เพลิงเสน่หาจอมมาร

ตอน 4

หลังไฟดับหรือก่อนไฟดับด้วยซ้ำคณาทิปเอ่ยขอตัวกับป้าคู่เต้นรำท่าทีเบื่อหน่าย ไม่สนแววตาเว้าวอนที่ป้ากระบังสูงเรียกร้องให้เขาหยุดเลยแม้แต่น้อย คงเป็นจำพวกป้าสังคมชั้นสูงอารมณ์เปลี่ยว แต่ดันเปลี่ยวผิดที่ผิดทางมาเปลี่ยวกะเขาผู้ไม่พิสมัยสตรี ถ้าเป็นหนุ่มหน้ากากสีดำหุ่นทรมานใจก็ว่าไปอย่าง ต่อให้ต้องถวายทั้งตัวรวมถึงประเคนเงินทองเจ้ยอมถวายสุดชีวิตเลยเชียว

            “แล้วหล่อนล่ะได้เต้นกับหนุ่มหล่อ แต่ดันหายออกไปจากงาน อุ๊บ...” คณาทิปรีหุบปากฉับ

            “ว่าแต่เจ๊รู้ได้ยังไงว่ามะลิหายออกมาจากห้องจัดเลี้ยง” ตอนที่มะลิวิ่งออกไปก็ไม่เจอคณาทิปตามหาอยู่ตั้งนั้น มะลิจึงนั่งรออยู่ตรงล็อบบี้จู่ๆ คณาทิปดันโผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ คณาทิปเห็นว่ามะลิพกพาท่าทีแปลกๆ พอเจอหน้ากันรีบคว้ามือลากคณาทิปกลับไปที่รถ ไม่พูดพล่ามทำเพลงคณาทิปคิดไปว่ามะลิคงเซ็งอารมณ์ไม่ต่างกัน หรือชายผู้ดูดีทุกกระเบียดคนนั้นไม่ประสา ในการชักจูงใจสาวสวยให้สนใจ ในการเต้นรำกันแน่  

            “เซ็งเหมือนเจ๊แหละ หมอนั่นเต้นรำไม่ได้เรื่องสักนิด เหยียบดิออร์ของมะลิเกือบพัง” หญิงสาวว่าพลางซ่อนดวงตาผลุบต่ำซ่อนเรื่องราวซึ่งตรงข้ามกับเรื่องจริง ใครจะบอกคนอื่นได้วะว่าตนเองใจสั่นกับสัมผัสของชายหนุ่มคู่เต้นรำคนนั้น ซึ่งแม้แต่ชื่อเสียงเรียงนามยังไม่รู้จัก น่าขายหน้าสิ้นดีในสั่นกับคนแปลกหน้า   

            “ว้าย ! ตายเหยียบดิออร์ของฉันด้วยหรือยะ แต่นั่นดิออร์ของฉันนะยะไม่ใช่ของหล่อน” คณาทิปถือโอกาสทวงของ ทั่วสรรร่างของมะลิเมื่อคืน มาจากห้องแต่งตัวเจ้าของสำนักพิมพ์ทั้งนั้น

            “นั่นล่ะของเจ๊ มะลิไม่สบอารมณ์เลยหนีมาดื้อๆ” มะลิกรอกตาอย่างอยู่ไม่สุข รู้สึกร้อนทั่วพวงแก้ม ได้แค่แอบหวังว่าคงไม่แสดงอาการเขินต่อหน้าเจ้านาย 

            “พอๆ เลิกคุยเรื่องเมื่อคืนพูดไปงานใหญ่จริง แต่ไม่สบอารมณ์” คนชวนคุยสลัดหน้ากากงานปาร์ตี้เมื่อคืนทิ้งฉับพลัน หยิบแฟ้มงานสำคัญที่ตั้งใจเรียกมะลิมาพบในเช้านี้ขึ้นมาแทนการสนทนาไร้สาระ

            “อะไรเจ๊” มะลิเหลือบมองแฟ้มสีดำบนโต๊ะเจ้านาย  “งานนอกสถานที่หรือไรเจ๊ถึงเรียกมาพบเป็นการส่วนตัว ไม่เรียกทีมประชุมกันครบองค์ประชุมก่อนหรือไร” ทุกทีเวลางานมีงานสำคัญหรือง่านด่วนพิเศษคณาทิปต้องเรียกประชุมเพื่อแบ่งงานตามหน้าที่

            “ตามสัมภาษณ์นักธุรกิจในวงการแฟชั่นคนหนึ่ง” เจ้านายบอกวัตถุประสงค์ที่ได้วางไว้แบบเร่งด่วน เขาเล็งเห็นใครเหมาะกับงานนี้ที่สุดในบรรดาคอมลัมนิสต์ทั้งหมดหกคน ประจำแต่ละคอลัมในสำนักพิมพ์ ไทม์ไลน์ แฟชั่น

            นิตยสารไทม์ไลน์แฟชั่น รวบรวมเรื่องราวในวงการแฟชั่นมากมาย ตั้งแต่คอลัมน์อัพเดตเทรนด์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายตั้งศีรษะจรดปลายเท้าในแต่ละฤดูกาล คอลัมน์สอนแต่งหน้า คอลัมเครื่องสำอางแบรนด์ดัง คอลัมสัมภาษณ์บุคคลในวงการแวดวงแฟชั่น และคอลัมนานาทัศนะเกี่ยวกับแฟชั่น ความจริงมะลิถูกจัดให้อยู่ในคอลัมอัพเดตเทรนด์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย แต่เพราะคณาทิปตระหนักแล้วว่ามะลิเหมาะสมที่สุดในการตามตูดเพื่อสัมภาษณ์นักธุรกิจหนุ่มชาวฝรั่งเศสผู้จัดได้ว่าโลกส่วนตัวสูงที่สุดเท่าที่ปรากฏในวงการแฟชั่น เขาไม่เคยอยากออกสื่อทั้งสื่อหลายแขนงพยายามในการตีแผ่ชีวิตของเขาเท่าที่พอจะมีข้อมูล

            มะลิ ชนกานต์จบปริญญาตรีสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยปิดชั้นนำของประเทศไทย เอกภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะภาษาฝรั่งเศส หญิงสาวกระดิกกว่าใครในสำนักพิมพ์แห่งนี้ ส่วนเจ้าของสำนักพิมพ์ถนัดภาษาสากลมากกว่า แต่เพราะต้องอยู่บริหารงานในสำนักงาน จึงต้องคัดสรรบุคลที่เหมาะสมที่สุดฉะนั้นหวยจึงออกที่มะลิ

            “ใครเจ๊ที่เราต้องตามสัมภาษณ์” คิ้วมุ่นฉงนเอ่ยถามแก่เจ้านาย

            “อาดิล การ์ริสม็อง” ปากแวววาวขยับบอกลูกน้อง มากกว่านั้นคือดวงสีน้ำตาลเชื่อม ยิ่งกว่าลูกตาลเชื่อมหวานเจี๊ยบเมื่อได้เอ่ยถึงชายเจ้าของชื่อกระเดียดไปทางฝรั่งเศสเต็มตัว

            “เหตุผลในการตามสัมภาษณ์ นักธุรกิจคนนี้เพราะอะไรเจ๊” นักธุรกิจด้านแฟชั่นมากมาย ไม่เห็นต้องเจาะจงคนที่เข้าถึงยากขนาดนี้  

            “เขาดังมาก” คณาทิปเน้นคำว่ามาก ขณะกล่าวถึงผู้อยู่เบื้องหลังชุดสวยๆ แถมยังไม่ใช่แค่ใช้แสดงบนเวทีแฟชั่นเท่านั้น ยังใช้งานได้จริงทุกชุดเพราะงานของห้องเสืออาดิลริสตัดเย็บเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายใช้งานได้จริงไม่ใช่จัดทำขึ้นเพื่อแสดงเท่านั้น โดดเด่นที่การออกแบบ เนื้อผ้านิ่มลื่นสวมใส่สบายไม่ร้อนไม่อับชื้น ไม่ซับเหงื่อ เหมาะกับทุกสถานการณ์ อีกทั้งสามารถดัดแปลงให้เป็นชุดไปงานอื่นได้อีกนอกจากการทำงานในสำนักงาน เช่นงานปาร์ตี้เล็กๆ หลังเลิกงานกับเพื่อนๆ  

            “แต่เขาเก็บตัวไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกแขนงเห็นว่านะคะ หรือกระทั่งไม่ยอมออกสื่อ หน้าจริงๆ ของเขาไม่เคยมีใครนอกวงการได้ยลโฉม หมายถึงอย่างเราๆ” ข่าวที่แฟชั่นนิสต้าทราบมาเป็นเช่นนั้นจริง มะลิเคยผ่านตาไม่ได้เจาะลึกประวัติคนนี้สักเท่าไหร่  

            “นั่นล่ะจุดประสงค์ที่เจ๊ต้องการให้จัสมินหาทางเข้าถึงตัวและตามสัมภาษณ์เขาให้ได้” มุ่งมั่นมานานเพิ่งมีโอกาสก็คราวนี้ล่ะ

            “ขอเหตุผลสักนิดสิคะเจ้านายขา” มะลิต้องการเหตุผลอันแท้จริงเธอ ไม่ต้องการทำตัวเป็นนักสืบมากกว่าสื่อที่ต้องการบทสัมภาษณ์ ใครสักคนเพื่อนำมาเขียนลงในหน้านิตยสาร ในส่วนคอลัมน์บทสัมภาษณ์คนดังในแวดวงแฟชั่น ข่าวพวกนี้ย่อมต้องได้มาจากความเต็มใจของเจ้าตัว

            “เราจะเป็นนิตยสารฉบับโด่งดังที่สุดในสามโลกหากได้บทสัมภาษณ์อาดิล การ์ริสม็อง” คณาทิปยืดตัวตรงเต็มความสูงอ้าแขนกว้างหมุนรอบตัว ราวกับกำลังทำเรื่องยิ่งใหญ่เพื่อชาวโลกประมาณนั้น

            “ขนาดดังที่สุดเลยหรือเจ๊” มะลิมองตามเจ้านายถึงกับส่ายศีรษะ คนอะไรจะดังขนาดนั้น ลึกลับอีกต่างหาก เธอเป็นผู้เหมาะสมกับงานนี้จริงๆ อย่างนั้นหรือ

            “แน่นอน อย่างที่หล่อนรู้นั่นล่ะอาดิล การ์ริสม็องเป็นเจ้าของธุรกิจหลายประเภทโดยเฉพาะห้องเสื้ออาดิลริส ที่เขาออกแบบเสื้อผ้าทุกชุดด้วยตัวเขาเอง อีกทั้งควบคุมการตัดเย็บเอง แต่เขาไม่เคยออกสื่ออย่างเป็นทางการ จัดอยู่ในพวกโลกส่วนตัวสูง สื่อหลายแขนงที่ตีแผ่ชีวิตเขาส่วนใหญ่ ก็นั่งเทียนเขียนข่าวจริงบ้างไม่จริงบ้าง เพราะจริงๆ เขาไม่เคยให้ข้อมูลกับสื่อฉบับใดเลย”  รู้อย่างนี้แล้วยังจะส่งสาวแสนสวยไปตาย หรือว่าจริงๆ แล้วจะใช้มะลิเป็นเหยื่อล่อกันแน่

            “ยากขนาดนั้น เจ๊จะเอาบทสัมภาษณ์เขามาทำไม” ไม่อยากทำเลยงานเสี่ยงกับการโดนด่าดีไม่ดีโดนฟ้องหมดตัว

            “อ้าว นางนี่ก็เจ๊อยากเป็นสื่อฉบับพิเศษที่สุด ในราชอาณาจักรไทยไงล่ะ” อลังการงานสร้างต้องยกให้คณาทิป แห่งไทม์ไลน์ แฟชั่นเลยก็ว่าได้ เล็กๆ ไม่ใหญ่คณาทิปทำ ดารานักร้องเซเลบใครดังในช่วงนั้นเจ๊จับมาขึ้นปกทั้งนั้น ฮือฮาดังเปรี้ยงทุกปกทุกแผง  

            “แล้วเรียกมะลิเข้ามาเพื่อใช้ให้ไปตามสัมภาษณ์เขาว่างั้น” เดาเท่านั้นล่ะจริงๆ คอลัมนิสต์ตามสัมภาษณ์บุคลมีอยู่แล้วคงไม่ใช่หน้าที่ของเธอเป็นแน่

            “ต๊าย มีครั้งนี้ที่คนอย่างจัสมินเดาใจเจ้ถูก เจ้อยากครอบครอง เอ้ย กระหายบทสัมภาษณ์ผู้ชายมากเสน่ห์คนนี้มาก” คณาทิปดี๊ด๊าในคราบชุดทำงานแมนสุดยอด สูทหรูยี่ห้อดังอีกแล้ว อยู่บ้านหรือที่ทำงาน เจ้านายของมะลิ บ้าแบรนด์ไม่เคยพร่อง

            “รู้ได้ไงว่ามากเสน่ห์ ส่วนใหญ่ผู้ชายที่เป็นเจ้าของห้องเสื้อ หรือบริษัทโมเดลลิ่งจะเป็นแบบเจ๊นะ” ส่วนใหญ่ที่พบเห็นมักประมาณเดียวกัน ตอนแรกที่มะลิเข้ามาสมัครงานยังไทม์ไลน์ จากประกาศผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กส์ ก็ไม่คิดว่าคณาทิปจะแต๋วจ๋าขนาดนี้ แรกที่พบกันในห้องสัมภาษณ์ เขาวางมาดแมนดูดีหล่อเหลา เสียงทุ้มเท่กับการแต่งกายเจ้าระเบียบ ทว่าบางเสี้ยวมะลิรู้สึกหลงปลื้ม ในใบหน้าหล่อสะอาดของคณาทิปจนไม่อยากเคลื่อนสายตา ไปมองจุดอื่นนอกจากตั้งใจฟังคำถามในการสัมภาษณ์ แต่เมื่อได้เข้ามาทำงานร่วมกับทุกคนในสำนักพิมพ์ สัจจะธรรมจึงเผยตัว คณาทิปสาวแตกตามระยะเวลา ในการสนิทกับลูกน้องทุกคน ดังนั้นมะลิจึงชินกับภาพลักษณ์เช่นนี้ของคณาทิปโดยดุษฎี

            “ไม่มีสื่อแขนงไหนกล่าวถึงเข าในทำนองนั้น ฉะนั้นเจ้คิดว่าเขาแมนอยู่มาก” คิดไปเองปลอบใจตัวเอง และหวังให้เขาสนใจรักผู้ชายด้วยกันมากกว่า สนใจชะนีหน้าหวานสวยเลิศอย่างมะลิ