เคราะห์ซ้ำกรรมซัด

1691 Words
"แม่คะ ที่นี่สบายจังเลยแม่ว่าไหมคะ" ฉันประคองแม่ที่ตอนนี้มีผ้าพันแผลเต็มหน้าเนื่องจากพึ่งไปทำแผลที่โรงพยาบาลมา โดยซันนี่เป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด "เปิดแอร์ได้เลยนะ เปิดเป็นไหมละ" ซันนี่เอ่ยถามก่อนจะเดินตรงเดินเข้ามาสอนจนฉันเข้าใจถึงวิธีการใช้รีโมทแอร์ "ขอบใจนะ" ฉันกดหัวลงน้อยๆ ในขณะที่ซันนี่ก็เผยยิ้มกลับมาอย่างยินดี "มาแล้วๆ" เสน่ห์...ที่หายตัวไปพักใหญ่ได้กลับมาพร้อมหอบของพะรุงพะรังไปทั้งสองมือเล็กๆ ของเธอ "นี่เสื้อผ้าของคุณน้า นี่ของกระเจี๊ยบ นี่ชุดนักเรียนและพวกเครื่องเขียน มีข้าวสาร และจำพวกปลากระป๋อง ไข่ ผักสดสองสามอย่าง เครื่องแกงเผ็ดเจ้าเด็ดในจังหวัดนครศรีธรรมราชบ้านเรานี้ เอ่อ...มีชุดชั้นในด้วยนะ เธอเป็นสาวแล้วเธอต้องใส่นะรู้ป่าว" เสน่ห์กล่าวร่ายยาว ส่วนฉันกับแม่ก็ได้แต่นั่งน้ำตาไหลอย่างซาบซึ้งในบุญคุณที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะชดใช้ให้หมดได้ในในชาติไหน "คุณน้า...อย่าค่ะ" ทั้งสองรีบเข้ามาห้ามแม่ฉันที่กำลังก้มลงกราบพวกเธอ "เดี๋ยววันที่สิบห้าเธอก็ไปเข้าเรียนพร้อมพวกเราได้เลย เอกสารค่อยเดินเรื่องทีหลังเอา" ซันนี่นัดแนะพร้อมด้วยเสน่ห์ที่พยักหน้าหงึกหงัก "แล้วอุปกรณ์ต่างๆ กระเป๋าปากกา เราเอาไปให้เอง" "พวกเธอ..." ไม่รอให้ฉันพูดจบทั้งสองก็เข้ามากอดฉันแน่นอย่างยินดี "ไม่เป็นไรแล้วนะคะ" คำพูดของเธอทั้งสองคนในวันนั้นยังคงติดอยู่ในใจฉันจนถึงวันนี้... หลายปีต่อมาชีวิตของเราสองคนแม่ลูกก็ดีขึ้นมาตามลำดับ โดยที่ฉันมีเพื่อนรักทั้งห้าคนที่คอยอยู่ข้างๆ เสมอไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์แค่ไหน เสน่ห์,แนนซี่,ซันนี่,ฟ้าใส และน้ำหวาน ถึงแม้ว่าจะมีเหตุให้ฉันต้องเปิดศึกอยู่บ่อยๆ อยู่กับเพื่อนนางหนึ่งซึ่งก็คือฟ้าใส นางไม่ชอบที่ฉันเคร่งครัดในกฎระเบียบเกินไปและคอยตักเตือนในเวลาที่พวกนางๆ จะพากันโดดเรียน หากแต่มันไม่รู้หรอกฉันทำแบบนี้เพราะฉันรู้สึกเป็นบุญคุณต่อเจ้าของโรงเรียนที่มีส่วนทำให้ฉันได้เข้ามาเรียนในรั้วธัญศิลาวิทยาแห่งนี้นี้ ฉันเลยตั้งใจที่จะไม่ฝ่าฝืนกฎใดๆ ของโรงเรียนเพื่อเป็นการตอบแทน ถึงแม้ว่านั่นจะทำให้ฟ้าใสหงุดหงิดและด่าทอฉันอยู่ประจำก็ตามทีเถอะนะ และฉันเองก็เลือกที่ด่ากลับไปทุกครั้งเพื่อปกปิดเหตุผลที่แท้จริงของตัวเอง เนื่องด้วยไม่อยากที่จะให้ใครรับรู้ไปทั่วว่าฉันเข้ามาเรียนที่นี่ได้ยังไง แต่ก็มีหลายครั้งนะที่เสน่ห์ทำท่าว่าจะพูดถึงภูมิหลังของฉันด้วยหวังว่าฟ้าใสจะนึกเห็นใจฉันขึ้นมาบ้าง แต่สุดท้ายเสน่ห์ก็เงียบไป เพราะฉันเองที่เคยขอเสน่ห์กับซันนี่ให้ช่วยเก็บความลับนี้ไว้ ด้วยเหตุผลที่ว่าฉันไม่ต้องการให้ใครมารู้ชีวิตที่อัปยศอดสูของฉันอีกแล้ว เสน่ห์... นางเป็นคนมีเสน่ห์สมชื่อ งานอดิเรกของนางคือเที่ยวหาตกผู้ชายไปทั่ว แล้วพอเหยื่อติดเบ็ดนางก็เขี่ยทิ้ง เคยถามว่านางทำแบบนี้ไปทำไม คำตอบที่ได้ก็คือนางสะใจดี ถึงกระนั้นตอนนี้นางก็พ่ายใจให้กับแฟนนางที่ชื่อน้องอั๋นที่ตอนนี้คบกันมาได้เกือบสามปีแล้ว นางชอบโดดเรียนชอบดื่มเหล้า แต่นางเกรดดีกว่าฉันที่ไม่เคยโดดเรียนเลยซะอีก แนนซี่... นางเป็นคนสวย ไม่ค่อยพูด และเป็นสมุนมือขวาของเสน่ห์ เหน่ไปไหนแนนไปด้วยนางกล่าวไว้ ไม่เคยมีแฟนและไม่หาหลอกผู้ชายไปทั่วเหมือนที่เสน่ห์ทำ แต่นางก็ชอบโดดและดื่มเหมือนกันกับเสน่ห์ และมีผลการเรียนที่ดีกว่าใครในกลุ่มอีกด้วย ซันนี่... นางเป็นคนสวย จริงใจ รักเดียวใจเดียว นางมีแฟนคนนึงชื่อพี่ซัน ที่ตอนนี้คบกันมาเกือบหกปีแล้ว นางเรียนเก่ง และไม่พลาดที่จะโดดเรียนไปกับเสน่ห์เสมอถ้าเสน่ห์ต้องการ นุ่มนวลอ่อนหวาน และดื่มเก่งที่หนึ่ง ฟ้าใส... นางตัวเล็ก สวยคม ปากจัด ไม่ค่อยชอบโดด เรียนใช้ได้และชอบดื่มเป็นที่สุด นางเป็นไม้เบื่อไม้เมาของฉันมาตั้งแต่แรกๆ ที่เจอกัน อาจเพราะฉันไปทักท้วงนางเรื่องที่แต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยตั้งแต่แรกเจอจึงทำให้นางไม่พึงใจในฉันมาตั้งแต่ตอนนั้น ถึงแม้ฉันจะเถียงนางได้ทุกครั้งที่นางด่า แต่ด้วยความที่นางปากจัดเกินไปจึงทำให้ฉันแอบไปร้องไห้คนเดียวอยู่บ่อยๆ น้ำหวาน... รายนี้เป็นคนกินเก่งแต่กลัวอ้วน เป็นคนชอบทำอะไรแบ๊วๆ อยู่ตลอดเวลา ชอบโดดเรียนและเข้าผับเป็นกิจวัตร นางไม่ยินดียินร้ายใคร ใครดีดีตอบ ใครชังชังตอบนางว่างั้น เห็นอย่างนี้นางเรียนเก่งไม่แพ้คนอื่นเลยนะ มีแฟนคนนึงชื่อพี่จ้าวโฮปซึ่งครั้งนึงเคยโดนแฟนเสน่ห์ต่อยเอาเพราะคิดว่าพี่เขาจะเข้าไปจีบเสน่ห์มัน ก็อย่างที่ใครเขาว่านั่นแหละว่าช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ... ช่วงเย็นวันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังนั่งรถสองแถวเพื่อกลับไปยังห้องแถวที่ซันนี่ให้แม่กับฉันอาศัยอยู่ ตาของฉันก็เหลือบไปเห็นเท้าหนึ่งคู่ที่คุ้นเคยชี้ออกมาจากซอกแมนชั่นแห่งหนึ่ง ฉัน...พยายามอย่างหนักที่จะหลอกตัวเองว่าไม่ใช่พ่อ ทั้งๆ ที่จำรองเท้าคู่นั้นได้ตั้งแต่แรกเห็น ฉันกดกริ่งเพื่อให้คนขับรถหยุดและรีบวิ่งไป ณ จุดที่ฉันเห็นทันที ก็แล้วทำไมฉันจะจำไม่ได้ว่าเป็นพ่อที่นอนเสียชีวิตกลายเป็นศพอยู่ เพราะหลังจากที่แม่และฉันได้ย้ายออกมาจากเพิงใต้สะพานลอยนั้ร พ่อก็เลือกที่จะร่อนเร่อยู่คนเดียวและไม่คิดจะมารบกวนฉันและแม่อีกต่อไป เนื่องจากอยากจะไถ่โทษที่แม่ต้องมาโดนเจ้าหนี้รายวันทำร้ายร่างกายและขอโทษฉันในทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา และพ่อ...ก็ยังคงสวมใส่รองเท้าคู่เดิมตลอดหลายปีจึงเป็นเหตุให้ฉัน...จำได้ว่าเป็นพ่ออย่างแน่นอน และใช่... ศพนั้นที่ฉันเห็นก็คือพ่อของฉันจริงๆ ในตอนนั้นจำได้ฉันเข่าทรุดลงในทันทีที่เห็นว่าเป็นพ่อ ก่อนจะพยายามตั้งสติและติดต่อโทรแจ้งตำรวจและเรียกหน่วยกู้ภัยมาในพื้นที่มา ก่อนจะรีบกลับมาบอกให้แม่รู้ว่าพ่อได้จากพวกเราไปแล้ว... มันคงจะน่าแปลกใจตรงที่แม่เลือกที่จะร้องบอกให้ฉันกลับไปจัดการเรื่องของพ่อให้แต่ไม่ยินยอมที่จะมาอำลาพ่อเป็นครั้งสุดท้ายด้วยกันกับฉัน แต่ฉันที่ในตอนนั้นกำลังเร่งรีบจะเดินทางกลับไปจัดการเรื่องของพอก็ไม่ได้ติดใจอะไรก่อนรีบเดินทางกลับไปยังจุดเกิดเหตุแรกที่ฉันเจอพ่อในทันที เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นตำรวจก็จับกุมผู้ต้องสงสัยได้ถึงสองคนด้วยกัน และหลักฐานจากกล้องวงจรปิดระแวกก็เป็นหลักฐานชั้นดีที่จะมัดตัวชายสองคนนั้นได้... นอมรับว่าฉันดีใจมากที่ได้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจและตามจับตัวคนร้ายมาให้ฉันได้แทบจะในทันที และในตอนที่กู้ภัยประจำพื้นที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายศพพ่อไปยังวัดเพื่อจัดพิธีกรรมทางศาสนา ฉันก็รีบเดินทางกลับมาหาแม่อีกครั้งเพื่อจะแจ้งข่าวดีที่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนที่ทำร้ายพ่อได้แล้ว แต่เมื่อมาถึงห้องแถวที่คุ้นเคย กลับไม่มีร่างเล็กๆ ของแม่มานั่งคอยอยู่อย่างเก่า ฉัน...ค่อยๆ ก้าวขาเข้าไปในบ้านพักด้วยความรู้สึกหวั่นพรึงอย่างบอกไม่ถูก และฉันก็ต้องเข่าทรุดเป็นครั้งที่สองเมื่อพบว่าแม่...ได้ผูกคอตายลาโลกที่โหดร้ายใบนี้ตามพ่อไปแล้วอีกคน และเป็นอีกครั้งที่ฉันจะต้องโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยให้มารับศพคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบุพการีตัวเอง ฉันจัดการงานศพพ่อและแม่คนเดียวแบบเงียบๆ ข่าวการตายของพ่อกับแม่ไม่แพร่สะพัดไปไหนหรอกค่ะเพราะเราไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน... ฉันตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนทันทีที่พ่อกับแม่เสียชีวิตลงทั้งคู่ โดยแสร้งโทรไปบอกซันนี่ว่าไม่ค่อยสบายขอลาเรียนสักระยะ และเลือกที่จะตัดทุกช่องทางการติดต่อกับเพื่อนคนอื่นๆ เพราะฉันไม่อยากที่จะให้ใครต้องมาวุ่นวายกับชีวิตที่โคตรบัดซบของฉันอีกแล้ว ที่ผ่านๆ มาฉันก็รบกวนพวกนั้นมากพอแล้ว... ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันจำต้องยอมรับทุกความช่วยเหลือจากเสน่ห์และซันนี่เพราะไม่อยากที่จะให้แม่ลำบาก แต่ตอนนี้ฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่ว่าจะพ่อหรือแม่ ตอนนี้ฉันตัวคนเดียวแล้ว และมันคงถึงเวลาที่ฉันจะยืนด้วยลำแข้งของตัวเองเสียที ฉันขอโทษทุกคนนะที่อยู่ๆ ก็หายไป ฉันแค่ไม่อยากให้เธอต้องมาลำบากเพราะคนอย่างฉันอีกแล้ว เธอจะอยู่ในก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายของฉันตลอดไป สหายที่รัก กระเจี๊ยบคือนางเอกที่รันทดที่สุดในบรรดา11คู่เซตพ่อ ป.ล. ฉันเป็นอะไรกับคำว่าสองสักทีนะ ฮ่าๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD