“มันเป็นกล่องเปล่า ข้างในไม่มีหุ่นยนต์อยู่หรอกครับ”
ขณะเอ่ยตอบ โดมินิทพยายามมองหน้าเด็กน้อย แต่มองเห็นไม่ชัดนักเพราะเด็กน้อยกำลังก้มหน้ากัดกินไอศรีมในมืออยู่ ทำให้เขาเห็นแค่ท้ายทอยที่ปกคลุมไปด้วยผมหยักศกสีน้ำตาลนุ่มสลวย
“คุณอารู้ได้ยังไงครับ ว่าไม่มีหุ่นยนต์ แล้วคุณอาเป็นใครครับ คุณอารู้จักน้องบลูได้ยังไงครับ”
คราวนี้น้องบลูหันหน้ามาเลิกคิ้วเอ่ยถามคุณอาที่ยืนอยู่ใกล้กัน และพอเห็นใบหน้า รวมทั้งสีดวงตาของคุณอาผู้นี้ น้องบลูก็เปล่งเสียงออกมาด้วยความตื่นเต้น
“คุณอา มีสีดวงตา และมีใบหน้าเหมือนน้องบลูเลยครับ”
ใช่ว่าจะมีแค่น้องบลูที่เอ่ยพูด และตีสีหน้ามองคุณอาด้วยความตื่นเต้น
โดมินิทเองถึงกับเข่าอ่อนชาวูบไปทั้งตัว หัวใจเต้นรัวเร็วอุ่นวาบเหมือนดั่งดวงแก้วที่หายไปได้กลับมาดั่งเดิม เมื่อได้เห็นใบหน้าและดวงตาสีน้ำเงินเข้มคู่สวยของน้องบลู
โดมินิทเอื้อมมือใหญ่ที่สั่นเทาเล็กน้อยไปลูบเปลือกตาและใบหน้าของเด็กน้อย ทำไมมองน้องบลูแล้ว เขารู้สึกเหมือนมองภาพตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงา เพียงแค่ภาพที่เห็นจะย่อส่วนเล็กลงกว่าตัวเขาเท่านั้นเอง
มือใหญ่ยังคงลูบดวงตาและพวงแก้มของเด็กน้อยไม่ได้หยุด จนน้องบลูเริ่มรำคาญและเบี่ยงหน้าหนี ส่วนโดมินิทอยากสวมกอดเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างหน้าตัวเองนัก แต่เกรงว่าเด็กน้อยจะตกใจกลัวเสียก่อน
“คุณอาว่าเราไปนั่งคุยกันที่เก้าอี้ตรงนั้นดีไหมครับ” โดมินิทชี้นิ้วไปยังเก้าอี้ยาวอยู่ข้างทางเดิน เพื่อให้ลูกค้าได้นั่งพักผ่อน
น้องบลูเงยหน้ามองคุณอาอย่างลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตอบรับในที่สุด
“ได้ครับคุณอา”
“น้องบลูกินไอศรีมหมดหรือยังครับ ถ้าหมดแล้วเอาไปทิ้งที่ถังขยะนะครับ”
“หมดแล้วครับ” น้องบลูทิ้งโคนไอศรีมที่ยังเหลือนิดหน่อยลงถังขยะ
โดมินิทกำมือเด็กน้อยไว้และพาไปนั่งบนเก้าอี้ มือใหญ่หยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวจากกระเป๋าเสื้อสูทมาเช็ดคราบไอศรีมที่ติดตามขอบปากน้องบลู ชายหนุ่มค่อยๆ เช็ดให้อย่างเบามืออย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เขารู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยตั้งแต่แรกเห็น สายตาที่มองมายังน้องบลูเปี่ยมล้นไปด้วยความรักที่สื่อออกมาอย่างชัดเจน
“คุณอายังไม่บอกเลยว่ารู้จักน้องบลูได้ยังไง แล้วคุณอารู้ได้ยังไงว่าในกล่องไม่มีหุ่นยนต์ แล้วคุณอาเป็นใครกันครับ”
ปากเล็กๆ สีแดงสดตั้งคำถามรัวเป็นชุด ดวงตาสีน้ำเงินฉายแววสงสัยออกมา ปากเล็กทำท่าว่าจะตั้งคำถามอีกรอบ จนโดมินิทต้องรีบห้ามทัพไว้ ไม่ยังงั้นเขาไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อน
ชายหนุ่มยิ้มให้กับคนช่างสงสัย ใบหน้าคมเข้มที่เคยดูเคร่งขรึม ดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่เคยดูแข็งกร้าว ตอนนี้ดูอ่อนโยนลงถนัดตา รอยยิ้มปรากฎขึ้นทั้งบนใบหน้าและนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม
“คุณอาตอบคำถามน้องบลูทีละข้อแล้วกันนะครับ ข้อแรก คุณอารู้จักน้องบลู เพราะเมื่อสักครู่คุณแม่ประกาศตามหาน้องบลูอยู่ครับ”
“คุณแม่ตามหาน้องบลูทำไมครับ น้องบลูไม่ได้หายสักหน่อย น้องบลูแค่อยากมาดูกล่องของขวัญก็เท่านั้นเองครับ” น้องบลูตอบด้วยเสียงฉะฉานชัดเจน
“ตอนน้องบลูเดินมาที่ต้นคริสมาสต์ น้องบลูได้บอกคุณแม่ไหมครับ”
โดมินิทยิ้มกว้าง ขณะเอ่ยถามเด็กน้อย
“ไม่ได้บอกครับ” เสียงที่เคยตอบอย่างฉะฉานในก่อนหน้านี้ แผ่วเบาลงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยฟ้องคุณอาต่อ
“ตอนอยู่ข้างล่างคุณแม่ไม่ยอมให้น้องบลูมาดูกล่องของขวัญครับ”
“น้องบลูรู้ไหมครับว่าคุณแม่ตามหาน้องบลูอยู่” โดมินิทถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนระคนเอ็นดู
ศีรษะกลมทุยส่ายแรงๆ มือเล็กเอื้อมไปจับแขนแข็งแรงภายใต้เสื้อสูทราคาแพง พร้อมกับเอ่ยขอร้องว่า
“คุณอาพาน้องบลูไปหาคุณแม่หน่อยได้ไหมครับ”
“ได้ครับ เดี๋ยวคุณอาจะพาไปหาคุณแม่เองครับ เรามาฟังคำตอบข้อสองก่อนนะครับ กล่องของขวัญที่น้องบลูกำลังจะแกะออกข้างในไม่มีหุ่นยนต์หรอกครับ เขาเอามาไว้ตกแต่งต้นคริสมาสต์เฉยๆ ครับ”
“คุณอารู้ได้ยังไงครับ เรายังไม่ได้แกะดูข้างในเลย” น้องบลูยังไม่ยอมแพ้ เพระในใจนั้นยังอยากได้หุ่นยนต์อยู่
“ตอนคุณอาตัวเท่าน้องบลู คุณอาก็เคยแกะของขวัญใต้ต้นคริสมาสต์ที่เขาจัดไว้เหมือนกันครับ”
“คุณอาเจอหุ่นยนต์ไหมครับ”
“ไม่เจอหรอกครับเพราะมันเป็นกล่องเปล่า ถ้าน้องบลูอยากได้หุ่นยนต์ เดี๋ยวคุณอาจะซื้อให้เองนะครับ”
“อยากได้ครับ เอาหุ่นยนต์โรโบคอบนะครับ น้องบลูอยากได้ แต่คุณแม่ไม่ยอมซื้อให้ คุณแม่บอกว่าแพงมาก”
“ได้ครับ แต่น้องบลูต้องตอบคำถามของคุณอาก่อนนะครับ น้องบลูบอกคุณอาได้ไหมครับว่าน้องบลูชอบกล่องของขวัญสีอะไร”
“น้องบลูชอบสีน้ำเงินครับ” น้องบลูทำท่านึกคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบต่อ
“ตอนวันเกิดน้องบลู เพื่อนๆ เอาของขวัญมาให้เยอะแยะเลยครับ และคุณแม่ให้น้องบลูเลือกว่าอันไหนเป็นกล่องของขวัญที่คุณแม่จะให้น้องบลูครับ”
“น้องบลูเลือกถูกไหมครับ น้องบลูเลือกกล่องสีอะไรครับ” โดมินิทถามด้วยความสนใจ
“เลือกถูกครับ น้องบลูเลือกกล่องสีน้ำเงิน คุณแม่ชอบห่อของขวัญด้วยกระดาษสีน้ำเงิน น้องบลูจำได้น้องบลูก็เลยเลือกถูกครับ” น้องบลูเผยความภาคภูมิใจให้เห็น ขณะยิ้มแป้นให้คุณอา
“คุณแม่ของคุณอาก็ชอบให้ของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำเงินเหมือนกันครับ”
โดมินิทนึกถึงในวัยเด็ก พอถึงเช้าวันคริสมาสต์เมื่อไร เขากับลูกพี่
ลูกน้องอีกห้าคน จะวิ่งมาเอาของขวัญที่แม่เขาแอบเอามาวางไว้ใต้ต้นคริสมาสต์ เขาจะเลือกหยิบเฉพาะกล่องสีน้ำเงินเท่านั้น ถึงแม้ว่ากล่องของขวัญสีอื่นจะมีกล่องใหญ่กว่า แต่เขาก็ไม่เคยเลือก เพราะเขารู้ดีว่ากล่องสีน้ำเงินจะเป็นของเขาคนเดียว และลูกพี่ลูกน้องทุกคนก็จะรู้ดีเช่นกัน คุณแม่เขาให้เหตุผลว่าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำเงินให้กับเขาคนเดียว เพราะมันเป็นสีประจำตระกูลและเป็นสีเดียวกันกับสีดวงตาของเขา
“คุณอาก็ชอบสีน้ำเงินเหมือนกันหรือครับ”
“ชอบครับ น้องบลูรู้ไหมครับว่าดวงตาเรามีสีน้ำเงินเหมือนกันเลย”
โดมินิทชี้มายังขอบดวงตาตัวเอง แล้วแตะเบาๆ ที่ขอบดวงตาของน้องบลูบ้าง
“จริงๆ ด้วยสีเหมือนกันเลย”
เด็กน้อยร้องออกมาอย่างตื่นเต้น ลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้ เอื้อมมือทั้งสองข้างเกาะบนบ่าชายหนุ่มไว้ เขย่งขาทั้งสองข้าง แล้วชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูสีดวงตา ส่วนโดมินิทก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อให้น้องบลูดูสีดวงตาได้ชัดๆ
“สวยจังเลยครับคุณอา” ขณะเอ่ยพูด มือเล็กแตะเบาๆ ตรงขอบดวงตาของโดมินิท
“สีดวงตาของน้องบลูก็สวยเหมือนกันครับ น้องบลูครับเรามีชื่อเล่นเหมือนกันด้วยนะครับ”