ถ้าต้องทนอยู่กับผู้หญิงคนนี้เขาคงเป็นบ้าไปเสียก่อน หรือไม่ เขาคงต้องจับหล่อนโยนลงทะเลให้ฉลามกินเป็นอาหาร
“ชะ... ชุดอะไรคะ” พิณทิราถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้างุนงง
“เผียะ!!!”
“นังโง่ ชุดที่ฉันจะใส่ไปงานเลี้ยงไง แกรีดหรือยัง ฉันสั่งนังนวลไปบอกแกแล้ว นี่แกแกล้งฉันใช่ไหม แกไม่ยอมรีดชุดให้ฉัน ไม่อยากให้ฉันมีชุดใส่ไปงานใช่ไหม นังนี่วอนหาเรื่องอย่าอยู่เลย”
วิธาดาได้ทีตบตีพิณทิราด้วยความสะใจ ชังน้ำหน้าอีกฝ่ายอย่างที่สุด พิณทิราไม่ทันหลบจึงโดนตบเข้าไปเต็มฝ่ามือ
“คุณวิอย่าตีพิณเลยนะคะ พิณไม่รู้เรื่องจริงๆ พี่นวลไม่ได้บอกอะไร โอ๊ยๆๆ อย่าค่ะ พิณเจ็บ พิณเจ็บ พิณกลัวแล้ว ฮื่อๆ”
พิณทิราใช้มือยกขึ้นปัดป้องด้วยความเจ็บ
“แกสู้เหรอนังพิณ วันนี้ฉันจะเอาเลือดหัวแกออก วันนี้แกตายแน่ยังลูกคนใช้ นังไพร่ นังชั้นต่ำ” วิธาดาได้ทีทุบตีไม่ยั้ง
“คุณวิอย่าทำอะไรพิณเลย พิณไม่รู้จริงๆ”
พิณทิราพาตัวเองหนีเต็มที่แต่อีกฝ่ายตามมาจิกผมเอาไว้ก่อนจะตบใบหน้าสวยอย่างรุนแรง
“เผียะ!!!”
“โอ๊ย! คุณวิอย่าทำพิณเลย พิณไม่รู้จริงๆ พิณไม่รู้จริงๆ ค่ะ”
พิณทิรายกมือปัดป้อง สภาพยับเยินแทบดูไม่ได้ วิธาดาผลักร่างของน้องสาวให้ล้มลงบนพื้นหญ้าด้วยความสะใจ
“นึกว่าจะแน่ แกไม่มีทางสู้ฉันได้หรอกนังชั้นต่ำ นี่แค่สั่งสอน แกอย่าสาระแนมาเสนอหน้าอีก คนอย่างแกสมควรอยู่ก้นครัวโน่น”
วิธาดาใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากของพิณทิราจนหน้าหงาย
พิณทิราผวาหนีไปอีกด้าน ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงแทบดูไม่ได้ วิธาดามองด้วยความสะใจปนสมเพศ ริมฝีปากสีแดงสดเหยียดออกอย่างน่าชัง
สายตาคมเข้มของชายหนุ่มที่แอบอยู่ที่ประตูรั้วมองด้วยความรังเกียจไม่ปิดบัง ถ้าเธอเป็นลูกสาวเจ้าของบ้านก็คงเป็นว่าที่ “เมีย” ของเขา ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่มีอะไรดีงามเลย แถมยังอารมณ์ร้ายและเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง
นี่หรือผู้หญิงที่บิดาต้องการให้มาเป็นศรีภรรยาของเขา?
สิงหรัตน์บอกตัวเองว่าเขารังเกียจผู้หญิงคนนี้จับใจ นายหัวหนุ่มทอดสายตามองหญิงสาวอีกคนที่มีสภาพยับเยิน
ทำไมนะ?... ทำไมเขาอยากเข้าไปกอดปลอบประโลมร่างนั้นเหลือเกิน ถ้าให้ดีเขาอยากเข้าไปผลักร่างของหญิงสาวใจร้ายคนนั้นให้กระเด็นออกห่างจากร่างอรชรที่กำลังหวาดกลัว
“เอะอะโวยวายอะไรกันจ๊ะลูกวิคนดีของแม่”
กานดารีบออกมาดูเหตุการณ์ เหยียดยิ้มเมื่อเห็นว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งเห็นสภาพเด็กสาวที่นางเกลียดชังจับใจ ยิ่งสะใจเข้าไปใหญ่
“นังพิณสิคะคุณแม่ มันแกล้งวิไม่ยอมรีดชุดให้วิเพราะไม่อยากให้วิมีชุดใส่ไปงานเลี้ยงคืนนี้ มันมัวแต่มารดน้ำต้นกุหลาบบ้าบอนี่อยู่ได้”
วิธาดาหาไม้ใกล้ๆ ทุบตีต้นกุหลาบอย่างเกลียดชัง ยิ่งรู้ว่ามารดาของพิณทิรารักต้นกุหลาบพวกนี้มาก ยิ่งอยากทำลายด้วยความอิจฉาริษยา
ปิยฉัตรมารดาของพิณทิราสำส่อนยั่วผู้ชายไปทั่ว นั่นคือคำพูดกรอกหูจากมารดาที่พูดให้เธอฟังตั้งแต่เด็ก
“คุณวิอย่านะคะ อย่าค่ะ อย่าทำ พิณขอร้อง”
พิณทิราตกใจรีบเข้าไปกอดไม้เอาไว้แนบอก
“นังพิณ แกกล้าขัดใจลูกสาวฉันเหรอ จัดการมันเลยลูกวิ นังนี่มันกำแหง วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน รับรองไม่มีใครช่วยแกแน่นอนนังลูกคนใช้ นังชั้นต่ำ!”
กานดาเกลียดชังเด็กสาวจับใจ เพราะสามีแอบลักลอบได้เสียกับคนใช้ในบ้านจนตั้งท้อง แถมยังคบกันก่อนที่ไอศูรย์จะมาแต่งงานกับเธอ สร้างความเจ็บใจให้เธอเป็นที่สุด แม่สามีคอยปิดบังเรื่องนี้มาตลอด จนเธอมารู้และจับได้ในตอนหลัง จึงโกรธแค้นชิงชังสองแม่ลูกยิ่งกว่าอะไร
ไอศูรย์ไม่ยอมขับไล่สองแม่ลูกไป ขนาดเธออุตส่าห์สร้างเรื่องว่าปิยฉัตรมีชู้ ลูกคุณหนูไฮโซอย่างเธอเหรอจะยอมให้สามียกย่องเชิดชูคนใช้ แถมใช้สามีร่วมกับคนรับใช้ในบ้าน
... แต่อย่างไรเสีย เธอทำทุกอย่างสำเร็จ เมื่อไอศูรย์เข้าใจผิดว่าปิยฉัตรแอบลักลอบหลับนอนกับอดิศรน้องชายคนเดียว ทำให้สามีไม่เชื่อใจปิยฉัตรอีกต่อไป นึกสงสัยว่าลูกในท้องเป็นลูกใครกันแน่
“ได้เลยค่ะคุณแม่ นังพิณแกวอนหาเรื่องดีนัก รักมากใช่ไหมต้นกุหลาบพวกนี้ ฉันจะช่วยทำให้มันตายตามแม่แกไป”
วิธาดาใช้ไม้ทุบตีพิณทิราแทนเมื่อน้องสาวนอกไส้พยายามห้ามปรามปกป้องต้นกุหลาบที่บุพการีของอีกฝ่ายรักเสียหนักหนา
“โอ๊ยๆๆ คุณวิ อย่าค่ะๆ”
พิณทิราเอามือจับไม้ที่วิธาดาใช้ฟาดต้นกุหลาบเมื่ออีกฝ่ายออกแรงเหวี่ยงเธอจึงล้มลงไม่เป็นท่า
วิธาดาหันไปสบตากับมารดา ก่อนจะเดินมาเหยียบมือของน้องสาวที่วางอยู่บนพื้นหญ้า
“โอ๊ย!!! คุณวิพิณเจ็บค่ะ”
พิณทิราร้องด้วยความเจ็บใบหน้าเหยเก พยายามดึงมือออกแต่ยิงดึงยิ่งเจ็บ
“คราวหลังจำเอาไว้ว่าแกอย่ากำแหงกับฉันอีก นังลูกคนใช้ ถึงแกจะเป็นลูกอาดิษ แต่แม่แกเป็นคนใช้ชั้นต่ำ จำใส่กระโหลกกลวงๆ ของแกว่าอย่าได้คิดมาออดอ้อนคุณพ่อให้ฉันกับคุณแม่เห็นอีก ไม่งั้นแกเจอดีแน่”
วิธาดายกเท้าที่เหยียบมือของพิณทิราออก แล้วนั่งยองๆ กระชากเส้นผมของน้องสาวผู้น่าสงสารให้แหงนใบหน้ามอง
กานดานั่งลงเคียงข้างบุตรสาวใช้นิ้วจิ้มกลางหน้าผากเด็กสาวอย่างเกลียดชัง
“แกจำใส่กะโหลกกลวงๆ ของแกเอาไว้ว่าแกมันลูกคนใช้ พ่อแกไม่ดูดำดูดี ถ้าคุณไอศูรย์ไม่ขอเอาไว้ ป่านนี้ฉันเฉดหัวแกออกไปจากบ้านแล้ว”
กานดาผลักหัวพิณทิราอีกหลายครั้ง เธอร้องไห้ระงม
สองแม่ลูกลุกขึ้นยืน มองสบตากันอย่างสะใจ ก่อนที่คนเป็นแม่จะพยักหน้าด้วยแผนการมาดร้าย
“แกจะนั่งร้องหาสวรรค์วิมานอะไร ไปซื้อของหน้าปากซอยให้ฉันด้วย ฉันอยากกินส้มตำไก่ย่าง”
แพิณทิรานึกสงสัยว่าคนทั้งสองนิยมกินส้มตำตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ก็มิอาจขัดใจได้
“ค่ะคุณวิ” หญิงสาวจำต้องรับคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“นังนวลมาพอดี เดี๋ยวฉันให้แกไปรีดชุดของฉันแทน เพราะนังพิณมันไม่ยอมไปรีด”
พิณทิราหันไปมองหน้านวลที่มองเธออย่างไม่เป็นมิตร เธอกำมือจิกเข้าหากันแน่น
“อุ๊ย! ต๊ายตาย นวลบอกพิณเค้าแล้วนี่คะ ยังไม่ไปรีดอีกเหรอคะ”
นวลแสร้งอุทานจีบปากจีบคอพูด เอามือทาบอกมองพิณทิราอย่างสมเพช
“พี่นวลยังไม่ได้บอกพิณ เผียะ!!!”
วิธาดาเข้าตบใบหน้าของพิณทิราฉาดใหญ่ ก่อนใช้นิ้วจิ้มกลางหน้าผากแรงๆ
“พูดแล้วยังมาเถียงอีก เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ นังนี่ นังนวลบอกว่าบอกแล้ว ก็บอกแล้วสิ แต่แกหูหนวกไม่ทำตามเอง”
วิธาดาไม่สบอารมณ์ที่อีกฝ่ายโต้เถียง จึงเข้าตบตีทำร้ายทันที
“แต่คุณวิ พี่นวลยัง” พิณทิราพยายามอธิบาย
“เอะ! นังพิณ แกอยากโดนตบอีกใช่ไหม”
วิธาดาตวาดลั่น จนพิณทิราถอยหนีด้วยความกลัว ก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อคิดได้ว่าอะไรเป็นอะไร เธอพูดไปก็ไร้ความหมาย
“นี่เงินไปซื้อส้มตำกับไก่ย่างหน้าปากซอยมาให้ฉันกับคุณแม่ เร็วๆ ถ้าช้าแก โดนอีกแน่”
วิธาดาโยนเงินใส่หน้าหญิงสาว เข้าไปกอดมารดาหัวเราะชอบใจ ก่อนเดินเข้าบ้านพร้อมกัน
นวลหันมองพิณทิราอย่างหยามเหยียด เดินตามผู้เป็นนายเข้าบ้านไปไม่ห่าง ปล่อยให้ร่างบอบบางทรุดนั่งลงอย่างอ่อนล้าทั้งกายใจ
ดวงตาสีสนิมมองด้วยความรู้สึกสงสารวูบหนึ่ง เขามองตามร่างว่าที่ “เจ้าสาว” เข้าไปในบ้านนิ่ง สายตาดุดันจนน่ากลัว ความนึกคิดเกินคาดเดา