EP.7 LOVE DIE
EP.7 NICE TO MEET YOU
"เธอหมายถึงฉันหรอ? "เขาถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจหนัก
"ในห้องมีแค่ฉันกับพี่แค่สองคนนิ"ฉันชี้ไปที่ตัวพี่มาร์คัสกับฉัน
"จะหมายถึงคนอื่นได้ยังไงเล่า"และตอบไปด้วยแววตาแป๋วๆ
คนตรงหน้ายังคงนิ่งๆ ไม่ยิ้มไม่ตอบอะไรมากไปกว่านั้น
...ความเงียบเริ่มปกคลุมพื้นที่ตรงนี้อีกครั้ง...
"แล้วฉันละ"ฉันเลยทำลายความเงียบด้วยการตั้งคำถามไปตรงๆ ว่า
"ฉันไม่น่ารักหรอ? "ฉันพูดโผงผางออกไปและยืนกอดอกนิ่งๆ
คนตรงหน้าหันมาสบสายตาของฉันทันที แววตาของพี่มาร์คัสช่างหวานยิ่งกว่าน้ำตาลซะอีก
"น้ำขิงในแก้วอุ่นหมดแล้ว รีบดื่มเถอะ"เขาไม่ตอบคำถามของฉันเอาแต่ก้มหน้า
พี่มาร์คัสลุกจากโซฟาไปหน้าตาเรียบนิ่งราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำถามของฉัน
"ฉันไม่ใช่สเปคพี่ใช่มั้ยอะ? "ฉันเน้นถามไปอีกครั้งเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเมินใส่
พี่มาร์คัสหยุดชะงักฝีเท้าและยืนนิ่งอยู่สักพักใหญ่ ก่อนจะหันกลับมาหน้าต่อกับฉัน
"ไม่ใช่"เขาส่ายหน้าและตอบมาตามตรง คำตอบนั้นทำเอาฉันหน้าเสียทันทีอย่างเก็บอาการไม่อยู่เลยจริงๆ ฉันก้มหน้าลงอย่างหลบสายตาของเขา
"ไม่ใช่แบบนั้น"เขารีบพูดขึ้นต่อและยกมือขึ้นเบรคความคิดของฉันทันที
"จริงๆ แล้วฉันไม่มีสเปค"เขารีบแก้ตัวขึ้นมาทันควันแต่ฉันยังไม่เชื่อสิ่งนั้นเท่าไหร่
ฉันหยิบแก้วน้ำขิงร้อนๆ ขึ้นมาดื่มจิบๆ ไปพลางๆ แก้ความรู้สึกเขินๆ ในตอนนี้
ฉันเงยหน้าสบสายตาของเขานิ่งๆ ฉันก็พยักหน้ารับแม้ว่าคำพูดของเขามักจะกำกวมและไม่ชัดเจนเลยสักอย่าง
"จริงๆ ...เธอก็น่ารักดี"สิ้นเสียงละมุนๆ ของเขา
ฟู่ววว!! น้ำขิงพุ่งออกมาแบบเบรคไม่อยู่ เพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาว่าฉันน่ารัก
"จึ๋ย ฉันขอโทษมันสำลักอะพี่"ฉันเอามือปิดปากตัวเองแบบอายสุดขีดที่ดันไปพรวดน้ำขิงใส่กางเกงพี่มาร์คัสเกือบหมดและมันก็เปียกไปทั้งกางเกงเลย
"เดี๋ยวฉันช่วยเช็ค"ฉันรีบหยิบกระดาษทิชชู่มาซับๆ ที่กางเกงอย่างลืมตัวและซับไปเรื่อยๆ จนถึง
ท่อนขาด้านบนๆ นั้นและค่อยๆ ล่ามขึ้นไปถึง..
หมับ! พี่มาร์คัสคว้ามือของฉันเอาไว้ทัน ก่อนที่ฝ่ามือของฉันจะซับน้ำขิงลงที่กลางเป้าตุงๆ ของเขานั้นทำเอาฉันตาเหลือกแทบหงายกับเขาโก๊ะของตัวเอง
"ฉันไปเปลี่ยนกางเกงเลยดีกว่า อย่าเช็ดเลย"เขาเองก็แอบหน้าซีดๆ ไม่ต่างจากฉัน
"ชะ..ใช่พี่ไปเปลี่ยนกางเกงดีกว่า"ฉันตอบไปอย่างยิ้มแห้งๆ
พอพี่มาร์คัสเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของเขาอีกครั้ง ฉันก็กำหมัดแน่นๆ และเอามาทุบหัวของตัวเองแบบเบาๆ
"ทำบ้าอะไรลงไปเนี้ยอลิเซีย"ฉันเมมปากและทำได้แค่ด่าตัวเองกับเรื่องหน้าอายนั้น
พี่มาร์คัสเปลี่ยนกางเกงเป็นขาสั้นสีกรมและเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดเขาเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ ฉัน
ขนาดเขาไม่ฉีดน้ำหอมกลิ่นกายเขายังห๊อมหอมละมุนสุดๆ
"ทำแผลกันเถอะเดี๋ยวเธอกลับบ้านผิดเวลาแล้วอาจจะโดนแม่บ่นได้"เขาค่อยๆ เช็ดแอลกอฮอล์ลงที่แผลช้าๆ และทายาอย่างแผ่วเบา
ฉันนั่งตัวตรงปล่อยให้เขาทำแผลให้แบบนั้น มือของเขาสัมผัสลงบนใบหน้าของฉัน
ลมหายใจอุ่นของเขาที่หายใจรดฉันอยู่เหนือหน้าผาก
"จริงๆ แผลแห้งสนิทแล้วนะ"เขาค่อยๆ ถอนตัวออกไปเมื่อทายาตัวแรงเสร็จ
" แต่อย่าลืมทายาตัวนี้ จะได้ไม่มีแผลเป็นบนหน้า"เขาพูดก่อนจะยื่นหลอดยาให้ฉันเก็บไว้
ฉันรับหลอดยานั้นก่อนจะเก็บใส่กระเป๋านักเรียนทันที
"ที่พี่ทำแผลให้และยังดูแลฉันอย่างดี เพราะว่าฉันช่วยพี่จากเรื่องวันนั้น"ฉันพูดไปก็กัดริมฝีปากไปอย่างไม่มั่นใจเท่าไหร่ฉันเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง
"อย่างงั้น...ถ้าแผลฉันหายแล้ว"ฉันลูบแผลของตัวเองเบาๆ
"ฉันก็ไม่มีสิทธิ์มาหาพี่แล้วใช่มั้ย? "ฉันเอ่ยถามไปเพราะฉันกำลังรู้สึกว่าฉันกับเขาอาจจะได้รู้จักกันเพียงเท่านี้แล้วจริงๆ คนตรงหน้าเงียบไปอย่างไม่ตอบอะไร
"จริงๆ แล้วฉันไม่ค่อยมีเวลาว่างสักเท่าไหร่"พี่มาร์คัสพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบๆ และเงียบไป
"ฉันไม่ควรมารบกวนเวลาของพี่สินะ"ฉันพูดขึ้นเบาๆ กับตัวเอง
และคำตอบของเขามันทำให้ฉันเข้าใจในความหมายที่เขาจะสื่อออกมา เขาเลี่ยงที่จะตอบฉันมาตรงๆ ว่าฉันไม่ควรมาหาเขาที่นี้อีก บางทีการตอบแบบสุภาพๆ ก็เจ็บได้เหมือนกันนะ
ฉันถอนหายใจและปรับสีหน้าให้ดูปกติก่อนจะหยิบกระเป๋าและลุกขึ้นจากโซฟาทันที
"ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"ฉันยิ้มและยื่นมือออกไปซึ่งพี่มาร์คัสเองก็ยื่นมือกลับมาเช่นกัน
"ยินดีที่ได้รู้จัก อลิเซีย"เขาตอบกลับมานิ่งๆ และยิ้มอ่อนๆ
เราสองคนจับมือกันและกันอยู่แบบนั้นสักพัก
"เดี๋ยวฉันเอาชุดไปซักและจะเอามาฝากไว้ที่ใต้คอนโดของพี่นะคะ"ฉันมองชุดนอนของพี่มาร์คัสที่ตัวเองสวมใส่อยู่และยัดชุดนักเรียนตัวเองใส่กระเป๋านักเรียนไปแบบเร่งๆ
"ได้"เขาพยักหน้ารับเบาๆ
"ฉันกลับเลยแล้วกัน"ฉันบอกลาเขาทั้งที่ไม่มองหน้าและรีบเดินเร่งฝีเท้าออกมาจากห้องทันที
@บ้าน
ตุ๊บบตั่บ ตุ๊บตั่บๆๆๆๆ เสียงหมัดแน่นๆ ของฉันที่ชกเข้ากับกระสอบทรายอย่างบ้าคลั่ง
ดังไปทั่วยิมหลังบ้าน ไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไรแต่ร่างกายเมื่อต้องการแรงปะทะที่เจ็บๆ เจ็บกว่านี้เยอะๆ เลย
ปั่ก ปั่ก ปั่กๆๆ ก่อนจะแตะซ้ำๆ เข้าที่กระสอบทรายอย่างแรงๆ
"ฮึ ฮึ ฮึก"ฉันกำหมัดแน่นและออกแรงอย่างเต็มกำลัง
เพราะเวลาที่ใช้พละกำลังมากเท่าไหร่ สมองมันก็ยิ่งโล่งมากขึ้นเท่านั้น
ปั่ก ปั่กๆ
"เฮ่อออ "ฉันทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมกับกระดกน้ำเปล่าดื่มอย่างกระหาย
"กูโทรหามึงจะร้อยกว่าสายได้"จู่ๆ เสียงของคนที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
"ที่แท้ก็มาบ้าพลังอยู่นี้เอง"มันพูดก่อนจะทิ้งบุหรี่ลงกับพื้นและเดินเข้ามาหาฉันในยิม
"บอลเราอะ"มันทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ฉัน
"บอล? "ฉันทวนไปอย่างลืมสนิทเลยว่าวันนี้มีแข่งบอล คู่ที่เราเพิ่งจะพนันเอาไว้
"ชนะเว้ย"และมันก็พูดต่อก่อนจะยิ้มร่าออกมา
"เห้ยอย่างงี้ก็รวยแล้วดิ"ฉันโวยออกมาทันทีอย่างดีใจ
"เออดิ กูก็เลยรีบมาบอกมึงเนี้ยไง คิดว่าหลับไปแล้วเลยไม่รับโทรศัพท์"ไอ้เจบีตบไหล่ของฉันเบาๆ
"รวยแล้วๆ พรุ่งนี้มีค่าขนมเพิ่มแล้ว"ฉันยักไหล่ไปมาอย่างสบายใจ
"ทีมนี้แม่งเจ๋งวะ"ฉันพยักหน้าอย่างสะใจ แต่ไอ้เจบีกับเอาแต่มองหน้าฉันไม่พูดอะไร
"มองเชี้ยไร? "ฉันหันไปถามไอ้เจบีที่นั่งมองหน้านิ่งๆ
"ป่าว"มันก็ส่ายหน้าเบาๆ
"เออ มึงลุกมาซ้อมมวยกับกูดิวะ"ว่าแล้วมันก็ถอดกระเป๋าสะพายข้างโยนทิ้งไป
"ไม่ได้ต่อยกับมึงตั้งนาน"ก่อนจะกวักเรียกให้ฉันลุกตามและหยิบนวมขึ้นมารอขึ้นสังเวียง
"ไหวอะป่าว? " มันยังคงท้าทายแบบนั้น
"เก็บปากไว้กินข้าวต้มเถอะ เพราะมึงตายด้วยหมัดกูแน่ๆ "ฉันชี้หน้าก่อนจะคว้านวมและกระโดดขึ้นบนสังเวียงและเริ่มต่อยและเตะไอ้เจบีทันที
ไอ้เจบีเป็นลูกชายคนเดียวของลูกน้องสนิทของคุณปู่ ซึ่งพ่อฉันไว้ใจครอบครัวนี้มากๆ และแม้ว่าคุณปู่จะจากพวกเราไปแล้ว แต่ลูกน้องของท่านก็ยังคงจงภักดิ์ดีและทำงานต่อให้กับพ่อของฉัน
"ดึกมากแล้ว เลิกต่อยตีกันได้ละ"เสียงของพี่ลูคัสที่เดินมาตามฉันถึงยิมออกกำลังกายหลังบ้าน
"ครับเฮีย"เจบีก็พยักหน้ารับคำสั่งพี่ลูคัสทันทีก่อนจะเดินไปปิดไฟปิดพัดลมทันที
"ส่วนเรา มาคุยกับพี่ที่ห้องด้วย"พี่ลูคัสพี่ชายจอมเนี้ยบก็หันมาพูดเสียงเคร่งขรึมใส่ฉันทันที
"อื้มหื้ม" ฉันก็พยักหน้ารับก่อนจะยักคิ้วให้ไอ้เจบีและเดินกลับบ้านมาพร้อมๆ กับพี่ลูคัส
"พ่อกับแม่ไปต่างจังหวัดหนึ่งเดือนนะ"พี่ลูคัสพูดขึ้นขณะที่เราเดินกลับเข้ามาถึงในบ้าน
"ห่ะ อีกแล้วหรอ? "ฉันมองไปรอบๆ บ้านที่เงียบสงัด
"อื้ม โรงแรมที่นั้นจะถูกตรวจสอบมาตราฐานเพื่อเปลี่ยนเป็นโรงแรมห้าดาว" เขาอธิบายไปพลางๆ
"พ่อก็เลยต้องบินไปดูด้วยตัวเอง" พี่ลูคัสพูดต่อก่อนจะเทนมใส่แก้วให้ส่งฉัน
"ในระหว่างที่พ่อแม่ไม่อยู่ พี่ก็มีงานที่ต้องดูแลแทนพ่ออยู่เยอะมากๆ และก็ต้องทำเรื่องไปเรียนต่อที่อเมริกา"เขาพูดกับฉันขณะที่ฉันก็รับแก้วนมนั้นมาดื่มอย่างพยักหน้ารับรู้
"พี่จะให้ฉันไปช่วยงานของพ่อใช่ปะ? "ฉันตาลุกวาวขึ้นมาทันทีเลย เพราะว่างานของพ่อนะดูท่าทางจะสนุกและเหมาะกับฉันน่าดู
"ไม่ใช่"พี่ลูคัสส่ายหน้าทันที
ฉันวางแก้วนมไว้ตรงหน้าและมองเขาอย่างงงๆ
"พี่แค่จะบอกเธอว่าพี่ไม่มีเวลาว่างมากพอมานั่งดูแลเธอนะอลิเซีย"พี่ลูคัสหยิบแก้วนมนั้นไปล้างให้ฉันเหมือนทุกๆ ครั้ง
"อื้มหื้ม"ฉันพยักหน้ารับ
"เธอไม่ต้องช่วยอะไร แค่อย่าสร้างปัญหาให้พี่มากกว่านี้ก็พอ"เขามองหน้าฉันอย่างคาดโทษไว้เบาๆ พร้อมกับว่ารูปถ่ายที่ฉันแอบโดดเรียนไปดูรถแข่งเมื่อสองสามวันก่อน
"ค่ะ พ่อเอ้ยพี่ชาย"ฉันแบะปากและพูดไปอย่างประชดๆ
"อลิเซีย" เขาเพ่งสายตาดุๆ มาที่ฉัน
"เธอไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ" นั้นคือคำบ่นๆ ด้วยเสียงเข้มๆ ของพี่ชายจอมเนี้ยบของฉัน
"ต่อไปหัดคิดก่อนทำซะบ้าง"เขาย้ำอีกครั้ง
"และก็อย่าลืมว่าตัวเองเป็นผู้หญิง จะทำอะไรก็อย่ามากจนเกินพอดี"นั้นคือคำสอนจากพี่ชายหน้าเย็นชาของฉันเอง
"สุภาษิตสอนหญิงก็มา"ฉันล้อๆ หยอกๆ พี่ลูคัสไป
"ก็เพราะมีน้องสาวอย่างเธอไง ม้าดีดกระโหลกชัดๆ "เขาส่ายหน้าก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องตัวเองไปทันที
Marcus part
วินาทีที่ประตูห้องปิดลงสนิท มีเพียงกลิ่นน้ำหอมจางๆ ของเธอคนนั้นที่หลงเหลือเอาไว้อยู่ภายในอากาศ
ผมมองตรงไปที่ประตูห้องอยู่เนินนานผมกำหมัดแน่นเมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเองในตอนนี้. แววตาที่เริ่มพล่ามัว และเสียงเต้นของหัวใจที่ดังถี่ๆ
ผมเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าด้วยน้ำที่เย็นยะเยือกเรียกสติของตัวเองให้กลับมามือที่เริ่มสั่นๆ ใบหน้าที่แดงกำเพราะเลือดที่สูบฉีดออกมากผิดจากปกติ และทันทีที่หลับตาลง ใบหน้าของเธอคนนั้นก็โผล่ขึ้นมาย้ำๆ ซ้ำๆ เรือนร่างที่เปียกปอน ผิวขาวเนียนและแววตาที่ระยิบระยับเป็นประกาย ผมสะบัดความคิดนั้นออกไปทันที และพยายามหายใจเข้าและออกเพื่อควบคุมภาวะการเต้นของหัวใจ
"ฉันอยากให้เธอรู้จักฉัน เพียงเท่านี้"ผมพูดไปอย่างหวั่นในใจ
ผมกลัว...
กลัวที่จะทำความรู้จักกับเธอคนนั้นไปมากกว่านี้
กลัวว่าสุดท้ายแล้วเธอจะรู้ความจริงว่า
ผู้ชายคนนี้อ่อนแอมากแค่ไหน
.......
................
ผมมองไปที่โทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะหยิบมากดโทรออกทั้งที่มือสั่นๆ
"เรียกรถพยาบาลให้ที" ผมพูดออกไปอย่างแผ่วเบา
มือข้างหนึ่งยังคงแนบจับที่หัวใจของตัวเองที่เริ่มบีบเน้นจนจุกอก