Chapter 5 อารมณ์เปลี่ยวของสาวใช้

1205 Words
Chapter 5 อารมณ์เปลี่ยวของสาวใช้ ดูเหมือนว่าแค่นิ้วจะไม่สามารถทำให้นางสุขสม อีกทั้งคู่รักผิดศีลธรรมด้านบนก็กำลังจะบรรรเลงบทรักรอบที่สอง นางกวาดสายตามองไปทั่วห้องเพื่อหาตัวช่วย ยังผลให้บัณฑิตหนุ่มถึงกับต้องรีบหลบ หลิงอีขมวดคิ้วนางสาวเท้ายาวๆ ก้าวเข้าไปในครัวด้านหลัง บัณฑิตหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็รีบเดินอ้อมไปทางด้านหลังของโรงเตี๊ยม โชคดีที่ห้องครัวมีช่องระบายอากาศอยู่หลายจุด เขาจึงปีนขึ้นไปแล้วแอบมองว่านางจะทำอะไรต่อไปด้วยใจลุ้นระทึก สาวใช้เดินไปเลือกผักผลไม้ที่วางอยู่บนกระจาด จนได้แตงกวาแท่งยาวเหมาะมือมาหนึ่งแท่ง นางจึงลากเก้าอี้มากลางห้องครัวแล้วนั่งลงโดยยกขาข้างหนึ่งชันขึ้นบนเก้าอี้ จ๊วบ! นางเลียแตงกวาก่อนจะอมแตงกวาเข้าไปกว่าสามส่วน ยังผลให้บันฑิตหนุ่มถึงกับทนไม่ไหวรีบถอดกางเกงออกแล้วชักแตงกวายักษ์ของตนออกมากำเอาไว้ ขณะที่สายตายังคงจับจ้องหญิงงามไม่วางตา “อะ...อาห์ สะ...เสียวจังเลย” นางใช้ปลายแตงกวาส่วนที่เป็นหัวมนใหญ่ถูไถไปกับเมล็ดและกลีบสวาทของตนไปมา จนน้ำสีขาวไหลเยิ้ม มือข้างหนึ่งบีบเคล้นทรวงอกของตนแรงๆ จนก่อเกิดเป็นรอยริ้ว สวบ! “อาห์ คับจัง” นางเสียบแตงกวาเข้าไปกว่าสามส่วน ดวงตาเหลือกขึ้นน้อยๆ ด้วยความจุกก่อนจะปรือเปลือกตาลงต่ำเมื่อความเสียวแล่นซ่านไปทั่งทั้งร่าง นางเผยอริมฝีปากแล้วส่งเสียงครางแผ่ว “ซะ...ซี้ด สะ...เสียว เสียวจัง” กำส่วนปลายของแตงกวาไว้ในมือแน่นแล้วแทงเข้าแทงออกแรงๆ จนกลีบสีชมพูฉ่ำบานออก “โอวแม่นางคนงาม จะ...เจ้าช่างน่าเอาเหลือเกิน” บัณฑิตหนุ่มครางเสียงแหบพร่าพึมพำ ใช้มือสาวท่อนเอ็นอุ่นของตนเองรัวเร็วด้วยความกระสันสวาทจนแทบทนไม่ไหว “อาห์ อะ...อะ...อา อูวส์” หลิงอีบิดเร่าเมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอด นางกระตุกเกร็งขณะที่มือยังคงยัดแตงกวาเข้าไปในปากทางรักไม่หยุดหย่อน นางงอตัวหอบหายใจแรง ช่องแคบของนางตอดรัดแตงกวาดัง ตุบ! ตุบ! ตุบ! นางแลบลิ้นเลียริมฝีปาก แล้วชักแตงกวาออกมาดูดเลียไปมา บัณฑิตหนุ่มถึงกับหอบหายใจแรงปลดปล่อยน้ำสีขาวพวยพุ่งออกมาด้วยความเสียวจนถึงขีดสุด “อาห์...” หลิงอีโยนแตงกวาทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะจัดการถลกกางเกงตัวในขึ้นแล้วจัดแต่งกระโปรงตัวนอกให้เรียบร้อย “รู้สึกดีจัง” สาวใช้อมยิ้มอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าหวานแดงระเรื่อไปด้วยเลือดฝาด คืนนี้นางคงหลับสนิทเพราะได้ปลดปล่อยความต้องการที่อัดแน่น หลิงอีนั้นเป็นเงือกสาวรับใช้ของคุณหนูยี่เจิน แน่นอนว่าความงามของเงือกนั้นไม่เป็นรองใครแม้แต่เทพเซียนบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า แม้จะไม่งามเท่าเจ้านายสาว ทว่าหากเทียบกับหญิงสาวบนโลกแล้ว ความงามของนางนั้นแทบจะล่มเมืองได้เลยทีเดียว และนางยังคงความเป็นโสดมาหลายร้อยปี ด้วยตั้งปณิธานเอาไว้ว่านางจะยอมมีคู่ก็ต่อเมื่อเจ้านายสาวของนางสมหวังในความรักแล้วเท่านั้น จึงทำให้บรรดาเงือกหนุ่มน้อยใหญ่ที่เข้ามาเกี้ยว ไม่มีใครอดทนรอไหวเลยสักคน ซึ่งนางคิดว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว จะได้วัดใจกันไปเลยว่าบรรดาบุรุษเพศเหล่านั้น รักนางมากพอที่จะอดทนรอได้หรือไม่ ซึ่งจริงๆ แล้วนางก็เหงาไม่น้อย และได้แต่หวังว่าภารกิจครั้งนี้จะทำให้เจ้านายสาวของนางสมหวังในความรัก มีความสุขไปจนตราบชั่วฟ้าดินสลาย คิดพลางถอนหายใจ เดินออกไปจากห้องครัวหมายจะปิดประตูโรงเตี๊ยม เดาว่าคุณหนูยี่เจินคงเหาะกลับขึ้นชั้นสามจากทางด้านหลังโรงเตี๊ยมเช่นทุกครั้ง ทว่าจังหวะนั้นกลับมีมือหนาข้างหนึ่งเอื้อมมาจับขอบประตูเอาไว้เสียก่อน “ข้าต้องการเข้าพักที่นี่ พอจะยังมีห้องว่างอยู่หรือไม่” ราวกับถูกน้ำเย็นราดรดตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า นางรู้สึกชาวูบไปทั่วทั้งสรรพางค์กายเพียงแค่ได้สบตาชายหนุ่มผู้นี้ ทว่าเพียงระยะเวลาอันสั้นหัวใจของนางกลับเต้นแรงโครมครามจนแทบกระโจนออกมานอกอก เมื่อคิดว่า ‘เขา’ อาจจะเห็นว่านางช่วยตัวเองหรือไม่! ทว่าใบหน้าที่เรียบเฉย และท่าทางเหนื่อยหอบราวกับเพิ่งเดินเท้ามาถึงก็ทำให้นางปัดความสงสัยนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว “ยะ...ยังว่างเจ้าค่ะนายท่าน ขอเชิญเข้ามาด้านในเพื่อกรอกประวัติก่อน แล้วข้าจะนำท่านไปยังห้องพักเจ้าค่ะ” นางย่อตัวลงทำความเคารพแขกผู้มาเยือน พลางชะเง้อมองไปทางด้านหลังอย่างคุ้นชิน ปกตินางจะมองหาหญิงสาวเพื่อหวังให้แขกที่มาพักได้เสพสุขกามารมณ์ ทว่าวันนี้เมื่อนางมองเลยหัวไหล่ของชายหนุ่มออกไปแล้วไม่เห็นใคร นางกลับลิงโลดใจอย่างประหลาด ‘บ้าจริง! ข้าไม่ควรรู้สึกเช่นนี้’ นางก่นด่าตัวเองในใจ แต่เมื่อช้อนเปลือกตาขึ้นสบดวงตาคมที่กำลังจ้องมองนางอยู่ก่อนแล้ว หัวใจเจ้ากรรมก็กระตุกไหว รับรู้ว่าเลือดฝาดบริเวณใบหน้าคงแล่นซ่านจนแดงระเรื่อ “ข้าขอขอบคุณแม่นางมาก ดึกดื่นเช่นนี้หากแม่นางไม่รับข้าเข้าพัก ข้าคงต้องอาศัยนอนตามใต้ร่มไม้” “นายท่านอย่าได้เกรงใจ ข้ากับเถ้าแก่เนี้ยมีใจรักในงานบริการ ตลอดระยะเวลาที่นายท่านพักอยู่ที่นี่พวกเราจะดูแลนายท่านให้ดีที่สุด” “เช่นนั้นข้าคงต้องขอรบกวนแม่นางแล้ว” ชายหนุ่มโน้มกายอย่างคนสุภาพนอบน้อม หลิงอีลอบมองเขาอย่างพินิจพิจารณา เขาเป็นคนหนุ่มหน้าตาดี แต่งกายสะอาดสะอ้าน ที่ไหล่สะพายห่อผ้าห่อเล็ก ที่มือมีตำราเล่มหนาที่ถือไว้ราวกับเคยชิน “นายท่านเป็นบัณฑิตหรือเจ้าคะ ถ้าให้ข้าเดาท่านคงกำลังเดินทางไปเมืองไห่เหอเพื่อสอบฮู่ยซื่อที่จะจัดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะมาถึงเป็นแน่” หลิงอีชวนคุยขณะเดินนำชายหนุ่มขึ้นไปยังชั้นสอง โดยไม่รู้เลยว่าคนตัวโตที่เดินตามมานั้น ลอบมองบั้นท้ายดินระเบิดของนางยามเยื้องย่างขึ้นบันไดแทบไม่วางตา ภาพนางช่วยตัวเองช่างเย้ายวนติดตรึงจนทำให้เลือดในกายของบัณฑิตหนุ่มสูบฉีดแรง เขาต้องใช้ตำราปิดบังเอาไว้ เพื่อไม่ให้นางสังเกตเห็นแท่งทวนของเขาที่ชี้โด่เด่อยากจะทิ่มแทงเข้าไปในช่องแคบสีชมพูระเรื่อของนางแทบขาดใจ “แม่นางช่างมีตาแหลมคม ใช่แล้วข้าเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น ‘จี่ว์เหริน’ และกำลังพยายามสอบเพื่อเลื่อนเป็น ‘ก้งเซิง’”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD