วิทยายุทธ์ต่ำลงไปเยอะ

1134 Words
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ร่างสูงในชุดนอนปาจามาสีขาวฟ้าลายทาง ยืนเคาะประตูห้อง 3012 คนเคาะตาปรือจะหลับจนต้องพิงประตูไปหลับตาไปพลาง พออิงกมลเปิดประตูออกมา ศตายุก็ถึงกับเซตามประตูลอยละลิ่วผ่านหน้าอิงกมลลงไปนอนฟุบกับพื้น “เฮ้ย อะไรกันนี่ นายหน้าหนวด มากองอะไรอยู่ตรงนี้” เสียงใสของนางเอกสาวเจ้าของห้อง 3012 ร้องดังโวยวาย แต่ดวงตาของหล่อนกลับมีแวววาววับซ่อนความสะใจอย่างปิดไม่มิด ศตายุรู้สึกว่าตัวเองตื่นเต็มที่ก็ตอนที่เซล้มลงแล้วเอาแก้มแนบพื้นห้องของอิงกมล... เขาพลิกตัวลุกขึ้นเผชิญหน้าหล่อนอย่างพร้อมออกศึกเต็มที่ หากดวงหน้าใสที่มองเขาราวกับเด็กไร้เดียงสา ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก นอกจากถามด้วยน้ำเสียงเรียบติดจะงัวเงียเล็กน้อย เพราะเขาเพิ่งกลับห้องแล้วซุกหัวนอนที่เตียงตอนเกือบค่อนรุ่งนี่เอง เขาถึงได้สติแตกนักหนากับการถูกปลุกแต่เช้าถึงสองรอบ “ทำอะไรเสียงดังแต่เช้าอย่างนี้... คนอื่นเขาจะหลับจะนอน ผมอยู่ห้องข้างๆ คุณและก็กำลังหลับด้วย” “อุ๊ย ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้ว่านายอยู่ห้องข้างๆ และก็กำลังหลับ” สีหน้าสำนึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม แสดงออกได้ไม่ยากนักเพราะคนทำนั้นเป็นถึงนางเอกเบอร์หนึ่งของช่องสามสี อันที่จริงหล่อนรู้ทั้งรู้ว่าเขาพักอยู่ห้องข้างเคียงที่ห่างกันแค่ผนังกั้น และไอ้ที่ตอกตะปูตรงตำแหน่งห้องเขาโครมๆ นั่นก็หลังจากที่พี่อาร์ตโทรเข้ามาบอกว่ามีเพื่อนข้างห้องได้ไม่นานนัก... แทนที่จะกลัวที่อีกฝ่ายตามมาโวยวายถึงห้อง... แต่หล่อนกลับถูกใจและจงใจแกล้งเขาเต็มที่อยู่แล้ว... เพราะหล่อนไม่อยากทนอยู่ห้องข้างเคียงกับคนแบบเขา เพราะฉะนั้นหล่อนกับเขาก็ต้องต่อสู้แย่งชิงพื้นที่กันด้วยสงครามประสาท ใครทนไม่ได้ก็ต้องย้ายออกไปจากที่นี่ ซึ่งแน่นอนว่าศตายุต้องเป็นฝ่ายไปเนื่องจากอิงกมลได้เปรียบเพราะเป็นฝ่ายออกรบทัพจับศึกอยู่ฝ่ายเดียวย่อมชนะใสๆ อยู่แล้ว “งั้นก็หยุดเอาไว้ก่อน เอาไว้ทำตอนเที่ยงหรือตอนบ่ายได้ไหม ผมจะนอน” “ไม่ได้หรอก เดี๋ยวอีกสองชั่วโมงฉันก็จะต้องออกไปช้อปปิงแล้ว ตอนนี้แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว…ไหนๆ นายก็มาแล้ว ช่วยฉันตอกตะปูติดรูปหน่อยสิ ฉันเพิ่งได้รูปใบใหม่มา อยากติดที่ห้องรับแขก” “ไหนล่ะ เดี๋ยวผมช่วยทำให้” ศตายุไม่อิดออด แม้จะรู้สึกว่าตัวเองต้องการพักผ่อน เพราะเขาต้องการทำให้มันเสร็จๆ แล้วก็ได้กลับห้องไปนอนอย่างสงบสุขนั่นเอง ผนังห้องนั่งเล่นของหล่อนอยู่ด้านเดียวกับห้องนอนของศตายุ ชายหนุ่มมองรูปที่หล่อนเอามาแขวนผนังแล้วเห็นว่ามันค่อนข้างจะเก่าและมีฝุ่นเกาะอยู่เล็กน้อย เขาจึงเลิกคิ้วสงสัย ก่อนจะเงยหน้ามามองหล่อน “มันไม่เหมือนของใหม่เลยนะ” “นี่ นายจะกล่าวหาว่าฉันโกหกหรือไงยะ... รูปนี้ฉันไปค้นมาจากบ้านเพราะว่าชอบมาก ฉันเลยอยากแขวนเอาไว้ยังไงล่ะ” ศตายุมองรูปที่หล่อนชอบมาก มันเป็นรูปอิงกมลที่อยู่ในท่าทางที่ตลก และใบหน้าสวยก็ย่นจมูกและ ทำตาเหล่ไม่สามัคคีกัน มันดูชวนขำมากกว่าประทับใจเสียอีก พอจะเข้าใจแล้วว่ายัยนี่ชอบของแปลกและก็มักทำอะไรแปลกๆ อยู่เสมอ “ถ้ากำลังจะติด ทำไมไม่เช็ดฝุ่นออกก่อน” พอชายหนุ่มพูด อิงกมลก็ทำเป็นเออออไปเอาผ้ามาเช็ดกรอบรูปไม่ยอมให้เขาจับได้ว่าหล่อนกำลังหลอกเขาอยู่... ศตายุตอกตะปูและแขวนภาพให้หล่อน แต่อิงกมลไม่หยุดป่วนเขาเท่านั้น หล่อนยังให้เขาเลื่อนรูปไปมาโดยหาว่าไม่ตรงบ้าง ตอกตะปูเอียงบ้างสารพัด กว่าหล่อนจะพอใจ คนช่วยก็แทบเหงื่อตก “เอ้า ได้ตรงที่สุดแค่นี้แหละ ผมดูดีแล้ว ถ้าเกิดยังคิดว่าเบี้ยวก็ไปตามช่างของคอนโดมาทำให้แทนนะครับ” ศตายุ ถอยออกมาจากรูปและคืนค้อนตอกตะปูอันเล็กให้หล่อน มือหนาบีบนวดไหล่ตัวเองเพราะเกร็งนานจนปวดไปหมด ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีรอยยิ้มประดับสักนิด บ่งบอกอาการว่าเริ่มจะไม่ไหวกับบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ จากอิงกมล “นายว่าตรงฉันก็ว่าตรงก็ได้ ขอบใจมากนะ... เป็นเพื่อนข้างห้องกันอย่างนี้ก็ดี มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน” “อืม” ศตายุตอบรับหญิงสาวที่แสดงท่าทางเป็นมิตรกับเขามากขึ้น “มีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกันนะ ห้องอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง” อิงกมลยิ้มแป้น แต่ดวงตากลับฉายแววบางอย่างที่ศตายุไม่ทันมอง... เพราะวูบหนึ่งมันคือแววตาอาฆาตมาดร้ายเหมือนคำพูดที่วนเวียนอยู่ในสมองหล่อน “ถ้าฉันกล้าพูดฉันจะขอให้นายช่วยออกไปจากห้องน่ะสิ แต่ฉันไม่กล้าพอดังนั้นฉันก็เลยจะไล่นายทางอ้อมให้ได้เลยคอยดู” แต่สิ่งที่หล่อนพูดและทำกลับตรงกันข้ามกับความคิดโดยสิ้นเชิง “ขอบคุณมาก ถ้ามีอะไรฉันก็คงรบกวนนายนี่แหละ เพราะว่าชั้นนี้ทั้งชั้นเพิ่งมีแค่ฉันกับนายที่ย้ายเข้ามาอยู่ มีอะไรก็ช่วยเหลือกันถูกแล้ว นายมีอะไรให้ช่วยก็บอกฉันได้เลยนะ... ขอโทษที่เสียงดังและก็ขอบคุณมากที่ช่วย” “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่มีอะไรให้ช่วยแล้วผมกลับไปนอนก่อนนะ” “อืม ไปเถอะ” มือเล็กๆ โบกอำลาเขา พอร่างสูงหันหลังให้ ใบหน้าที่ตีขรึมของอิงกมลก็หลุด ปล่อยรอยยิ้มซุกซนและก็บ่นอุบอิบออกมาทันใด “อ่อน วิทยายุทธ์ต่ำลงไปเยอะ” เมื่อศตายุเดินกลับห้องไป... อิงกมลก็ค่อยถอยกลับมานอนที่โซฟา ดวงตาจดจ้องโทรทัศน์แอลซีดีขนาดใหญ่ทั้งที่ไม่ได้เปิดเครื่องเอาไว้... ทุกอย่างในจอโทรทัศน์ว่างเปล่า หากแต่ในห้วงมโนนึกของหญิงสาวกลับย้อนไปในคืนวันเก่าถึงสาเหตุที่ทำให้หล่อนเกลียดศตายุจนถึงขั้นไม่เผาผี มันฉายชัดซ้ำๆอยู่ในหัวหล่อน ราวกับว่ามีภาพอยู่หน้าจอโทรทัศน์อย่างไรอย่างนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD