หัวสมองว่างเปล่าโล่งแจ้งยิ่งกว่าสนามฟุตบอลที่มีเพียงหญ้าในสนามไร้นักเตะ ประโยคต้องการร้องขอความช่วยเหลือหายลงคอ เหลือเพียงจุมพิตปีศาจจาบจ้วงดั่งคนหิวกระหายอาหารรสอร่อยมาสักสิบชาติ ลิ้นร้ายจ่อตามมาหลังจากสามารถเปิดปากคนอ่อนระทวยให้เผย่อรับการรุกรานจากเขาง่ายดาย กลิ่นกายเคยสัมผัสที่เธอกำลังพยายามประมวลด้วยหยักสมองที่เหลือน้อยนิดตอนนี้เขาคือใครกันแน่ ช่างจูบได้เอร็ดอร่อยเกินต้านทาน
มือหนายังเค้นคลึงอยู่ตรงแก้มเนียนราวกับบีบบังคับให้เธอตอบสนองในเวลาเดียว ด้วยอาการตกใจ หรือไม่ประสาก็แล้วแต่ต่างประดังประเดหลอมรวมอยู่ในร่างคอลัมนิสต์สาว เผลอตอบสนองจูบเอาแต่ใจจากคนแปลกหน้าอย่างไม่ประสา ไม่ต่างกับเด็กอนุบาลหรือว่าเด็กอนุบาลยังเก่งกว่าเธอสิบเท่า ผู้มอบจุมพิตอดลอบยิ้มกับการตอบสนองเงอะงะของแม่สาวตัวหอมคนนี้ไม่ได้ ช่างเป็นจูบไร้เดียงสาที่สุดเท่าที่เขาเคยประสบมา ไม่เสียแรงทีแอบจ้องมองตั้งแต่เธอลากกระเป๋าลงจากแท็กซี่ กระทั่งมาหยุดตรงหน้าเคาน์เตอร์ เขาจึงตามเธอเข้ามาถึงในลิฟต์ โชคเข้าข้างนักจารกรรมจูบตรงที่ในลิฟต์ล้างผู้โดยสาร
ขณะสองหนุ่มสาวกำลังเมามันกับพัวพันลิ้น ชายหนุ่มกำลังมันตรงข้ามกับหญิงสาวกำลังเมา มะลิวิงเวียนในหัวสมองว่างเปล่าหมุนคว้างไปหมดราวใครสักคนจับเธอเหวี่ยงนับหลายสิบรอบ ตอนนี้แม้แต่ผละไปจากกรงเล็บของเขา ยังยากจะทำ ทั้งที่จริงๆ ไม่ได้ยากเย็นแต่อย่างใดหากคิดจะทำ หรือร้องขอความช่วยเหลือจากใครก็ได้ที่อาจผ่านไปมาระหว่างชั้น ด้วยเหตุใดมะลิจึงไม่กระทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนการเอาแต่ใจ
ติ้ง !
เสียงสัญญาณบอกให้รู้ว่าถึงชั้นที่ถูกกดไว้แล้วเลขดิจิตอลสีแดงหยุดที่ชั้นสิบห้าที่หญิงสาวกดไว้ ประตูลิฟต์เปิดอ้า ยังคงเหลือเลขชั้นสามสิบที่ชายหนุ่มเป็นคนกดไว้ ประตูลิฟต์เปิดแล้วสองหนุ่มสาวยังคงประกบปากแนบสนิทด้วยท่วงท่าที่ควรจะไปต่อกันที่ห้องได้ทันที สายตาห้าคู่ต่างจ้องมองการแลกน้ำลายด้วยรอยยิ้ม ต่างคิดตรงกันคู่หนุ่มสาวคงอดใจไม่ไหวแค่รอให้ถึงห้องยากเต็มที
“หึ”
ฝ่ายคนขโมยจูบผละห่างเล็กน้อยด้วยอาการเสียดาย พ่นเสียงฮึดจากปากก่อนผละจากห่าง เขาหันไปทางประตูสายตาปะทะกับสายตาพราวแพรวนับหลายคู่ ขณะหญิงสาวหยัดกายลำบากยากเย็น รวมทั้งต้องพยายามรวบรวมสติที่กวัดแกว่งลอยคว้างอยู่กลางอากาศเพื่อกลับสู่ร่างของตน ก้างชิ้นโตหลายชิ้นคือระฆังช่วยชีวิตหญิงสาวไว้ นักจารกรรมจูบถือโอกาสฉวยข้อมือหญิงสาวก้าวออกจากลิฟต์ไม่อายสายตาที่จับต้องอยู่หน้าประตู ท่าทางเขานิ่งราวกับสิ่งที่เขากระทำเป็นเพียงการดื่มชาสักถ้วยเท่านั้น ขณะมะลิเหมือนถูกไฟพันองศากำลังลวกจนไหม้เกรียมทั้งตัว
นักจารกรรมแห่งปารีสหน้าหล่อ ตัวสูงกลิ่นกายสะอาดแห่งบุรุษเพศแถมคุ้นในความรู้สึกของมะลิมากมายนัก มือใหญ่นุ่มนิ่มของเขายังคงกุมมือเล็กไว้ในอุ้งมือแน่นไม่ยอมปล่อย ในสมองที่เหลือสติน้อยนิดของมะลิ อยากขยับปากส่งคำถามมากมายแก่เขา และมากกว่านั้นเธอกลับพอใจอุ้งมือใหญ่ที่กำลังกอบกุมรั้งมือเล็ก เหนือสิ่งอื่นใดกว่าการมุ่งมั่นกลับไม่บรรลุผล เมื่อเขาจูงเธอมาเรื่อยๆ ตามทางเดิน ไม่เท่านั้นมือใหญ่อีกข้างยังฉวยกุญแจห้องพักในมือเธอไปหน้าตาเฉย แย่ตรงที่เธอปล่อยให้เขากระทำโดยไม่ปัดป้องหรือดุด่าสักนิด กายสูงพลิกดูตัวเลขบนป้ายสี่เปลี่ยนสีเงินของโรงแรมแห่งนี้ นัยน์ตาสีเทากรอกไปมาจากนั้นร่างสูงใหญ่ชะงักหยุดตรงหน้าห้องที่มีเลขตรงกับบนป้ายพวงกุญแจสี่เหลี่ยม
“ห้องนี้เอง เอาเป็นว่าผมส่งแค่นี้นะครับ” เสียงทุ้มกล่าวกับหญิงสาว
“เอ่อ...” สติมะลิเริ่มกลับมา “คุณชะ...” ยังไม่ทันได้ถามชื่อ ร่างสูงนั้นก็ผละจากไปราวกับแรงลมพัดผ่าน หรือเพราะเธอขาดสติจากจุมพิตนั้นคือสาเหตุ ใครจะควบคุมสติอยู่ได้ตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้เพิ่งเคยโดนจูบครั้งแรก แม้แต่แฟนเก่าที่เลิกรากันไปเพราะเขาเห็นผู้หญิงคนอื่นเหมาะสมกว่า ข้ออ้างในการจากลาอย่างบัดซบหาว่าเธอบ้างานเกินไป ก็ยังไม่เคยทำกับเธอแบบนี้สักครั้ง ผู้ชายคนนี้เจอกันไม่รู้จักกันจู่ๆ จูบๆ แล้วจากไปหน้าตาเฉย ผิดตรงที่เธอยังคงไม่โวยวายนี่สิ
นักจารกรรมจูบก้าวเข้ามาอยู่ในลิฟต์เขายิ้มบางกับตัวเอง ยกนิ้วแกร่งไล้ริมฝีปากตัวเองไม่ต่างจากเพิ่งรับประทานของอร่อยติดปากหมาดๆ อาดิล การ์ริสม็อง ไม่เคยเดือดดิบในกายกระทั่งลงมือจารกรรมจูบจากสาวแปลกหน้าเพราะคุ้นกลิ่นกายเท่านั้น ที่ทำให้เขาขาดสติยับยั้งตัวเองไม่ได้ เขากลายเป็นคนติดกลิ่นตั้งแต่อยู่ในงานเลี้ยงห้องเสื้อกานต์ดา แม่สาวหน้ากากขนนกหุ่นดีกลิ่นกายหอมสะอาด คล้ายกลิ่นน้ำหอมยี่ห้อดังที่สร้างสรรค์จากพรรณพืชสกัดเป็นหัวน้ำหอม น้ำหอมพวกนั้นอยู่ในขวดไม่ไม่หอมเท่าอยู่บนตัวสาวรูปร่างเต็มมือคนนั้น กลับสร้างกระแสความปรารถนาในกายเขาให้ลุกโชนทั้งที่ยังอยู่ในที่สาธารณะ
นาทีที่เขารุกเร้าลงมือจารกรรมจูบจากเธอ อาดิลค่อนข้างสติไม่สมประดีนักขาดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ในชีวิตอาดิล ต่อให้มีผู้หญิงมากมายมายั่วยวนถ้าเขาไม่ต้องการ ต่อให้แก้ผ้ากระดิกนิ้วรอด้วยชั้นเชิงเหนือเมฆ ชายหนุ่มนั้นไม่มีวันลงไปคลุกเคล้าแน่นอน ทว่าเมื่อกี้เขาขาดสติอย่างแท้จริงจู่ๆ ปลายเท้าที่ควรอยู่นิ่งกลับหันไปทางหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าเรียวมน สะอ้านสดใสทั้งมือที่ไม่อยู่นิ่ง คว้าใบหน้าเรียวเพื่อแหงนรับจุมพิตที่เขาใคร่ปรารถนาในตัวเธอจูบตอบไม่ประสาแต่กลับฉุดกระชากฮอร์โมนส์ไหล่พล่านง่ายดาย
ยิ่งเมื่อการตอบสนองราวกับเด็กแรกเกิดจากเธอ หัวใจหนุ่มไม่เคยขาดรักกลับพองคับอก รีบรุกรานซอกซอนลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากเพื่อค้นหาความหวาน และเขาก็พบว่าความหวานที่เขาต้องการมีอยู่จริง เสียงร้องอู้อี้ แทนทีจะทำให้เขาละอายและยุติการกระทำ ปลายลิ้นร้อนกลับรุกไล่หนักขึ้น หากไม่ได้เสียงลิฟต์ดังแทรกขึ้นพร้อมกับสายตานับห้าคู่ที่จ้องมองอย่างกับร่วมฉลองความยินดีในความรักระหว่างคนทั้งคู่ อาดิลคงไม่หยุดการกระทำอุกอาจนั้นแน่ เพราะหญิงสาวช่างหวานล้ำเหลือเกิน
การที่เขาผละหนีมาปัจจุบันทันด่วน โดยไม่เอ่ยถามชื่อ หรือเขาเองไม่แนะนำตัวกับเธอไม่ใช่กลัวการโดนบริภาษ แต่กลัวอดใจลากเธอเข้าห้องไม่ไหวต่างหาก อาดิลสะกดตัวเองอยู่ในลิฟต์หลายนาที เพื่อสลัดความเร่าร้อนไม่กี้นาทีกับเธอผู้นั้นทิ้งไป
เพราะเพิ่งนึกได้ว่าเขาต้องไปพบใครบางคนได้นัดบนห้องเพนท์เฮ้าส์ในโรงแรมแห่งนี้ สาวสวยทายาทจิวเบอรี่ที่จู่ๆ ก็เข้ามาติดพันเขาอย่างช่วยไม่ได้ ตอนแรกอาดิลเอ่ยปากปฏิเสธแต่เพราะหล่อนรบเร้าต้องการเจอเขาให้ได้ เขาเตรียมความพร้อมกับหล่อนไว้ทุกขบวนท่าแสร้งซื่อไม่รู้ประสาที่หล่อนนัดเขามายังสถานที่แบบนี้เพียงแค่อย่าให้หล่อนหมดเรี่ยวแรงหนีเขาไปเสียก่อนเท่านั้น ลองแม่สาวร้อนแรงนัดเจอในห้องพักขนาดนี้ คงไม่ได้มาเพื่อพูดคุยกันเรื่องแบบเสื้อหรือเครื่องประดับที่เขาให้เลขายื่นเสนอขอยืมเพื่อนำมาแสดงในงานแฟชั่นโชว์ คอลเลคชั่นใหม่รับซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน
ฝ่ายมะลิไขกุญแจเข้าไปในห้องสแตนดาร์ดที่เลขาของคณาทิปจองไว้ล่วงหน้า บรรยากาศจัดได้ว่าดีทีเดียว เธอเป็นคนอยู่ง่ายกินง่ายต่างจากคณาทิปลิบลับ แอบสงสัยอยู่นิดก็ไหนคณาทิปบอกว่ามีงบจำกัด ทำไมจองห้องพักให้กับเธอซะหรูหนำซ้ำยังเตียงคู่อีกด้วย แต่ทุกอย่างก็เฉลยในในเมื่อย้อนกลับไปหวนคิดว่าคณาทิปติดหรูอะไรทุกอย่างต้องดีเลิศเสมอ มะลิจึงปัดความคิดสงสัยทิ้งไป การมาปารีสคงไม่มีหน้าพักห้องสูทหรูหรา โรงแรมระดับนี้สำหรับเธอคงเล่นงานจนกระเป๋าฉีก ห้องสแตนดาร์ดเตียงคู่ ขนาดใหญ่นอนสบายเกินพอ ขณะสำรวจห้องพักหัวใจก็กำลังเต้นระส่ำ เหตุมาจากนักจารกรรมจูบเมื่อกี้คนเดียวแท้ๆ เขาหนีเธอไปอย่างลอยนวลในขณะเธอเองไม่ได้โวยวายประการใด ผิดวิสัยตัวเองอยู่อย่าง เธอเองก็ยังงงกับปฏิกิริยาที่แสดงออกมากทีเดียวทำไมไม่ขัดขืน ทำไมไม่สลัดตัวเองออกจากพันธนาการหลวมๆของเขา ทำไมต้องตอบสนองการกระทำรุกเร้าของเขาด้วย ที่สำคัญเขาคือใคร โดนจารกรรมจูบแรกไปจากวัยสาวหน้าด้านๆ
“โอ้ย” มะลิกรีดร้องเสียงดังเหมือนตัวเองยืนอยู่หน้าหน้าผา ดีนักที่ห้องนี้เก็บเสียงดีชั้นยอด เสียงกรีดร้องจึงไม่กระจายออกไปด้านนอก
เมื่อกรีดจนสมใจพร้อมกับอาการแสบคอตามมามะลิไอแครกๆ ร่างบางทรุดลงนั่งปลายเตียงเอนหลังลงนอนหงาย พยายามสลัดภาพทุกภาพทิ้ง เฝ้าวนเวียนถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมากับคำถามเดิมๆ ในหัวใจ คำตอบที่ตอบตัวเองคือไม่รู้ทำไมเธอไม่จัดการกับเขา เจ็บใจตัวเอง พอๆกับเจ็บใจคนบ้าหล่อลากคนนั้น เอ...หรือว่าเธอบ้าคนหล่อไปแล้ว มะลิสงสัยตัวเอง
ส่วนอาดิลเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่งบนชั้นสามสิบชั้นสูงสุดของโรงแรมสี่ดาว ชั้นนี้แทบไม่มีแขกพักอาศัย นับได้ถึงความส่วนตัวระดับวีไอพี แม้ความหรูจะไม่เท่าโรงแรมห้าดาวหรือเจ็ดดาว แต่ก็จัดได้ว่าหรูหราไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ลดลั่นตามสิ่งอำนวยความสะดวก เขายกมือเคาะประตูสามครั้งติดๆ รอไม่ถึงอึดใจประตูถูกเปิดอาดิลมองคนด้านใน ในชุดเย้ายวนเซ็กซี่ขยี้ใจด้วยเดรสหนังสีดำเกาะอกรัดรูปเต่งตึงอวดความงามอวบอิ่มเกินรูปร่างบอบบางเพราะรักษาดูแลรูปร่างเป็นอย่างดี