ทันทีที่รู้เรื่องจากพ่อบ้านประจำปราสาทวลาดิเมียร์ กาเบรียลก็รีบมุ่งหน้าไปหาอลูคัสกับพี่ชายที่ชายป่าด้านหลังปราสาทด้วยความกังวล พี่ชายของเขากล้าบุกมาถึงเทือกเขาทรานชิเวเนียเชียวหรือ เกเบรียลรู้หรือเปล่าว่าตัวเองกำลังคิดทำอะไรลงไป การบุกมาถึงเทือกเขาแหล่งนี้ช่างเป็นเรื่องที่บ้าบอที่สุด คิดมาแก้แค้นให้เขา แต่ไม่ดูศักยภาพของตนเองเลย บุกมาถึงถิ่นของแวมไพร์ เกเบรียลไม่รู้หรือว่าที่นี่มันอันตรายแค่ไหน กาเบรียลรีบเร่งฝีเท้าพุ่งไปยังชายป่า ไม่รู้ป่านนี้พี่ชายของเขาเป็นอย่างไรบ้าง เขารู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก
“อย่าตายนะเกเบรียล”
ทว่าอีกด้านหนึ่งก็เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด อลูคัสพุ่งเข้าจู่โจมอย่างไม่คิดชีวิต เขาไม่มีทางปล่อยให้คนที่สังหารคู่ชีวิตของเขารอดไปได้เด็ดขาด แม้ชายผู้นั้นเป็นพี่ชายของกาเบรียลก็ตามที ก่อนหน้านี้กาเบรียลเคยช่วยชีวิตของนางอันเป็นที่รักของเขาก็จริง แต่ใช่ว่าเขาต้องตอบแทนบุญคุณกาเบรียลด้วยการปล่อยชายที่สังหารคู่ชีวิตของเขาไป
“ข้าไม่คิดปล่อยให้เจ้ามีชีวิตกลับไปหรอกเกเบรียล เจ้ากล้าดียังไงมาสังหารคู่ชีวิตข้า”
“คู่ชีวิตเจ้าเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องชายของข้าต้องตายไงอลูคัส ถึงเจ้าจะเป็นราชาแวมไพร์ ข้าก็ไม่กลัวเจ้าหรอก ก่อนมาที่นี่ข้าเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้แล้ว ถึงข้าตายไป ข้าก็ไม่เสียใจหรอก”
“เช่นนั้นเจ้าก็ตายเสียเถอะเกเบรียล”
อลูคัสพุ่งเข้าใส่เกเบรียลด้วยความเกรี้ยวกราด หากพูดกันด้วยเรื่องของฝีมือแล้ว ชายผู้นี้ยังสู้น้องชายไม่ได้เลย ตระกูลแอนเดอร์สันได้รับขนานนามว่าเป็นตระกูลที่มีนักล่าแวมไพร์เก่งกาจที่สุด ทว่าพอมาถึงรุ่นที่สิบของตระกูลกลับมีเพียงกาเบรียลเท่านั้นที่มีความสามารถและแข็งแกร่งที่แม้แต่เขายังรู้สึกหวาดหวั่น หากต้องต่อสู้กัน อาจพูดได้ว่าเป็นนักล่าแวมไพร์ที่เก่งกาจที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้
หากเทียบกันแล้วฝีมือเกเบรียลยังด้อยกว่ากาเบรียลมากนัก เขาต่อสู้กับกาเบรียลมาก็หลายครั้ง ระยะเวลาในการต่อสู้ก็กินเวลาไปหลายวัน แต่พอมาต่อสู้กับเกเบรียล เขากลับใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถเอาชนะได้แล้ว อลูคัสจับต้นคอเกเบรียลเอาไว้แน่น แววตาลุกโซนไปด้วยความแค้น
“ฝีมือเจ้ามีแค่นี้เองหรือเกเบรียล น้องชายของเจ้ายังมีฝีมือมีความสามารถมากกว่าเจ้าเสียอีก”
“ไม่ต้องพูดมาก อยากฆ่าข้าก็ฆ่าเลย ไม่ต้องมาพูดพล่ามอยู่หรอก” เกเบรียลบอกเสียงแข็ง เขารู้ตัวดีว่าไม่มีความสามารถที่เก่งกาจเหมือนน้องชาย ทว่าเขาก็เป็นนักล่าแวมไพร์ที่สามารถสังหารอมนุษย์ได้ไม่น้อยเช่นกัน การที่เขาไม่สามารถเอาชนะแวมไพร์ตนนี้ได้ก็ไม่แปลก ในบรรดาเผ่าพันธุ์แวมไพร์ มีเพียงสายเลือดแท้เท่านั้นที่มีพลังและความสามารถเก่งกาจต่างไปจากแวมไพร์ชนชั้นอื่นๆ
“เจ้าไม่ต้องกลัวเกเบรียล ข้าจัดการเจ้าเดี๋ยวนี้แหละ ตายเสียเถอะเกเบรียล”
อลูคัสบอกเสียงกร้าวจากนั้นก็ออกแรงบีบคอเกเบรียลอย่างแรง ยิ่งเห็นอาการดิ้นรน ตาเหลือก น้ำลายเริ่มฟูมปาก รอยยิ้มแสยะแยกเขี้ยวก็ปรากฏขึ้น ทว่าพริบตาเดียวเท่านั้นบนแขนของเขาก็มีมือของใครบางคนจับเอาไว้ ถึงไม่เดาเขาก็รู้ว่าเป็นใคร
“ท่านอลูคัส”
“ปล่อยมือข้าเดี๋ยวนี้กาเบรียล” อลูคัสตวัดสายตามองกาเบรียล ใบหน้าราบเรียบทว่าดวงตากลับวาวโรจน์ เขาคิดอยู่แล้วว่าสุดท้ายชายผู้นี้ต้องมาปรากฏตัว หลังจากที่เขาเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์ อดีตนักล่าแวมไพร์คนนี้ก็หายไป นี่เป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่กาเบรียลปรากฏกายมาให้เห็น
“ท่านต้องปล่อยมือจากคอพี่ชายข้าก่อน” กาเบรียลเอ่ยขอร้องราชาแวมไพร์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เขากลายมาเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์แวมไพร์ ชายผู้นี้ก็คือเจ้านายของเขาและยังเป็นผู้ให้ชีวิตใหม่แก่เขา แม้ไม่อยากได้ก็ตามที “ถือว่าข้าขอร้อง”
อลูคัสปล่อยมือจากคอเกเบรียล แม้ไม่อยากปล่อยก็เถอะ ทว่านี้เป็นครั้งแรกที่อดีตนักล่าแวมไพร์ผู้นี้เอ่ยปากขอร้องเขาด้วยสีหน้าและสายตาอ่อนน้อม และยังมีเหตุผลอีกอย่างที่เขาต้องปล่อยนั่นก็เพราะครั้งหนึ่งชายผู้นี้เคยช่วยเหลือคู่ชีวิตของเขาเอาไว้
“เจ้ายังไม่ตายหรือกาเบรียล” เกเบรียลหันมามองน้องชายด้วยสีหน้าตกใจ เป็นไปไม่ได้ที่น้องชายเขายังมีชีวิตอยู่ ในเมื่อวันนั้นเขาเห็นกับตาว่ากาเบรียลได้ตายไปแล้ว กาเบรียลมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรหรือว่าแวมไพร์ตนนี้เปลี่ยนน้องชายเขาให้กลายเป็นแวมไพร์
“ในฐานะมนุษย์ข้าตายไปแล้ว” กาเบรียลตอบพี่ชาย ขยับร่างเดินไปพยุงร่างผู้เป็นพี่ชายให้ออกห่างจากราชาแวมไพร์ ถึงท่านอลูคัสยอมปล่อยพี่ชายเขาตอนนี้ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้มีชีวิตรอดกลับไป
“เจ้ากลายเป็นแวมไพร์แล้วใช่ไหมกาเบรียล”
“เจ้าก็รู้คำตอบดีไม่ใช่หรือเกเบรียล”
เกเบรียลเงียบไปเมื่อฟังคำตอบจากปากน้องชาย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เหตุใดกาเบรียลถึงกลายเป็นแวมไพร์ไปได้ นักล่าแวมไพร์ที่เก่งกาจและมีความสามารถมากที่สุดในยุคนี้กลับกลายเป็นแวมไพร์เสียเองแบบนี้ โลกมนุษย์จะวุ่นวายขนาดไหนกัน
“เจ้ามาที่นี่ทำไมกาเบรียล”
“ท่านก็รู้คำตอบดีมิใช่หรือท่านอลูคัส ข้ามาเพื่อปกป้องพี่ชายเพียงคนเดียวของข้า”
“กาเบรียล”
เกเบรียลหันมามองน้องชายด้วยสีหน้าตื่นตะลึงไปเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย ตอนนี้ตระกูลแอนเดอร์สันเหลือเขาเพียงคนเดียวแล้วจริงๆ ทายาทของตระกูลแอนเดอร์สันมีผู้ชายสองคนนั้นก็คือเขากับกาเบรียล และมีน้องสาวอีกสามคนทว่าทั้งสามก็แต่งงานออกไปแล้วก็เปลี่ยนไปใช้นามสกุลของสามี ที่สำคัญเขากับน้องชายก็ยังไม่มีใครแต่งงานเลยสักคน ทายาทสืบทอดรุ่นต่อไปก็ยังไม่มี เกเบรียลละสายตาจากผู้เป็นน้องชายหันมามองชายผู้ที่เป็นผู้นำเผ่าพันธุ์แวมไพร์รุ่นที่สอง เขามีชีวิตมาถึงสามสิบสามปี ทว่าเขาก็ยังไม่เคยเห็นผู้ให้กำเนิดเผ่าพันธุ์อมตะเลยสักครั้ง
//////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...