ตอน 2

1546 Words
อาดิลกำลังจดจำอัตลักษณ์บุคคลจากกลิ่นหอมหวนบนเนื้อสาว เพียงเสี้ยววินาทีที่ร่างกายเขาสัมผัส จมูกโด่งไวต่อสิ่งแวดล้อมรอบกาย โดยเฉพาะสตรีสวยสง่าบ่งบอกรสนิยมการแต่งกายเหมาะสมกับรูปร่าง กลิ่นสัมผัสชั้นเลิศที่รับรู้คล้ายจัสมิน เบอกาโมธ ลาคอลเลคชั่น เดอ เกรส น้ำหอมกลิ่นใหม่ที่ผลิตจากดอกไม้แต่ละชนิดที่หญิงสาวประพรมบนร่างสะองของเธอคงเป็นกลิ่นจัสมิน กลิ่นชอบชื่นใจอันบ่งบอกเอกลักษณ์บุคคล เขาชื่นชอบดอกไม้ชนิดนี้จึงเลือกนำมาสกัดเป็นหัวน้ำหอม จำได้ว่าในสวนที่บ้านภรรยาเพื่อนรักชาวอิตาลีปลูกดอกไม้ชนิดนี้ไว้ “เขาไม่รู้ทางแกก็ไม่ต้องถือสาเขานะยัยจัสมิน” คณาทิปแสดงมิตรจิตมิตรใจ “ไม่เป็นไรค่ะ ทางนั้นค่ะประตูทางเข้างานถ้าคุณมาร่วมงานปาร์ตี้แฟนซีหน้ากาก” มะลิทำหน้าที่เจ้าบ้านชี้บอกทางคนไม่รู้ทาง ซึ่งซ่อนดวงตาคมเข้มเจ้าเสน่ห์ภายใต้หน้ากากสีดำเข้มแข็ง   “ครับ...ขอบคุณ” จัสมินอย่างนั้นหรือเขาทวนชื่อที่ได้ยินจากเพื่อนชายของหญิงสาว  ร่างสูงค่อยๆเดินจากไปท่าทางอ้อยอิ่งเสียดาย อาดิลพยายามสลัดความมีเสน่ห์ของแม่ตัวหอมหน้ากากสีขาว โดยบอกตัวเองไม่ควรเสียเวลากับสาวไทยให้มากนัก เพราะนิวาสสถานของเขายังมีสาวงามร่างสะคราญให้เชยชมนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะแม่นางแบบสาวที่พร้อมพลีกายให้เขาทุกเวลา เพียงแค่กระดิกนิ้วหล่อน พร้อมตะกายขึ้นเตียงรอเขาด้วยความเต็มใจ เว้นเสียแต่ไม่เคยคิดกระดิกนิ้วเรียกหล่อนเท่านั้น ปลายเท้าไปหยุดอยู่หน้าเคาน์เตอร์ตรวจสอบบัตรเข้างาน เจ้าหน้าที่หญิงท่านหนึ่งติดหมายเลขเข้างานให้กับเขา ดวงตาคมวาวมองตามมือเล็กเรียว ที่กำลังติดเข็มกลัดช่อดอกกล้วยไม้สีม่วงแซมใบเฟิร์นขนาดเล็ก พร้อมหมายป้ายหมายเลขสีเขียวเรืองแสง “ติดหมายเลขทำไมครับ” เขาเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เพื่อร่วมกิจกรรมในงานค่ะ” หญิงสาวบอกด้วยภาษาสากลแก่บุรุษ ภายใต้หน้ากากสีดำเสียงทุ้ม กลิ่นจากตัวเขาหอมอ่อนแห่งบุรุษ ไรหนวดเคราเรียกสายตาเจ้าหน้าที่สาวให้หลุกหลิกยากควบคุมตัวเอง ตอนนี้หล่อนไม่อาจติดเข็มกลัดได้เพราะมือหล่อนสั่นยิ่งกว่าเจ้าเข้า “ผมติดเองดีกว่าไหมครับ” เขาเสนอเพราะเห็นหล่อนเสียเวลากับป้ายเล็กๆ บนหน้าอกนานทีเดียว “อ๋อ...ค่ะ” หล่อนตอบกลับละล่ำละลัก ปากคอสั่นดวงตาวาววาม ผลุบสายตาลงต่ำเพื่อซ่อนความรู้สึกที่กำลังร้อนวูบวาบในกายขณะได้ใกล้บุรุษมากเสน่ห์ แม้ว่าเขาไม่เผยใบหน้าภายใต้หน้ากากดุดันบนหน้า สายคมกริบมองหมายเลขบนบัตรสี่เหลี่ยมเล็กๆ สีเขียวเรืองแสง M007 ให้นึกสงสัยจึงเอ่ยถาม “หมายความว่ายังไงครับ” เขาชี้ไปตรงหมายเลขบนหน้าอก “M หมายถึง Men ผู้ชายค่ะ คุณได้หมายเลข 007” หล่อนระงับความสั่นได้จึงอธิบายต่อแขกหนุ่มหล่อหุ่นดี “อ๋อครับพอเข้าใจแล้ว” เขาตอบรับจากนั้นจึงสาวเท้าด้วยท่วงท่าสง่างามดุจเทพบุตรเดินเข้าไปห้องจัดงาน ผู้คนเริ่มหนาตาแต่ละคนต่างมีหมายเลขติดเช่นเดียวกับเขา ทำอย่างกับงานเลือกคู่ เขาครางในใจก่อนหยิบแก้วเครื่องดื่มจากบริกร แต่งกายสุภาพผูกหูกระต่าย บางทีการกำหนดธีมในการจัดงานแบบสีเดียวกัน ค่อนข้างหาความโดดเด่นในตัวแข็งแต่ละคนไม่เจอ เว้นแต่แม่สาวกลิ่นจัสมินคนนั้นที่เขาจดจำเธอได้ทุกองค์ประกอบโดยเฉพาะกลิ่น ถ้าอาดิลฝันถึงเวลาที่เขาได้มีโอกาสกระชากหน้ากากอันนั้นจากหน้าหญิงสาว เขาจะไม่มีวันรั้งรอแค่คิดเขาก็ร้อนได้ที่ มะลิกับคณาทิปก้าวตามชายหนุ่มมาติดๆหลังจากติดป้ายบนอกเสื้อแล้ว ช่างเวลาเริ่มงานจึงเริ่มต้นขึ้นในครึ่งชั่วโมงต่อมา แขกร่วมงานอุ่นหนาฝาคั่ง ขณะดวงตาคมคู่นั้นยังจ้องมองหญิงสาวไม่วางตา แม้ทำทีไม่สนใจแต่เขากลับสนใจเธออยู่มาก ไม่ต่างจากมะลิที่เริ่มผิดสังเกตตามสัญชาติญาณ เมื่อมีสายตาใครสักคนจับจ้องย่อมรู้สึก จึงชำเลืองมองเขาบ้าง เพียงแค่เผลอจ้องมองความทรงเสน่ห์ในตัวเขายังมากมายจนกายเธอปั่นป่วนได้มากขนาดนี้ ทั้งที่ยังไม่เห็นหน้ายังรู้สึกได้มากมายขนาดนี้ “จัสมินหล่อนยุกยิกทำไม คันคะเยอหรือไง” คณาทิปอดถามคนข้างกายไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางอยู่ไม่สุขของมะลิ เดี๋ยวลูบเดี๋ยวเกา “เอ่อ...เปล่าเจ๊”  เอ่ยปฏิเสธไม่เต็มเสียง จะให้ตอบยังไงได้ในเมื่อเธอเองไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน เกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่ ที่แน่ๆ แค่มองผู้ชายคนนั้นใจกายอยู่ไม่อยู่สุข ราวกับโดนสารกระตุ้นรุนแรงสักอย่าง “หรือว่าชุดที่สไตลิสต์ฉันเลือกให้หล่อนทำให้คัน หรูไปก็บอกสิงานหน้าจะเอาชุดยาจกให้ใส่ แบรนด์จากฝรั่งเศสเชียวนะทำคันให้ฉันขายหน้า” คณาทิปโอ้อวดชุดลง โดยตรงจากฝรั่งเศสสำหรับให้นางแบบถ่ายลงปกนิตยสาร “ไม่เกี่ยวกับชุด” มือบางลูบต้นแขนขึ้นลง ผู้ชายบ้าอะไรพลังทางเพศรุนแรงต่อว่าชายหนุ่มในใจ “งั้นก็อยู่นิ่งๆเดี๋ยวนี้ วันนี้หล่อนสวยมากแต่บุคลิกไม่ผ่าน ทำอย่างกับเชื้อราในร่มผ้า” อย่าว่าแต่มะลิเลยคณาทิปยังอยู่ไม่สุขในเวลานี้ เบื้องหน้าคือผู้ชายหล่อเหลาตัวสูง ใบหน้าอาจหล่อเหลาภายใต้หน้ากากสีดำอันนั้น แหม...อยากถอดทิ้งซะจริงๆ ใครบ้าช่างคิดปาร์ตี้สีชมพูหน้ากาก ภายในงานมีการจับหางบัตรเข้างานเพื่อรับรางวัล กิจกรรมมากมายที่เจ้าของห้องเสื้อชื่อดังที่สุดในประเทศไทย คุณกานต์ดา แย้มชัยชาญ จับแหลกแจกไม่อั้นเห็นว่าไฮน์ไลด์งานนี้รางวัลเป็นถึงแหวนเพชรเม็ดงาน เลือกได้สำหรับสุภาพสตรีหรือสุภาพบุรุษ ถ้าสุภาพบุรุษถูกจับหางบัตรขึ้นมา เขาก็มีสิทธิ์ได้เลือกเพื่อสวมเองหรือจะให้สตรีที่ตนรักก็ได้ พิธีเปิดอย่างเป็นทางการเริ่มต้นขึ้น พิธีกรเรียนเชิญเจ้าของงานอย่างคุณกานดา แย้มชัยชาญขึ้นเวทีกล่าวเปิดงาน ตามลำดับ เสียงปรบมือดังสนั่นแขกในงานคับคั่งร่วมหลายร้อย สื่อมวล ดารา เซเลบ มากันพร้อมหน้าทุกคนแต่งหน้าแต่งตัวมาเต็มที่ คุณกานต์ดากล่าวเปิดงานและขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องในการจัดงาน พร้อมทั้งพิธีมอบของที่ระลึกและช่อดอกไม้ตามลำดับ “ต่อไปนี้คือการจับคู่เต้นรำระหว่างชายหญิงที่มีหมายเลขตรงกัน ท่านจะต้องเดินไปหาคู่ของท่าน เห็นหมายเลขที่อยู่บนอกไหมคะ” พิธีกรกล่าว ทุกคนก้มมองหน้าอกตัวเอง “เอ็ม M ย่อมาจาก Men แปลว่าผู้ชาย เลขที่เราติดให้จะไม่ได้เรียงลำดับ เจ้าหน้าที่จะสุ่มจับขึ้นมาเพื่อติดให้กับแขกทุกท่าน ส่วน W ย่อมาจาก Wemen ท่านสุภาพบุรุษต้องเดินตามหาคุณสุภาพสตรีที่มีหมายเลยตรงกัน” พิธีกรสาวชี้แจง จากนั้นเสียงเพลงคลอดเบาๆจังหวะเต้นรำสบายดังแผ่วพลิ้ว ทำให้แขกในงานเริ่มกระตือรือร้นควานหาคู่ของตัวเอง “ต๊าย ! ยายจัสมันคู่เจ้อยู่ไหน” คณาทิปหันรีหันขวาง “แต่เอ ฉันต้องตามหาผู้หญิงนี่นา...คิดแล้วเซ็งว่ะ” เมื่อคิดถึงจุดนี้คณาทิปหน้าเง้าขึ้นมาทันควัน “หาเองเถอะเจ้มะลิก็กำลังหาคู่ของมะลิอยู่เหมือนกัน”  สายตาแวววาวของมะลิสอดส่ายหาชายหนุ่มหรือไม่หนุ่มก็ตามที เพื่อเป็นคู่เต้นรำในค่ำคืนแห่งราตรีหน้ากากอันเย้ายวนชวนให้อยากกระชากหน้ากากผู้ชายทุกคนที่มีกลิ่นอายความหล่อแมน “หล่อนเป็นผู้หญิง ต้องให้เขาตามหาสิยะ ฉันขอไปตามหาคู่ฉันก่อนนะยะ” หมายตาของคณาทิปคือหนุ่มมาดแมนสูงตระหง่าน ทรงเสน่ห์คนนั้นทว่าเขาคนนั้นหายไปจากสายตา    “เดี๋ยวเจ้” มือบางรั้งข้อศอกเจ้านายหนุ่มหล่อใจสาวไว้ “อะไรยะ” คณาทิปสะบัดลำแขนจากการเกาะกุม “อย่าไปหาผู้ชาย เพราะตอนนี้เจ้เป็นผู้ชายเจ้ต้องหาผู้หญิงสิถึงจะถูก” มะลิเตือนสติเจ้านายที่มีสายตาเหล่ผู้ชายผิดคอนเซ็ปงาน “ตายแล้วฉันลืม คิดแต่จะวิ่งหาผู้ชายอย่างเดียว” ฝ่ามือขาวสะอาดมากกว่าผู้หญิงหลายคนยกวางทาบอก จากนั้นคณาทิปเชิดหน้าบ่าตั้งตรงผึ่งผาย ด้วยรูปร่างหน้าตาคณาทิปจัดได้ว่าแมนเกินร้อยหากเขาไม่หลุดซะก่อน ตอนนี้คณาทิปเมื่อยหน้าเมื่อยตัวไปหมดเพราะต้องแสดงในสิ่งไม่ใช่ตัวตนของตัวเองต่อหน้าคนอื่น เวลาอยู่ต่อหน้าลูกน้องไม่จำเป็นต้องเก๊กหรือใส่จริตมารยาแต่อย่างใด อยากกรี๊ดก็กรี๊ดตามอำเภอใจ แต่...ออกงานสังคมที่ไรมาดที่เคยหลุดลุ่ยก็ถูกเก็บงำไว้ภายใต้ความดูดีสุดขีด 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD