ผิดที่มาสาย

1006 Words
เมื่อหญิงสาวมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ และพี่ฉิ่งก็ไปดูแลการจัดฉากให้พร้อมนั้น ศตายุก็เงยหน้าจากหนังสือที่อ่านถึงตอนโชกเลือดดุเด็ดเผ็ดมันจนแทบวางไม่ลงมามองหล่อนบ้าง เขายังไม่ทันได้ยิ้มให้หล่อนก็ได้เห็นว่าหล่อนจ้องเขาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว... “ฉันรู้ว่าฉันผิดที่มาสาย แต่นายก็ไม่ควรด่าฉันด้วยสายตาและท่าทางแบบนี้นะ...นายทำให้คำขอโทษที่ฉันเตรียมจะพูดกับนายไม่หลุดออกจากปากเลยทีเดียว” ศตายุกระพริบตาสามครั้ง... ก็ยังเห็นภาพเดิม ไม่เปลี่ยน เขานิ่งไปสามสิบวิ หล่อนก็ไม่หัวเราะแล้วก็พูดคำว่าล้อเล่น แสดงว่าหล่อนไม่ได้ล้อเล่น ชายหนุ่มมึนงง เขานี่นะ ด่าหล่อนด้วยสายตาและท่าทาง มันตอนไหนล่ะ... ยัยเด็กนี่ขี้ตู่ชะมัด “ผมไม่ได้ว่าอะไรคุณเลยนะ” ศตายุแปลกใจที่เห็นแววตาไม่เป็นมิตรจากดวงหน้าสวยหวานน่ารัก แต่นิสัยที่แสดงออกกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ลืมไปเลยว่าคนรอบข้างมักชมว่าตัวจริงหล่อนน่ารักและนิสัยดี “ไม่ได้ว่าก็แล้วไป ตอนแรกฉันนึกว่านายอยากจะตำหนิฉันซะอีกที่มาสาย ถึงได้ทำท่าเหมือนไม่พอใจ แต่ช่างเถอะ ถึงนายจะโกรธฉันก็อธิบายให้ฟังมากนักไม่ได้ ถึงเรื่องงานที่ยุ่งเหยิงจนทำให้ตารางเวลารวนไปหมด ฉันคิดว่าวันไหนนายได้เป็นซุปเปอร์สตาร์แบบฉันนายคงเข้าใจเอง” ศตายุมองผู้หญิงผมซอยสั้น หน้าเหมือนเด็กเพิ่งพ้นวัยมัธยมมาหมาดๆ ด้วยสายตาบ่งบอกความรู้สึกที่เอือมหล่อนอย่างเต็มเปี่ยม นายแบบหน้าหล่อคมดวงตาพราวระยับยามทำหน้าแบบนี้แล้วมันก็ดูกวนบาทาที่สุดในความคิดของ อิงกมล หล่อนจึงได้ย่นจมูกใส่เขาก่อนจะหันไปนั่งเล่นมองโลเกชันไปเรื่อยเปื่อย... ถือเป็นการยุติการสนทนาระหว่างกัน เพียงเท่านี้... นางเอกสาวที่มารับจ๊อบเป็นนางแบบให้นิตยสารพราวพรรณรายด้วยเหตุผลบางประการทอดมองสายตามองสถานที่และทีมงานทุกคนที่เตรียมพร้อมฉากที่เซตไว้ให้พร้อมก่อนที่หล่อนจะมาให้เฟอร์เฟคกว่าเดิมเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่พบใครสักคนที่หล่อนมองหา... แม้นจะมองรอบตัวครบสามร้อยหกสิบองศาแล้วก็ไม่พบเงาของ เขา คนนั้น พบแค่เพียงผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่หล่อนไม่ได้อยากจะพบแม้แต่น้อยนิด สายตาเขากับหล่อนหันมาประสานกันโดยบังเอิญหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างหันกลับมามองอีกฝ่ายเพื่อประเมินท่าที แววตาไม่เป็นมิตรจากอิงกมลยังมีอยู่... ศตายุก็ไม่ได้คิดจะรักษามารยาทอีกต่อไป เขาทำหน้าเอือมๆ แล้วก็ยักไหล่ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเก้าอี้ หยิบหนังสือที่อ่านค้างไว้มากอ่านต่ออย่างสบายใจ... กะอีแค่นางเอกดัง อย่าหวังว่าเขาจะประจบหรือว่าอยากเป็นมิตรด้วยเพราะความดังของหล่อน ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องทำแบบนั้น... เขายอมทิ้งโอกาสที่จะรู้จักเพื่อนในวงการบันเทิงที่เขาจะต้องวนเวียนอยู่กับมันในอนาคตอันใกล้นี้ไปหนึ่งคน สาเหตุน่ะหรือก็เพราะเขาคิดว่า มีเพื่อนนิสัยอย่างนี้ให้เขาไม่มีเห็นทีจะดีกว่าน่ะสิ ฝ่ายอิงกมลไม่ได้แคร์ปฏิกิริยาเป็นอริที่ได้ตอบกลับมาเพราะไม่ได้ต้องการเป็นมิตรกับเขาสักเท่าไหร่ แม้ว่าอันที่จริงพื้นฐานนิสัยอิงกมลไม่ใช่คนนิสัยไม่ดีไม่ใช่คนระรานใครใครก่อน แต่สำหรับศตายุนายแบบหน้าหล่อคมคาย หุ่นเย้ายวนใจที่อยู่ข้างๆ ที่ถูกหล่อนทำตัวไม่เป็นมิตรกับเขาก็เพราะหล่อนกับเขามีความหลังต่อกันในแบบยากที่จะลืม... แต่เขาแค่จำหล่อนไม่ได้ ในขณะที่หล่อนดันจำเขาได้จนฝังใจ และไม่มีวันจะญาติดี มันถึงได้ออกมาในรูปแบบนี้ ช่างแต่งหน้าใช้เวลาแค่สามสิบนาทีเนรมิตใบหน้าเนียนใสไร้เครื่องสำอางของอิงกมลให้งามเด่น ทรงผมซอยสั้นถูกดัดม้วนลอนสวยงามเข้ากับโครงหน้าเรียวเล็ก เพียงเท่านั้นหญิงสาวในชุดขาวงามบริสุทธิ์ก็สวยพร้อมจะออกสู่หน้ากล้องแล้ว ฝ่ายศตายุก็ถูกผัดแป้งให้หน้าคมนั้นมีราศีขึ้น ทรงผมสั้นเซตเรียบร้อยทำให้ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่าศตายุนั้นหล่อมาก เพราะนอกจากจะรูปร่างดีแล้วใบหน้าของเขานั้นยังมีเสน่ห์ ดวงตามีแวววาวระยับเหมือนคนขี้เล่น รอยยิ้มกว้างที่น่าหลงไหลเหลือล้น ทำให้ใครที่อยู่ใกล้ต่างระทวยได้ทั้งนั้น “โอเค เรียบร้อย พร้อมทุกฝ่ายแล้วใช่ไหม” พี่ฉิ่งสรุปหลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นพร้อมเดินหน้าไปได้ “ยังไม่โอเค เหลือตากล้อง” ทีมงานคนหนึ่งร้องออกมา “พี่ให้คนตามมาแล้ว โน่นไง เดินมาแล้ว” เจ๊ใหญ่ของคนในกองชี้ให้คนหันไปดูคนที่ถูกกล่าวถึงว่ายังไม่มา “โอ๊ย กว่าจะเสร็จ กว่าจะอัญเชิญตากล้องมาได้... ก็ปล่อยให้นอนสันหลังยาวเป็นจระเข้ไปแล้ว จะช้าอะไรกันนักหนา ทำไมไม่รอให้มืดเลย แสงจะได้หมด จากถ่ายปกเวดดิ้ง จะได้เปลี่ยนเป็นถ่ายหน้าปกนิตยสารผีแทน” เสียงดังลั่นไร่องุ่นแผดก้องมา... ทุกคนทำหน้าเซ็งกับคำบ่นของตากล้องกิตติมศักดิ์น้องชายคนเล็กของพี่ฉิ่งที่เดินหาวหวอดๆ เข้ามาในกอง หลังจากที่รอไม่ไหวไปงีบรอบนรถนานสองนานแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD