ตอนที่ 4 จะเอาคนนี้

1265 Words
งานสัมมนาเชิงวิชาการของสูตินรีแพทย์ทั่วประเทศ ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมเดอแกรนด์เวียงพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ หนึ่งในสาขาโรงแรมของครอบครัวขวัญข้าว โรงแรมสาขานี้สร้างได้ยิ่งใหญ่อลังการ ถูกออกแบบและตกแต่งออกมาในสไตล์ล้านนาโดยพ่อเลี้ยงของเธอนั่นเอง ตัวโรงแรมตั้งอยู่ท่ามกลางสวนป่าร่มรื่น ความงดงามที่มีสไตล์แบบนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้หลั่งไหลมาพักผ่อนจนยอดจองห้องพักแทบจะเต็มตลอดทั้งปี พิชญะ ราวิน และพริมา เดินทางมาถึงโรงแรมแห่งนี้ในตอนค่ำ หมอหนุ่มสาวจึงแยกย้ายกันเข้าห้องพักผ่อน เพื่อที่พรุ่งนี้ต้องตื่นขึ้นมาเข้าร่วมงานสัมมนาตั้งแต่เช้า พิชญะ หมอหนุ่มรูปหล่อกำลังเร่งฝีเท้าออกจากห้องพักเพื่อตรงไปยังลิฟต์ ใกล้เวลาเปิดงานสัมมนาเข้าไปทุกที แต่เขาดันนึกขึ้นได้ว่าลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในห้องพัก จึงต้องขึ้นมาเอาและต้องเดินอย่ารีบเร่งแบบนี้ ระหว่างเดินผ่านทางแยกของชั้น หมอหนุ่มก้มลงมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือเรือนหรู เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินตรงออกมาจากทางแยกนั้นและเงยขึ้นมาจากการดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของเธอเช่นกัน ด้วยความเร็วของจังหวะการเดินของคนทั้งคู่จึงไม่มีฝ่ายไหนเบรกได้ทัน สองร่างปะทะกันดังโครม ร่างสูงใหญ่ของหมอหนุ่มแทบไม่ไหวติง แต่ร่างบางของหญิงสาวผู้โชคร้ายคนนั้นเสียหลักกำลังจะหงายหลังล้มลง เร็วเท่าความคิดหมอหนุ่มขยับกายเอื้อมแขนแกร่งเข้าคว้าร่างเธอเข้าสู่อ้อมกอดแน่นด้วยความตกใจ หนุ่มสาวทั้งคู่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ในอ้อมกอดของกันและกัน กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อนๆ เป็นกลิ่นที่เธอชอบทำเอาเธอหลับตาเคลิ้มฝัน เช่นกันกับหมอหนุ่ม กลิ่นน้ำหอมที่อ่อนหวานจากตัวเธอที่แนบชิดอยู่ที่อกแกร่งนั้นก็ทำให้เขาแอบสูดลมหายใจเสียเต็มปอดเหมือนกัน เพียงชั่วอึดใจทั้งคู่ก็รู้สึกตัว จึงดีดตัวออกจากกันอย่างรวดเร็วเหมือนโดนของร้อน หนุ่มสาวเอ่ยขอโทษกันเลิ่กลั่ก แต่แล้วเมื่อทั้งคู่ได้มองหน้ากันก็ต่างตกตะลึงและตกอยู่ในภวังค์อีกรอบ หนุ่มสาวใจเต้นรัวแรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงนี้ หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขาสวยหวานซ่อนเปรี้ยว ดวงหน้ารูปไข่ตกแต่งอย่างดี ดวงตากลมโตฉายแววดื้อรั้นเอาแต่ใจ จมูกโด่งรั้นเอาเรื่อง ปากกระจับอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดนั้นน่าจับมาบดจูบให้หนำใจ ผมยาวสีน้ำตาลทองถึงกลางหลังดัดม้วนลอนสวยที่ปลายผมยิ่งเพิ่มความน่าหลงใหล เธอดูสวยเฉี่ยวทันสมัยในชุดเดรสรัดรูปสีดำแบรนด์ดังแขนยาวเปิดไหล่โชว์ลาดไหล่ขาวนวลเนียน ขับผิวพรรณขาวสะอาดราวน้ำนมให้โดดเด่นทะลุสายตา หุ่นสะโอดสะอง อกเป็นอกที่เมื่อครู่หน้าอกแกร่งของเขาได้สัมผัสความนุ่มหยุ่นของเธอมาแล้ว และหมอคอนเฟิร์มเลยว่า นั่นน่ะของแท้แม่ให้มา เอวเป็นเอวคอดเว้าเร้าใจ สะโพกผายพองามรับกับขายาวเรียวสวย ไม่รู้ว่าเธอคนนี้เป็นคนหรือนางฟ้า เพราะงดงามน่าหลงใหลไปทุกสัดส่วน ทั้งหมดที่เป็นตัวเธอเป็นสเปคแบบที่เขาชอบทั้งสิ้น โคตรสวย เซ็กซี่ชิบเป๋ง หมอหนุ่มคิดในใจ ส่วนเธอนั้นก็ตกตะลึงตาค้างเพราะผู้ชายตรงหน้าคนนี้หล่อเหลาจนทำให้ใจเธอกระหน่ำรัว ร่างกายสูงใหญ่ เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแต่พอดี ไม่ใหญ่เทอะทะ จึงดูมีทั้งกล้ามเนื้อและสูงเพรียวมีเสน่ห์สุดๆหน้าตาต้องเรียกว่าก็หล่อขั้นเทพถึงจะถูก คิ้วเข้มหนาดกดำ ดวงตาคมกริบเป็นประกายมีพลังดึงดูด จมูกโด่งเป็นสันคม ปากหยักได้รูปสีสดมาก น่าจูบเป็นที่สุด คงเป็นเพราะว่าเขาผิวขาวมาก ปากถึงสีสดได้ขนาดนี้ โครงหน้ารูปไข่ที่มีหน้าผากกว้างและขากรรไกรโค้งมนได้รูปรับกับคางเหลี่ยมกำลังดียิ่งทำให้วงหน้าเขามีเสน่ห์ ทรงผมสไตล์ผู้ชายเกาหลีตัดด้านข้างสั้นข้างบนไว้ยาวกว่าเซทเป็นทรงเสยขึ้นเล็กน้อย ยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลาน่าค้นหา เสื้อผ้าที่เขาใส่ก็สะอาดสะอ้าน เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีอ่อนลายทางยิ่งขับให้เขาดูโดดเด่นน่าจับมาฟัด “เอ่อ ขอโทษค่ะ พอดีรีบไปหน่อยเลยไม่ทันระวัง” “ผมก็ต้องขอโทษด้วยเหมือนกันครับ รีบเหมือนกัน ทำคุณเกือบล้ม เจ็บไหมครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงทุ้มด้วยความห่วงใย พลางมองสำรวจร่างกายเธอว่าได้รับบาดเจ็บที่ตรงไหนหรือไม่ แต่ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นความงดงามของวัยสาวที่น่าดึงดูดใจอย่างชัดเจน จนหัวใจหนุ่มเต้นรัวราวหนุ่มน้อยเพิ่งเริ่มริรัก “ไม่เจ็บค่ะ ขอบคุณนะคะ” “ไม่เป็นไรครับ เราไปกันเถอะ” ชายหนุ่มเดินไปกดเรียกลิฟต์ โดยมีหญิงสาวก้าวเดินตามไปติดๆ เมื่อทั้งคู่เข้าไปอยู่ในลิฟต์แล้ว ต่างก็แอบเหล่มองกันในเงาสะท้อนของประตูลิฟต์ หมอหนุ่มรวบรวมความกล้ากำลังจะเอ่ยปากชวนคุยเพื่อทำความรู้จัก ก็มีสายเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์มือถือของเธอ เมื่อรับสายเธอก็รีบร้อนออกจากลิฟต์ไป ก่อนเธอออกจากลิฟต์ เธอหันมาสบตาและส่งยิ้มหวานมุมปากให้เขาเล็กน้อยและเขาก็ยิ้มตอบรับรอยยิ้มของเธอ หมอหนุ่มแอบเสียดายที่ยังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลย เธอก็มีอันให้ต้องรีบร้อนออกจากลิฟต์ไปเสียแล้ว เขาตั้งใจว่าจะต้องตามหาเธอให้เจอให้ได้ เขาสงสัยว่าเธออาจเป็นหมอจากโรงพยาบาลใด โรงพยาบาลหนึ่งที่มาร่วมสัมมนาในครั้งนี้ เพราะทั้งเธอและเขากดลิฟต์ลงมาในชั้นเดียวกัน ซึ่งชั้นนี้เป็นชั้นที่มีห้องสัมมนาขนาดใหญ่ ที่มีการจองเปิดสัมมนาแค่คณะหมอสูติฯเท่านั้น แบบนี้เขาคงได้เจอเธอข้างในห้องสัมมนาอีกเป็นแน่ ตอนนี้ก็แค่ต้องมองหาเธอให้เจอ เขาสาบานเลยว่าเขาจะไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปแน่นอน เช่นเดียวกันกับขวัญข้าว ใจจริงเธอตั้งใจจะรุกคืบเขาให้มากกว่านี้ แต่เธอดันมีภารกิจต้องไปกล่าวต้อนรับคณะหมอที่มาสัมมนาเสียนี่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มั่นใจว่าจะตามหาเขาได้ไม่ยากในภายหลัง เพราะเขากดลิฟต์ลงมาชั้นนี้ ซึ่งเป็นชั้นที่มีห้องสัมมนาที่มีแค่คณะหมอสูติฯเท่านั้นที่เปิดใช้ห้อง แน่นอนดูจากการแต่งกายเขาต้องเป็นหนึ่งในหมอสูติฯ ที่มาเข้าร่วมสัมมนาเป็นแน่ ก่อนเธอออกจากลิฟต์ เธอจึงทำใจกล้า หันไปสบตาและส่งยิ้มหวานมุมปากให้เขา และเขาช่างน่ารัก ยิ้มตอบรับรอยยิ้มของเธอเสียด้วย เดี๋ยวเจอกันนะคะ คุณหมอ ครั้งนี้คุณไม่รอดเงื้อมมือขวัญข้าวคนนี้แน่ ไม่ว่ายังไงต้องเอาหมอมาทำสามีให้ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD