บทที่ 14

1244 Words
ณิชาดามองสำรวจชายหนุ่มทั้งสองคน แต่ก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี ใบหน้างามหันไปมองคนที่ถูกเรียกว่าเจ้านาย หญิงสาวจ้องมองสบกับดวงตาสีน้ำเงินเข้มเหมือนต้องการค้นหาความจริง โดมินิทพยักหน้าตอบรับ ดวงตาสีน้ำเงินแสดงความจริงใจออกมาให้เห็น ก่อนจะเอ่ยให้ความมั่นใจอีกครั้ง “ใช่ครับ เราเป็นนักธุรกิจกำลังจะเทคโอเวอร์ห้างฯ แห่งนี้ ผมกับคาเมลเลยพากันมาสำรวจกิจการของห้างฯ พอได้ยินเสียงประกาศตามหาน้องบลูก็เลยช่วยกันตามหาอีกแรงครับ” “อ๋อ...ชื่อคาเมล” ริมฝีปากแดงอวบอิ่มพูดลากเสียง ขณะตวัดสายตาคมดุไปยังคนที่ถูกเรียกว่าคาเมล! “ครับผม! ผมชื่อคาเมล นามสกุลเฟิร์สคาดี้ เป็นเลขาคนสำคัญของคุณโดมินิทครับ” คาเมลรายงานตัวเสร็จสรรพ พร้อมกับยิ้มล้อเลียนให้สาวน้อยด้วย “ไม่เห็นจะอยากรู้เลยว่านามสกุลอะไร” ณิชาดาบ่นงึมงำ มองค้อนอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้จับใจ “น้าข้าวปุ้น ไม่ใช่คุณแม่ของน้องบลูสักหน่อย” น้องบลูนั่งฟังผู้ใหญ่ทั้งสามคนเถียงกันอยู่ตั้งนาน ได้เอ่ยพูดขึ้นมาลอยๆ และกำลังสนใจกับเข็มกลัดเนคไทราคาแพงของโดมินิท มือเล็กเริ่มแกะเข็มกลัดเนคไทออกมาดูด้วยความสนใจ ไม่ได้เงยหน้ามองสีหน้าของชายหนุ่มทั้งสองคนซึ่งกำลังยิ้มออกมาพร้อมๆ กัน เมื่อรู้ว่าสาวสวยข้างหน้าไม่ใช่แม่ของน้องบลู “คุณไม่ใช่แม่ของน้องบลู” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาของคาเมลบ่งบอกถึงความดีใจอย่างเห็นได้ชัด “ก็ใช่นะสิ น้องบลูเป็นหลานของฉัน ส่วนแม่ของน้องบลู พี่สาวฉันกำลังตามหาน้องบลูอยู่ที่ชั้นล่าง” “เฮ้อ! ค่อยยังชั่วหน่อย” ชายหนุ่มทั้งสองคนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แทบจะพร้อมๆ กัน โดมินิทรู้สึกโล่งอกที่หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้เป็นแม่ของน้องบลู เขายังพอมีความหวังอยู่ว่าน้องบลูอาจจะเป็นลูกของเขา ดูจากสีดวงตาของน้องบลูแล้ว เขาคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่น้องบลูอาจจะเป็นลูกของเขา เพราะลูกผู้ชายของตระกูลเอิร์สคามอน จะมีสีดวงตาเป็นสีน้ำเงินเข้มทุกคน ซึ่งเป็นพันธุกรรมที่ตกทอดมาจนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน ทางด้านคาเมลก็แสดงความดีใจออกหน้า เมื่อรู้ว่าณิชาดาไม่ใช่แม่ของเด็กน้อย เพราะเขารู้สึกถูกตาต้องใจร่างบางอรชรตั้งแต่ได้เห็นสาวน้อยนั่งร้องไห้อยู่หน้าร้านไอศรีม ยิ่งพอได้จูบริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อนุ่มนวลหวานล้ำ ก็ยิ่งทำให้เขาประทับใจมากยิ่งขึ้น และรู้ด้วยว่าเขาเป็นคนแรกที่ได้มอบจูบแรกให้กับสาวน้อยหน้าหวาน พอได้รู้ว่าหญิงสาวยังไม่มีพันธะ ทำให้คาเมลรู้สึกหวงแหนอยากเป็นเจ้าของร่างบาง ไม่อยากให้ใครได้แตะต้องหญิงสาวนอกจากเขาเพียงคนเดียว “นี่! พากันถอนหายใจทำไม วางแผนจะหลอกหลานฉันต่อหรือยังไง” ณิชาดาหันมาต่อว่าคาเมล ที่ยิ้มทั้งปากและดวงตาให้กับเธอ “ใครเขาหลอกหลานคุณล่ะ ฮันนี่ ก็บอกแล้วว่าพวกผมกำลังช่วยตามหาน้องบลูอยู่ พวกเราเป็นคนดีนะ” คาเมลส่งสายตาหวานเชื่อมให้ณิชาดาอีกครั้ง “ช่วยตามหาจริงหรือ พวกคุณเจอน้องบลูแล้วทำไมไม่พาไปหาพี่สาวฉันที่ประชาสัมพันธ์ล่ะ” ณิชาดายังไม่เชื่ออยู่ดี คนเราสมัยนี้จะดูแค่การแต่งตัวไม่ได้ คนที่แต่งตัวดี พูดดี แต่กลายเป็นโจรก็มีถมไป แต่คนที่แต่งตัวมอซอ พูดจากกระโชกโฮกฮาก แต่กลับเป็นคนดีก็มีถมไป “ผมกำลังจะพาน้องบลูไปหาคุณแม่เหมือนกัน แต่ผมอยากทำความรู้จักกับน้องบลูก่อน” โดมินิทเอ่ยบอกเหตุผลกับณิชาดา “ตอนนี้รู้จักกันแล้ว เราไปหาคุณแม่กันเถอะน้องบลู ป่านนี้คุณแม่เป็นห่วงแย่แล้ว” ณิชาดาหน้าลงไปบอกหลานชาย มือเรียวงามเอื้อมไปจับแขนหลานไว้ “น้าปุ้น! น้องบลูอยากได้หุ่นยนต์โรโบคอบ คุณอาบลูบอกว่าจะซื้อให้น้องบลู เราไปซื้อหุ่นยนต์ก่อนได้ไหมครับ” น้องบลูต่อรองกับน้าสาว อยากไปหาคุณแม่ก็อยากไป แต่ความอยากได้หุ่นยนต์รู้สึกว่าจะมีมากกว่า “ไปหาคุณแม่ก่อนนะคะ แล้วเราค่อยไปซื้อหุ่นยนต์ด้วยกัน” ณิชาดาต่อรองกลับคืนบ้าง “ไม่เอา! น้องบลูจะให้คุณอาบลูซื้อให้ น้องบลูอยากได้เลโก้กับเครื่องบิน ด้วย” น้องบลูส่ายหน้าดิก ไม่ยอมไปกับน้าสาว มือเล็กเอื้อมไปจับแขนแข็งแรงของโดมินิทไว้แน่น “ไม่ได้ค่ะ น้องบลูไปรบกวนคุณอาได้ยังไงกันค่ะ” “ไม่เป็นไร ผมอยากซื้อให้น้องบลูอยู่แล้ว เราไปซื้อหุ่นยนต์กันเถอะน้องบลู” โดมินิทไม่รอฟังคำคัดค้านจากหญิงสาว มือใหญ่กำไปรอบข้อมือเล็ก แล้วพาน้องบลูเดินไปยังแผนกของเล่นเด็กทันที “นี่คู๊ณ! พี่สาวฉันกำลังตามหาน้องบลูอยู่นะ” ณิชาดาตะโกนไล่หลัง กำลังจะวิ่งตามคนทั้งสองไป แต่แขนขาวเนียนกลับถูกมือใหญ่คว้าและดึงไว้ จนทำให้ร่างบางเซถอยหลังมาปะทะกับอกกว้าง “คุณ! มาจับแขนฉันไว้ทำไม ปล่อยนะฉันจะไปหาน้องบลู” ณิชาดาหันมาตวาดแว้ดใส่คนที่จับแขนเธอไว้ “ให้เจ้านายผมพาน้องบลูไปซื้อของเล่นเถอะ ฮันนี่ คุณไม่เห็นสายตาของน้องบลูหรือยังไง แกอยากได้ของเล่นมากนะ” คาเมลไม่ยอมปล่อยร่างบางอรชร เขายังกอดร่างนุ่มๆ ไว้ในอ้อมแขน แอบสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเส้นผมหยักสลวย และกลับมาเรียกหญิงสาวว่า ฮันนี่ เหมือนเดิม “นี่แนะ! หาว่าหลานฉันขี้งกใช่มั้ย” ณิชาดากัดฟันกรอดๆ หยิกแรงๆ ไปบนแขนแข็งแรงที่กอดเธออยู่ รู้สึกหมั่นไส้คนเจ้าเล่ห์เหลือกำลัง “โอ๊ย!...ฮันนี่ผมเจ็บนะ” คาเมลแกล้งร้องโอดครวญเสียงดัง เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากหญิงสาว “เจ็บก็ปล่อยมือสิ ฉันจะไปตามน้องบลู” คราวนี้มือเล็กซัดเผียะ! ลงไปบนต้นแขนสีแทน แต่คาเมลก็ไม่ยอมปล่อยมืออยู่ดี “แล้วทำไมฮันนี่ไม่โทรไปบอกพี่สาวก่อนว่าเจอน้องบลูแล้ว พี่สาวคุณจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” คาเมลเสนอความคิดเห็น เสียงห้าวทุ้มดังอยู่ใกล้ใบหู จนณิชาดารู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ ที่เป่าริดรดพวงแก้มของเธอ “โทรไม่ได้ โทรศัพท์แบตฯ หมด” หญิงสาวตอบห้วนๆ “โธ่เอ๋ย...แล้วก็ไม่บอก เอ้า...ให้ยืมโทรศัพท์ก่อน จะโทรนานแค่ไหนก็ได้ครับ” คาเมลหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท และยื่นมาข้างหน้าจนมือใหญ่แทบจะชนกับหน้าอกอวบนุ่มมือ ทำเอาใบหน้าเนียนใสแดงก่ำขึ้นมาจนเป็นที่ถูกอกถูกใจของเขา “ยืมก็ได้ แต่ฉันไม่จ่ายค่าโทรศัพท์ให้หรอกนะ” ณิชาดารับโทรศัพท์มาถือไว้ ก่อนจะกดโทรก็ไม่ลืมเอ่ยแขวะเจ้าของโทรศัพท์ด้วย “จะติดเชื้อบ้าด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD