอาจทำเมินเฉยได้ นั่นคือวันครบรอบการตายของพวกเขา
“วันนี้คงไม่ได้พักสินะ”
เสียงแหบหวานพึมพำเบาๆ ก่อนตัดสินใจลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมาะกับสถานที่ที่ตนต้องมุ่งหน้าไป ใช้เวลาไม่นานนักเอเลนก็มาถึงจุดหมาย ปลายทางของความเจ็บปวดในวันวานที่ไม่มีทางลืมเลือน
............................................................................................