“คุณคะ ลูกไฟขยันทำงานเหลือเกิน ฉันภูมิใจในตัวลูกมากๆ คุณว่าจริงไหมคะ?”
เสียงนายหญิงใหญ่แห่งไร่ศิรานนท์หันไปพูดจากับคุณเพลิงอาจ ยกย่องชื่นชมลูกชายที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีไม่มีบกพร่อง ไม่ว่าเรื่องงานเรื่องชีวิต ลูกไฟของนายหญิงไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้ง
“คุณเป็นเอามากนะคุณแพรว ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณทำตัวไม่ต่างจากอันธพาลเถื่อน เวลาเจ้าไฟมันโหดขึ้นมาผมยังเอาไม่อยู่ คุณก็ดูแลบ้างก็แล้วกัน ไม่ใช่คอยยกยอปอปั้นอยู่อย่างนี้”
เพลิงอาจนายใหญ่แห่งไร่ศิรานนท์พูดกับภรรยาด้วยความกังวล นิสัยมุทะลุ ดุดัน ป่าเถื่อน ใจร้อน ของลูกชายสร้างเรื่องให้ปวดหัวมามาก แต่ผู้เป็นภรรยากลับหลับหูหลับตามองข้ามไปเสียหมด
“คุณอย่ามาว่าลูกไฟนะ! ลูกก็ไม่ต่างจากคุณเท่าไหร่หรอก”
คุณแพรวพัตราค้อนขวับทันที ส่งสายตาดุๆ ไปให้สามีอีกฝ่ายถึงกับส่ายหน้าระอาใจอย่างล้นเหลือ แตะต้องเมื่อไหร่เป็นได้ทะเลาะกันด้วยแววตาทุกครั้ง นายใหญ่อย่างเพลิงอาจจำต้องเดินหน้าหลีกหนีภรรยาก่อนจะเกิดสงครามเย็นขึ้นในไม่ช้า
“คุณพี่... ทุกทีเลย... เดินหนีทุกทีนะ”
แพรวพัตราหันไปค้อนให้สามีอีกครั้ง ก่อนจะพาร่างกายเดินตรงไปหาลูกชายที่ออฟฟิศของไร่ศิรานนท์ อยากเห็นหน้าของลูกชายยามขะมักเขม้นทำงานสักหน่อย ความภูมิใจของพ่อแม่จะมีอะไรยิ่งใหญ่กว่าเห็นลูกเจริญเติบโตท่ามกลางร่มโพธิ์ร่มไทรของตัวเอง
“กล้วยว้า... ลูกไฟอยู่ในห้องไหม?”
ก้าวมาถึงหน้าห้องของบุตรชายเห็นคนทำหน้าที่เลขาซึ่งเป็นน้องสาวของละมุดนั่งทำงานอยู่หน้าห้องไม่ลืมหูลืมตามาดูแขกผู้มาเยือน คุณแพรวพัตราจึงเอ่ยถาม เห็นอีกฝ่ายมีท่าทีลุกลี้ลุกลนยิ่งสร้างความฉงนมากนัก
“กล้วยว้า... ฉันถามว่าตาไฟอยู่ในนี้ไหม... จะหน้าซีดอะไรนักหนา”
“เอ่อ... คุณไฟ...” เลขานามกล้วยว้าสั่นทั้งเสียงสั่นทั้งตัว
“ฉันไปดูเอง ... ลูกไฟของแม่ อยู่ไหมครับ?”
มือเหี่ยวชราเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะเลยสักนิด คุณแพรวพัตราลืมตาอ้าปากค้างกลางอากาศเมื่อโซฟาในห้องทำงานของบุตรชายกำลังโรมรันกันด้วยไฟพิศวาสอย่างมัวเมา เจ้าลูกชายตัวดียังไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยสักนิด ฝ่ายหญิงก็โอบกอดแลกลิ้นจูบกันอย่างดูดดื่ม ไม่รู้ตัวกันทั้งคู่ว่ามีบุคคลที่สามก้าวเข้ามาเป็นสักขีพยาน แล้วสักขีพยานคนนี้ตกใจเจียนตาย
“ว้าย... ตาไฟ โอ๊ย! แม่จะเป็นลม”
เสียงกรีดร้องวี้ดว้ายดังลั่นห้อง สมรภูมิพิศวาสตรงหน้าหยุดชะงักทันที ชายหนุ่มรูปร่างล่ำสันพาร่างกายผละจากหญิงสาว หันมามองหน้าผู้เป็นแม่ตาปริบๆ ไม่ได้อายในสภาพร่างกายของตัวเองเลยแม้แต่น้อย มือหนาคว้าเสื้อผ้ากระจัดกระจายโยนใส่ร่างอ่อนระทวยทันที เบือนหน้าหนีก่อนจะเดินไปคว้ากางเกงชั้นในชั้นนอกมาสวมใส่อย่างลวกๆ เสร็จจากร่างกายของตัวเอง ก็หย่อนสะโพกหนาๆ นั่งลงบนโซฟากว้างสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนเลยสักนิด
“หล่อน! เชิญออกจากที่นี่ อย่าให้ฉันได้เห็นหน้าเธออีก แม้เพียงนิดเดียวฉันก็สะอิดสะเอียนเกินจะทน”
คุณแพรวพัตราตวาดใส่ผู้หญิงที่ทอดกายให้ลูกชายเชยชม สายตาขยะแขยงมองผู้หญิงที่อ่อนระทวยบนโซฟาอย่างโกรธจัด หมดกันลูกชายของเธอทำอะไรเรี่ยราดไม่อายพนักงานตาดำๆ เลยสักนิด
“ไฟขา... ดูคุณแม่คุณทำกับเอื้องมณีสิคะ มณีไม่ยอมนะคะไฟขา...”
หญิงสาวผู้โดนขัดจังหวะกลางอากาศรีบแต่งตัวอย่างรีบร้อน ก่อนจะเดินมานั่งเบียดชิดจับแขนล่ำสันของชายหนุ่มผู้ที่ยังพาเธอไปเที่ยวสวรรค์ไม่ถึงชั้นไหน ส่งสายตาตัดพ้ออย่างน่าสงสาร สวรรค์อยู่ตรงหน้าล่มไม่เป็นท่า พังจนดึงกลับมาไม่ได้
“คุณกลับไปก่อน วันหลังเราค่อยมาต่อกันนะ...”
เสียงกระซิบชิดใกล้ใบหูสะอาดของหญิงสาว ไม่ถึงนาทีเงินปึกใหญ่ก็ถูกยัดใส่กับร่องหน้าอกของเอื้องมณีด้วยมือหนาของเพลิงอินทรี อภิศิรานนท์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณแพรวพัตรา หญิงสาวผู้ได้รับเงินก้อนใหญ่คว้าลำคอล่ำสันโอบกอดชิดใกล้ก่อนจะมอบจูบให้กับชายหนุ่มอย่างดูดดื่ม ท่ามกลางการตื่นตะลึงของหญิงวัยชราที่จวนเจียนจะเป็นลม หลังจากนั้นเจ้าหล่อนก็นำพาตัวเองก้าวออกจากห้องไป หันมาส่งยิ้มอย่างมีชัยให้กับคุณแพรวพัตราอีกครั้ง
“ไฟ... ทำไมทำแบบนี้ ที่นี่ห้องทำงานนะลูก”
หลังจากบุคคลที่สามก้าวออกไป คุณแพรวพัตราก็หันหน้ามาเอาเรื่องทันที สายตาไม่พอใจนั้นไม่ได้ทำให้ลูกตัวดีสลดเลยสักนิด
“แม่ครับ ผมเหนื่อย ผู้หญิงคนนั้นก็แค่ที่ระบายอารมณ์ อย่าคิดมากเลยนะครับ ผมขอตัวเข้าไปดูคนงานเก็บส้มในไร่ก่อน ขอตัวนะครับแม่...”
เพลิงอินทรีกล่าวแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไปท่ามกลางเสียงตะโกนไล่หลังของคุณแพรวพัตรา แต่ไม่สามารถฉุดรั้งลูกตัวดีได้เลยแม้แต่น้อยนิด คนเป็นแม่เดินหน้าหงิกออกจากห้องทำงานของลูกชายด้วยความอ่อนแรงจวนจะเป็นลม
“แม่เลี้ยงขา... เป็นอะไรมากไหมคะ นั่งก่อนนะคะ” กล้วยว้ารีบประคองนายหญิงใหญ่เร็วไว
“ยายกล้วย! ทำไมหล่อนไม่บอกฉันว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น” น้ำเสียงเอาเรื่องเต็มที่
“กล้วยว้าขอโทษค่ะ กล้วยว้าตกใจ ก็เลยเรียนให้นายแม่ทราบไม่ทัน” กล้วยว้าก้มหน้างุดอย่างยอมรับผิด
“บ่อยไหม?”
“อะไรบ่อยไหมคะ? แม่เลี้ยง” เลขาสาวเงยหน้าขึ้นมาถามเร็วไว
“ก็ลูกชายฉันทำอย่างนี้บ่อยไหม”
“ทุกวันค่ะ ส่วนเวลาและผู้หญิงก็ผลัดเปลี่ยนกันไป นายแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ กล้วยวาเตรียมถุงนิรภัยป้องกันไฟน้อยนับสิบกล่อง รับรองได้ค่ะว่านายแม่ยังไม่มีหลานในเวลานี้แน่นอน แต่กล้วยว้าก็ไม่ทราบเหมือนกันนะคะว่าคุณไฟจะใช้หมดรึยัง”
เสียงรายงานจากเลขาสาวดังขึ้นอย่างยาวเหยียด แต่คนฟังทำท่าทำทางจะตายเสียให้ได้ นี่ลูกชายเธอหมกมุ่นกับเรื่องอย่างว่ามากขนาดนี้เลยเหรอ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ไม่ดีอย่างแน่นอน คุณแพรวพัตรารีบพาตัวเองเดินกลับบ้านศิรานนท์หลังใหญ่ทันที ลูกชายของเธอต้องดีกว่านี้ ถ้าหากจะหมกมุ่นเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงสักคน คนคนนั้นเธอจะขอเลือกเองกับมือ ผู้หญิงที่คู่ควรกับบุตรชายคนเป็นแม่จะสรรหาด้วยตัวเอง